30 เมษายน 2566 นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ หรือ ‘มาดามกระแต’ ผู้สมัคร ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จังหวัดเพชรบุรี เขต 1 เบอร์ 3 เปิดเผยถึงนโยบายของพรรค รทสช.ที่ตนใช้ชูเป็นนโยบายในการลงพื้นที่หาเสียงกับพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดเพชรบุรีว่า ดิฉันและทีมผู้สมัคร ส.ส.พรรค รทสช.จังหวัดเพชรบุรีทุกคนทุกเขตพร้อมดูแลรับใช้พี่น้องประชาชนชาวเพชรบุรีทุกคน ทุกกลุ่มเป้าหมายให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
โดยเฉพาะพี่น้องผู้สูงอายุ เด็ก คนพิการ ผู้ด้อยโอกาส ซึ่งถือเป็นกลุ่มเปราะบางที่มีรายได้น้อย นโยบายของพรรค รทสช.
จะปรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุให้เป็นคนละ 1,000 บาทต่อเดือน เพื่อแต่ละช่วงอายุให้เท่ากันทุกคน ในส่วนของกลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรสวัสดิการพลัส หรือที่ชาวบ้าน เรียกว่า บัตรลุงตู่ จากเดิมที่เคยได้ 300 – 400 บาทต่อเดือน จะเพิ่มให้เป็นเดือนละ 1,000 บาทในทันที ซึ่งเงินที่ได้จากบัตรสวัสดิการพลัสนี้ สามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนค่าครองชีพและแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของพี่น้องประชาชนได้เป็นอย่างดี
นางธิวัลรัตน์ ยังกล่าวถึง ในส่วนของพี่น้องกลุ่มเกษตรกรรายย่อย โดยเฉพาะชาวจังหวัดเพชรบุรีที่ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเพาะปลูก พรรค รทสช.จึงมีนโยบายลดต้นทุนให้แก่เกษตรกรรายย่อย ช่วยค่าเก็บเกี่ยวไร่ละ 2,000 บาท ไม่เกิน 5 ไร่ เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรได้ลดต้นทุนการผลิต ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้
นอกจากนี้ ดิฉันยังเล็งเห็นความสำคัญในการเสริมสร้างโอกาสให้เด็กและเยาวชนในพื้นที่ได้ที่มีความรู้ความสามารถได้เรียนในสิ่งที่ตัวเองถนัด และต้องการที่อยากจะเรียน โดยให้ทุนสนับสนุนการศึกษาในระดับวิชาชีพ อำเภอละ 100 ทุน ทุนละ 10,000 บาท เพื่อให้เด็กๆ ได้เดินตามความฝันของตัวเอง ขณะเดียวกัน ดิฉันยังได้เห็นความสำคัญในการส่งเสริมอนุรักษ์ศิลปะวัฒนธรรมท้องถิ่น
โดยเฉพาะเพชรบุรีเป็นจังหวัดที่มีศิลปินที่มีชื่อเสียง มีผลงานเป็นที่ประจักษ์อยู่หลายคน หลายสาขา จึงเป็นโอกาสดีที่จะผลักดันให้ศิลปินเหล่านี้ได้เป็นศิลปินในระดับโลก ซึ่งนโยบายเหล่านี้ดิฉันและพรรครวมไทยสร้างชาติได้คิดไว้ทั้งหมดแล้วและพร้อมที่จะทำทันทีเพื่อรับใช้พี่น้องชาวเพชรบุรีทุกคน
สำหรับ นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ หรือ ‘มาดามกระแต’ ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะภาคแรงงาน ในช่วงที่เคยเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ไม่ว่าจะเป็นการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจโควิดเชิงรุกและฉีดวัคซีนให้กับแรงงานในสถานประกอบการ รวมถึงเยียวยาเอสเอ็มอีและคนกลางคืน
ขณะเดียวกันยังส่งเสริมการจ้างงานสำหรับนักศึกษาจบใหม่ และส่งเสริมการจ้างงานคนพิการเชิงสังคมจังหวัดเพชรบุรี รวมถึงช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ด้อยโอกาส ช่วยเหลือประชาชนในถิ่นทุรกันดาร และบูรณาการช่วยเหลือเด็กและเยาวชนจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีงานทำที่โรงงานแคลคอมพ์ จ.เพชรบุรี อีกด้วย