“ทิพานัน” เผยยอดใช้สิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแล้ว 3.9 พันล้านบาท ชี้กระจายรายได้ในชุมชนกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมั่นคงตรงไปตรงมา

“ทิพานัน” เผยยอดใช้สิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแล้ว 3.9 พันล้านบาท ชี้กระจายรายได้ในชุมชนกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมั่นคงตรงไปตรงมา ย้ำ “พล.อ.ประยุทธ์” ดูแลสวัสดิการหลายมิติตรงกลุ่มเป้าหมาย เตือนเหลือเวลาอีกแค่2วัน ผู้ไม่ผ่านเกณฑ์เร่งยื่นอุทธรณ์

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง รายงานความคืบหน้าการใช้สิทธิภายใต้โครงการลงทะเบียน เพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี2565 ผ่านบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการฯ ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จภายในวันที่ 26 มีนาคม 2566 (ผู้มีสิทธิฯ) ณ วันที่ 28 เมษายน 2566 เวลา 13.00 น.

พบว่ามีมูลค่าการใช้สิทธิสะสมจำนวนกว่า 3,943.26 ล้านบาทจากผู้มีสิทธิฯ จำนวนกว่า 12.16 ล้านราย โดยส่วนใหญ่จะเป็นการใช้สิทธิในวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นจากร้านธงฟ้าฯ ในชุมชน จำนวน 3,632.95 ล้านบาท วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าตามที่กระทรวงพลังงานกำหนด จำนวน 252.33 ล้านบาท และวงเงินรวมค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ จำนวน 57.98 ล้านบาท ตามลำดับ

“เม็ดเงินที่มีการใช้จ่ายเป็นหนึ่งในหลักฐานเชิงประจักษ์ ถึงประสิทธิภาพโครงการ และความต้องการของพี่น้องประชาชน ที่สามารถช่วยเหลือแบ่งเบาภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน ได้จริง ตรงกลุ่มเป้าหมายที่ประชาชนต้องการให้รัฐการดูแล ซึ่งก็ยังมีอีกหลายกลุ่มที่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เข้าไปดูแลพัฒนาอีก

เช่นกลุ่ม SME กลุ่มการศึกษา กลุ่มนักลงทุน ซึ่งการดูแลและสนับสนุน ก็จะมีความแตกต่างกันไปในทุกๆ กลุ่ม เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี และพัฒนาสังคม ฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืนอย่างตรงไปตรงมาต่อไป ”น.ส.ทิพานัน กล่าว

น.ส.ทิพานัน กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการฯณ วันที่ 28 เมษายน 2566 เวลา 13.00 น. มีจำนวนทั้งสิ้น 1,261,446 ราย ขอให้รีบยื่นอุทธรณ์ภายในวันที่ 1 พ.ค.66 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายซึ่งเหลือเวลาอีกเพียง 2 วันเท่านั้น โดยสามารถ ดำเนินการผ่าน 2 ช่องทาง ดังนี้

1.ขออุทธรณ์ด้วยตนเองผ่านทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th ได้ตั้งแต่เวลา 06.00 น.ถึง 23.00 น.ของทุกวัน หรือ

2.ขออุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยฯ) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สำนักงานคลังจังหวัดทุกจังหวัด ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร หรือศาลาว่าการเมืองพัทยา ตามวันและเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน

โดยให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานรับลงทะเบียนเป็นผู้ดำเนินการยื่นอุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติซึ่งผู้ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติจะต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชนกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานรับลงทะเบียนก่อนดำเนินการยื่นอุทธรณ์

ทั้งนี้ เมื่อผู้ลงทะเบียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติได้ทำการยื่นขออุทธรณ์ตามขั้นตอนเรียบร้อยแล้ว ขอให้ไปติดต่อเพื่อขอตรวจสอบและ/หรือขอปรับปรุงแก้ไขข้อมูลในกรณีที่ข้อมูลไม่ถูกต้องให้ถูกต้องได้ที่หน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติที่ผู้ลงทะเบียนไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาด้วยตนเอง หรือเป็นไปตามเงื่อนไขที่หน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติกำหนด โดยจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 1 พฤษภาคม 2566ด้วย

Written By
More from pp
ลูกอ้วน…คือความน่ารัก หรือโรคที่แฝงด้วยอันตราย
คุณพ่อ คุณแม่ หลายท่านมักคิดว่า “ลูกอ้วน” คือเด็กน่ารัก น่ากอด แต่รู้ไหมว่าความน่ารักที่มาจากความอ้วนนั้นอาจไม่เป็นผลดี และหากปล่อยให้เด็กอ้วนต่อไปเรื่อย ๆ ในระยะยาวจะส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมามากมาย
Read More
0 replies on ““ทิพานัน” เผยยอดใช้สิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแล้ว 3.9 พันล้านบาท ชี้กระจายรายได้ในชุมชนกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมั่นคงตรงไปตรงมา”