อ่านพบในกระทู้ “พันทิป”
คน (ดี) ไม่รับอะไรจากใครเปล่าๆ
ภาษิตจีน :ได้รับพระคุณ (น้ำ) หนึ่งหยด พึงกรุยลำธารชดใช้
ทำได้อย่างนี้ ท่องเที่ยวได้ทั่วยุทธภพ
ผู้คนยินดีต้อนรับเสมอ
และเมื่อวาน (๖ กพ.๖๓) เพจเฟซบุ๊ก Chinese Embassy Bangkok ได้โพสต์ข้อความแถลงการณ์
ความบางตอน ว่า……
ในระหว่างการต่อสู้กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในช่วงฤดูหนาวนี้
ประชาชนจีนได้รับการสนับสนุนและความช่วยเหลือที่ล้ำค่าจากวงการต่างๆ ของประเทศไทย รู้สึกอบอุ่นใจอย่างยิ่ง
(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงมีพระราชสาส์นแสดงความห่วงใยไปยัง ฯพณฯ สีจิ้นผิงประธานาธิบดีของจีน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี
พระราชทานเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ อาทิเช่น หน้ากากอนามัย ถุงมือยาง เสื้อกาวน์กันน้ำและยารักษาโรคให้กับฝ่ายจีน
ฝ่ายจีนเราซาบซึ้งใจอย่างยิ่งและขอขอบพระคุณยิ่ง
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ส่งสารให้กำลังใจถึงฯพณฯ หลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน
ฯพณฯชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งสารแสดงความห่วงใยถึง ฯพณฯ ลี่ จ้านซู ประธานสภาประชาชนแห่งชาติจีน
คณะรัฐมนตรี ผู้บริหารระดับสูงของรัฐบาลและส.ส.หลายท่าน ให้กำลังใจสนับสนุนให้ประชาชนจีนผ่านพ้นวิกฤตนี้
(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});
ผ่านช่องทางการส่งสาร โทรศัพท์ วิดีโอและการแสดงออกในลักษณะต่างๆ เป็นต้น
ทั้งยังแสดงความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้า
และส่งความปรารถนาดีให้ประชาชนจีน เพื่อประสบชัยชนะในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสฯนี้
พี่น้องชาวไทยจากทุกแวดวงอาชีพต่างก็แสดงออกถึงน้ำใจในการช่วยเหลือชาวจีนด้วยการบริจาคเงินและสิ่งของต่างๆ
นายกประยุทธ์ จันทร์โอชา และประชาชนชาวไทย โพสต์คลิปวิดีโอ ทำป้ายสโลแกน เพื่อให้กำลังใจแก่ประเทศจีน พร้อมทั้ง ให้กำลังใจชาวอู่ฮั่น
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ สร้างแรงบันดาลใจและความรู้สึกที่ลึกซึ้งให้ชาวจีน ประชาชนชาวจีนจะไม่ลืมพี่น้องชาวไทยที่ให้ความช่วยเหลือในยามคับขันอย่างทันท่วงที
ความรู้สึกรักใคร่และมิตรภาพที่ลึกซึ้งของฝ่ายไทยในยามทุกข์ยากนั้น ได้อธิบายอย่างชัดเจนถึง “การลงเรือลำเดียวกัน” ระหว่างจีนกับไทย สองประเทศ จะร่วมมือกันฟันฝ่าวิกฤตการณ์
(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});
จะร่วมเฝ้าสังเกตการณ์และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน สมดังคำกล่าวที่ว่า
“จีนไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน”…………….
ในปัจจุบัน การแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ครั้งนี้สามารถป้องกัน ควบคุมและรักษาได้
รัฐบาลจีนและประชาชนชาวจีนกำลังทำงานกันอย่างเต็มที่ เพื่อต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสฯ และได้รับผลเป็นเชิงบวก
แม้ว่ามีผู้ติดเชื้อมีจำนวนค่อนข้างสูง แต่มีอัตราการตายจากการติดเชื้อที่ค่อนข้างต่ำมีเพียงแค่ 2% เท่านั้น
ซึ่งต่ำกว่าอัตราการตายจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H1N1 และโรคระบาดอื่นๆอย่างมาก
ปัจจุบัน จำนวนผู้ป่วยที่รักษาหายแล้วในจีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและเกินจำนวนผู้เสียชีวิต
ภายใต้การนำที่แข็งแกร่งของรัฐบาลจีน การทำงานร่วมกันของชาวจีน และการสนับสนุนจากประชาคมโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย
(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});
ประเทศจีนมีความมั่นใจ ความสามารถและเชื่อมั่นในศักยภาพที่จะประสบชัยชนะจากการต่อสู้กับโรคระบาดในครั้งนี้ได้
ฝ่ายจีน จะยึดมั่นในหลักการการเปิดกว้างและความโปร่งใส ร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับประเทศไทยต่อไป
ฝ่ายจีน หวังว่าจะประสานงานอย่างใกล้ชิดกับฝ่ายไทย เพื่อเอาชนะอุปสรรคและความยากลำบากต่างๆร่วมกัน ต้อนรับวันพรุ่งนี้ ที่สดใส
ครับ…..
อ่านละเอียดไปทีละคำ รสหอมหวานจะอวลในปาก-ในคอ และกำซาบซ่านดื่มด่ำถึงใจ
ทุกอย่าง มี ๒ ด้านเสมอ
มีคุณ ก็มีโทษ ,มีดี ก็มีร้าย ฉะนั้น ยามประสบดี ก็อย่าติดในดี, ยามประสบร้าย ก็อย่าติดในร้าย
วิกฤติ “ทุกวิกฤติ” ก็เช่นกัน……..
มันมีโอกาสเป็น “ไส้ใน” สำหรับใครทุกคน ที่ฟันฝ่าเข้าไปถึง อย่างที่จีนบอก
“…….เอาชนะอุปสรรคและความยากลำบากต่างๆ ร่วมกัน ต้อนรับวันพรุ่งนี้ที่สดใส” นั่นแหละ
(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});
“พรุ่งนี้ที่สดใส” คือไส้ใน
ไทยเรา ต้องพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส เพื่อไปถึงไส้ในนั้นให้ได้!
จากนี้ไป คนติดเชื้อจะเริ่มลดจำนวนลง เพราะจีนรวมทั้งไทยเรา ควบคุม-ป้องกัน “การระบาด” ด้วยรับผิดชอบสูง
โดยเฉพาะบ้านเรา
หน้าหนาวยังเจอ ๒๕-๓๐ องศา เจ้าไวรัสมา ร้อง โอ้ยยยย…กูตายดีกว่า!
เราอย่าเอาแต่จับเจ่า รอฟ้าดินบันดาลอย่างเดียว
ท่องเที่ยวหายไปเป็นแสนล้าน
ทุเรียนล้านลูกเคยส่งไปจีน กำลังจะกลายเป็นน้ำตาล้านหยดของชาวสวน
ก่อนถึงเมษา.ซึ่งตอนนั้น เจ้าไวรัสมีฤทธิ์ไม่ต่างไข้หวัด
ดังนั้น อย่ามัวจนจ่อแบบยอมจำนน ปล่อยให้กระแสไวรัสลากไปวันๆ แบบนี้
ต้องสร้างบรรยากาศ “เชื่อมั่น” ขึ้นมาเตะเจ้าความท้อแท้ เอาแต่ “โทษโรค-โทษรัฐ” ให้กระเด็นไป
ภาครัฐ-ภาคเอกชน ต้องระดมสรรพกำลังประเทศทุกภาคส่วน มาเทสมองและความคิดเห็น กองรวมกัน
นายกฯ ประยุทธ์ หรือรองฯ สมคิดนั่นแหละ เอาซะคน เป็นหัวเรือใหญ่
(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});
เสร็จแล้ว สังเคราะห์ออกมาเป็นมาตรการ “ประเทศไทย ด้วยมาตรฐาน Global Health Security Index อันดับ ๖ ของโลก”
ยิ่งเชิญประเทศ CLMV ถ้าได้ทั้ง ๑๐ อาเซียนยิ่งดี มาร่วมสร้างเชื่อมั่น ผ่านมาตรการ “คัดกรอง-ป้องกัน” ร่วมกัน
ผมว่า….
ด้วยมาตรฐานการแพทย์ การสาธารณสุขไทย ขนาด WHO ยังซูฮก-ยกนิ้วให้ และไม่ใช่แค่ ๑ ในเอเชีย
ระดับ ๖ ใน ๑๙๕ ประเทศของโลก ที่มีความเข้มแข็งในความมั่นคงด้านสุขภาพ เชียวนะ
และทั้งมีความพร้อมในการรับมือต่อการระบาดของโรคมากที่สุด!
นี่…ต้องใช้ “จุดแข็ง” ตรงนี้ เรียกความเชื่อมั่นตลาดโลกคืนมา
จีน คนของเขาเป็นพันล้าน
ป่วยระดับหมื่น-แสน ตายแค่ร้อย
โธ่……
“ปีใหม่-สงกรานต์” ในเมืองไทย “รถตำกัน” วันเดียว ยังตายเป็นร้อย!
พูดกันตรงๆ ถ้าไม่ตื่นข่าวและตื่นตูม และไม่ใช่สังคมยุคสื่อสารไอที
ป่วย-ตาย แค่นี้ ในจีน นอกจากถือว่า “เอาอยู่หมัด” แล้ว ยังถือว่า สิวๆสำหรับประชากรพันล้าน!
(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});
อย่างที่แถลงการณ์จีนบอก……
“ปัจจุบัน จำนวนผู้ป่วยที่รักษาหายแล้วในจีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและเกินจำนวนผู้เสียชีวิต”
นั่นคือ ถ้าเราและโลก สร้างบรรยากาศละลายโรควิตกจริต ด้วยกลัวเกินเหตุ
ทำให้คนกลับมามีความเชื่อมั่นในมาตรการควบคุม-คัดกรอง-ป้องกัน-รักษา
ภายใน ๓ เดือน ทุกอย่างจะกลับปกติ “เหมือนเดิม”!
กระทรวงท่องเที่ยว,ต่างประเทศ, คลัง, สภา-หอการค้า, สมาคมโรงแรม-ภัตตาคาร-ห้างสรรพสินค้า, สมาคมทัวร์-ไกด์ กระทั่งสมาคมแท็กซี่ รถเมล์
เหล่านี้ ต้องเชิญมารวมหัวคุยกัน
ที่ผมเห็นอยู่อัน แต่พอถูกพวกตีนราน้ำด่าหน่อย ก็ถอยเงียบ คือไอเดียที่ “ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ” เลขาฯส่งเสริมธุรกิจประกันภัย (คปภ.)
เสนอว่า ช่วงชาวโลก “จิตตก” ด้วยผวาไวรัส……..
มาตรการหนึ่ง ที่จะช่วย ทั้งกระตุ้นให้คนเข้ามาท่องเที่ยวในไทย
ทั้งช่วยสร้างความเชื่อมั่น โดยการันตีศักยภาพแพทย์-สาธารณสุขไทยให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติทุกคนไปในตัว
(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});
คือ ออกกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองให้ ถ้าเกิดเจ็บป่วยหรือเสียชีวิตจากไวรัสอู่ฮั่นขณะท่องเที่ยวในไทย คุ้มครองและจ่ายให้หมด
ผมว่า “หลักการ” เข้าท่า ทันการณ์ ทันสมัย มองในด้านจิตวิทยา การประกันภายไวรัสนักท่องเที่ยว
เท่ากับการันตีประเทศไทย ทำให้คนเชื่อมั่น “มาตรฐานสาธารณสุขไทย” มาตรฐานโลก ผมว่าเข้าท่า น่าจะทำ
อย่าไปคิดหยุมหยิม ถ้ามีเจ็บป่วย จะเงินที่ไหนไปจ่าย ไปคิดทำไม ก็ประเทศไทยของเรา ไม่มีเชื้อไวรัสไงล่ะ แล้วมันจะเจ็บป่วยได้ไง
ถึงเจ็บป่วย ก็บังเอิญคน-สองคน แค่ภาครัฐ-ภาคเอกชน แค่การท่าอากาศยานฯ ก็พอ
ลงขันเป็น “กองทุนกอบกู้เชื่อมั่นไทย”
แบบนี้ สมมุติเสียไปสิบ ได้ความเชื่อมั่นเป็นล้าน ด้านส่งออก ท่องเที่ยว คุ้มมั้ยล่ะ?
(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});
สรุป….
ภาครัฐ อย่าจับเจ่าไปวันๆ
ต้องระดมเอกชน ช่วยกัน “ตีรุก” ปลุกศักยภาพ “ประเทศและการแพทย์” สร้างโอกาส ให้ประเทศ
“น้ำนิ่ง” คือ “น้ำเน่า” ครับ!