ก็อยากจะบอกว่า……
“บ้านเมือง” ก็เหมือนคน มีช่วงเวลา “สุข-ทุกข์” หมุนวน-คละเคล้ากันไป
ไม่ต้องไปอินให้มากนัก เดี๋ยวมันก็เอาท์ไปเอง!
ผลมาจากเหตุ ทั้งเหตุและผลเป็นปัจจัยต่อกัน เพราะมีสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงเกิด
อย่างเช่น มีคนอยู่ไม่เป็นสุข มีคนชังชาติ การกัดกร่อน-บ่อนทำลายชาติ จึงเกิด
พระท่านเรียก “อิทัปปัจยตา” มีรัฐธรรมนูญ “ฉบับปัจจุบัน” ก็ย่อมมีคนอยากเขียนรัฐธรรมนูญ “ฉบับอนาคต”
เป็นเหตุให้มีบางพวกจ้องฉีก-จ้องล้ม เพื่อเขียนใหม่ เรียกว่า กินเงินเดือนหลวง
แต่งานคือ การตั้งหน้า-ตั้งตาบ่อนทำลายประเทศสนองคุณหลวง
หรืออย่างมีคนขาดคุณสมบัติที่จะสมัครสส. แต่อยากเข้ามาใช้ช่องทางนี้เดินแผน “ไชชอนแผ่นดิน”
ก็ด้วยรู้-ทั้งรู้ ว่าไม่มีสิทธิ์ แต่ก็ยังดันทุรังสมัคร เป็นเหตุสู่คดีความ การขึ้นโรง-ขึ้นศาล ตามมา
เผลอๆ ไม่เพียงถูกตัดสิทธิ์ อาจโทษอาญา ถึงคุก-ถึงตะราง ด้วยซ้ำ ซึ่งนั่นก็คือผลอีกด้านหนึ่ง
หรือตัวอย่างสดๆ ร้อนๆ มีคนเอาระเบิดไข่จิ้งจกไปซุกตรงนั้น-ตรงนี้
มันก็ต้องมีต้นคิดและคนจ้างเป็นตัวเหตุ ทำเพื่ออะไร ก็เพื่อหวังผลดิสเครดิสรัฐบาล
และทำให้กรุงเทพฯ-เมืองไทย เป็นเมืองไม่ปลอดภัย ให้คนตื่นกลัว เพื่อกรุงเทพฯ-เมืองไทย จะได้เป็นเมืองร้าง
เมื่อผู้คนไม่ออกไปไหน นักท่องเที่ยวไม่มีใครมา เศรษฐกิจการค้า การท่องเที่ยวพัง ประเทศก็พังพาบ
คิดอีกด้าน แบบนี้ มันก็ดีไปอีกอย่าง นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่มา หรือมาน้อยลงตอนนี้
“ดุลบัญชีเดินสะพัด” ที่ล้นทะลัก-ทะลายจะได้ลดลง เงินบาทจะได้อ่อนค่า สมใจพ่อค้าส่งออกหน่อย ผู้ว่าฯแบงก์ชาติจะได้หายปวดหัว “ชั่วคราว”!
เนี่ย เหล่านี้ …….มันเป็น “เหตุสร้างผล” และ “ผลสร้างเหตุ” หมุนวนกันไปไม่สิ้นสุด
เว้นแต่ เรา “ตัดวงจร” ให้มันขาดจากกัน คือไม่ให้ “ตัวเหตุ-ตัวผล” สามารถสัมพันธ์ถึงกันได้
เรื่องนั้นๆ….ก็จะยุติ!
กรณีสร้างสถานการณ์ระเบิดให้คนตื่นกลัว วงจรแรกที่เราทุกคนต้องช่วยกันตัด คือ ต้องไม่กลัว
เมื่อตัดความกลัวออกไป สิ่งที่เข้ามาแทนตามธรรมชาติคือ “สติ”
เมื่อสติมา ปัญญาก็เกิด!
(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({
google_ad_client: “ca-pub-8615230610650868”,
enable_page_level_ads: true
});
ตอนนี้ ทุกคนจะรู้ ว่าประเทศคือ “บ้านเรา” เมื่อมีคนมาระเบิดบ้านเรา เราทั้งหลาย ควรทำอย่างไร?
ทั้งทางช่วยกันป้องกัน ทั้งทางช่วยกันสอดส่องมองหา…ไอ้หมาตัวไหนวะ ชังชาติแล้วมา “วินาศกรรม” บ้านกู?!
เมื่อเราไม่กลัว จะเหมือน ๑+๑ เป็น ๒ ไปเรื่อยๆ คนอื่นๆ ที่รักบ้าน-รักเมืองทั้งหลาย ก็ไม่กลัว
นั่นเท่ากับ ++++++ ต่อกันไปชนิดอินฟินิตี้ เป็นว่าคนทั้งบ้าน-ทั้งเมืองไม่กลัวและเตรียมมือ-เตรียมเท้า ไว้ต้อนรับ
แบบนี้ เท่ากับวงจรสัมพันธ์แห่ง “เหตุและผล” ถูกตัดขาด แล้วดูซิ…
การชังชาติวินาศกรรมเมือง ยังจะเกิดต่อได้อีกมั้ย?
ก็อย่างที่ทราบกัน เราอยู่ในยุค “ภาคีเครือข่าย” ด้วยสื่อสารสองทาง คือทั้งรับและส่ง
ดังนั้น การโพสต์และแชร์ข่าวสาร ใช้ดุลยพินิจ ชั่งผลดี-ผลเสีย ระหว่างช้าหน่อยรอชัวร์ หรือรัวๆไปก่อน แล้วค่อย “ขออภัย…” ทีหลัง
การสร้างสถานการณ์ส่งผลถึงความมั่นคง ปฏิบัติการมีความเชื่อมโยง “ตัดตอน” ระหว่างกันตามยุทธศาสตร์-ยุทธวิธี อย่างในกรณีระเบิดไข่จิ้งจกนี้
การโพสต์-การแชร์อะไรลักษณะโจงโปง-แจงแปง บางที จะ “เข้าทางโจร” หรือเป็นการ “ส่งสัญญาน” ให้โจรไหวตัวก็ได้
ฉะนั้น หัดโง่ หัดเซ่อ หัดไม่รู้ทัน ตามไม่ทัน ไว้บ้าง จะเป็นการ “ฉลาดตามหลัง” ที่ยังประโยชน์กว่า
คนเอาระเบิดมาซุกน่ะ แน่นอน ต้องตามจับ
แต่มันมาจากงาน “รับเหมา-ตัดตอน” เป็นทอดๆ จนยากสืบสาวว่าแต่ละชิ้นส่วนมาจากสายไหน จับได้ พอสาวไป ก็…ตัน!
ดังนั้น อย่าไปโพสต์ระบุตัว-ระบุชื่อ คนนั้น-คนนี้ จากสมมุติฐานและการเชื่อเอา เดี๋ยวจะเจอข้อหา หมิ่นประมาท ใส่ร้าย-ป้ายความ
ถึงบริสุทธิ์ใจ แต่การเป็นคดีความ โลกอาจลืมไปนานแล้ว แต่เรานั่นแหละไม่ลืม ต้อง “เทียวไล้-เทียวขื่อ” ขึ้นศาลอยู่คนเดียว
ดูการประกอบระเบิด สารเคมีที่ใช้ ตลอดถึงการตั้งเวลาให้ระเบิดทำงานที่สอดรับกัน
พวกนี้ ไม่ใช่ขี้ไก่ ขั้นขี้เป็ดมีคอก-ค่าย เลยเชียวแหละ!
ดังนั้น ปล่อยให้เจ้าหน้าที่เขานำแต่ละชิ้นส่วน-หลักฐาน เข้าสมการตามปูมข้อมูลด้วยกระบวนการสืบสวน-สอบสวนไปเรื่อยๆ ก่อนจะดีกว่า
อย่าไปเร่ง อย่าไปตั้งคำถามยัดปากเจ้าหน้าที่ แล้วเอาที่ถามเอง-เออเองมาละเลงเป็นตุ-เป็นตะ มันจะเละ
ทำเฉยๆ แล้วคอยจับตาสังเกต จะทำให้เห็นการขยับเขยื้อน-ขยุกขยิก “กลุ่มเป้าหมาย” ได้ง่ายกว่า
ผมเชื่อ ก่อนถึง ๓ กันยา. มันต้องมีอะไรดีๆ แพลมตาหนูมาให้เห็นแน่!
แต่มันก็ได้แค่เนี้ย จากอาศัย “หน้าใหม่” นอกสารบบลงมือโฉบเฉี่ยว เพราะยังไม่มีปูมให้เจ้าหน้าที่ได้ประกบแต่ต้น
รู้…ว่าใครตัวการ
แต่หลักฐานไปไม่ถึง มันจะเป็นประมาณนี้!
ว่าไปอีกที ตอนนี้ ที่สหรัฐฯ สถานการณ์ร้ายกว่าเราเป็นร้อยเท่า
ฝรั่งขาวกราดไรเฟิลใส่กลุ่มคนนับพันจากลานจอดรถและในห้าง “วอลมาร์ต” ที่เท็กซัส ตายหลายสิบ เมื่อเช้าวันเสาร์
นัยว่า เหตุเหยียดผิว ฝรั่งขาวเกลียดชังฝรั่ง “ฮิสปานิก”
“ฮิสปานิก” คือชาวสเปนที่เข้าไปตั้งรกราก เป็นอเมริกันชนอยู่ในสหรัฐฯ
ซึ่งนับวันฮิสปานิกจะขยายพันธุ์ครอบคลุมอเมริกันในด้านสังคม ภาษา การกิน-การใช้ชีวิต มากขึ้นเรื่อยๆ
เหมือนในบ้านเราตอนนี้ ที่คนไทย “ไม่งอก” ในขณะที่คนเขมร-พม่า-จีน-แขก งอกครอบคลุมยึดครองเศรษฐกิจ-สังคมประเทศมากทุกขณะ
และก่อนหน้านี้ ที่สหรัฐฯ ก็มีการฆ่ากันแบบกราดยิงหลายหน ล่าสุด ในเทศกาลอาหารที่แคลิฟอร์เนีย
วัยรุ่นกราดยิงไป ๓ ศพ เป็นเด็กซะ ๒!
๒๐ กว่าศพที่เท็กซัสเมื่อวันเสาร์ เลือดยังไม่ทันแห้งดี ที่เมืองเดย์ตัน รัฐโอไฮโอ เช้ามืดวันอาทิตย์ มือปืนกราดยิงตายไปอีก ๑ ร่องแร่งต้องหามไปนอนโรงพยาบาลอีก ๑๖ คน ส่วนมือปืน..เดด!
จะว่าไปแล้ว ในบ้านเมืองคนอื่น ถ้าเราไปดูหรือสนใจข่าว จะเห็นว่า ระเบิดไข่จิ้งจกบ้านเรา เป็นเรื่องธรรมชาติของบ้านเมืองที่มีคนชังชาติ ก็เหมือนมีร่องกระดาน ย่อมมีตัวเห็บ-ตัวเลือดคอยกัดก้น จะต้องขยายให้มันใหญ่ แล้วก็ตกอก-ตกใจกันเองไปเพื่ออะไร
ฝรั่งเศส ที่ยกยอก้นกระดก ไปดูที่ถนนชองเซลิเซเดี๋ยวนี้ซี เหมือนกรุงพนมเปญก่อนแตกสมัย “นายพลลอนนอล” เป็นนายกฯ ประมาณนั้นเลย
เอะอะไปแอ๊กถ่ายรูปกะหอไอเฟล ไม่ถ่ายคู่กับพวกยิปซี พวกมุสลิมอพยพ พวกขอทานที่นอนเกลื่อนถนน และฟุตบาธเวิ้งว้างว่างนักท่องเที่ยวมาดูบ้างล่ะ
และตามถนน ตามมุมตึก เด็กหนุ่มที่ถูกเกณฑ์มาสวมเครื่องแบบ ยืนถือเอ็ม ๑๖ หน้าตาตื่นกลัว
ไม่ไปถามกันล่ะว่า…ดินแดนเสรีภาพ ทำอะไรก็ได้ แต่ทำไม รุ่นใหม่แซ็ง-ฌุสต์ ต้องเป็นทหารด้วยล่ะ?
ก็อยากจะบอกว่า ไม่ต้องตื่นกลัวอะไรกันไป ใช้ชีวิตกันไปตามปกติ เชื่อมือประยุทธ์เถอะ
ถ้าไปดูบ้านเขาแล้วย้อนกลับมาดูบ้านเรา ทุกคนจะร้อง อาาา…สวรรค์ คือเมืองไทย
เมืองไทยที่บางนักการเมือง เมื่ออดกินเมือง ก็นั่งแช่ง-นั่งด่าบ้านเมืองตัวเองอยู่นี่แหละ!
เออ..จำได้ว่า พุธที่ ๗ สิงหา.นี้ ………ที่กกต.ขอเลื่อนส่งคำค้านคดี “หุ้นสื่อ” ธนาธรไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อ ๒๓ กค.นั้น
๗ สค. “ครบกำหนด” แล้ว น่าตามดูกันนะ ว่าศาลฯจะมีคำสังอย่างไรในวันนั้น น่าจะสนั่นกว่าเสียงระเบิดไข่จิ้งจกนะ
เรื่องเหตุการณ์…..ถ้าใครสังเกตในเชิงสถิติ จะเห็นว่า ถ้ามีเกิดในบ้านเราไม่ช้า-ไม่นาน เหตุคล้ายๆ กัน จะเกิดที่สหรัฐฯ
นี่…ตอนนี้ สหรัฐ “สะเดาะเคราะห์” ให้เราช่วงดาวย้ายในราศีสิงห์ไปเรียบร้อยแล้ว
ฉะนั้น ผู้กองปูเค็ม เจอทอน “เพื่อนเลิฟ” เดินสายไชประเทศอยู่จังหวัดไหน
สะกิดให้กลับมาอาบน้ำ-อาบท่ารอเวลาไปศาลได้แล้ว.