“ลุงตู่” ขึ้นปราศรัยเวทีกทม.ลั่นอย่าให้ใครมาเหยียบย่ำ-ทำลาย 3 แกนหลักปท.ไทย ปลุกรักประเทศ- รักชาติ -ศาสนา-พระมหากษัตริย์

"ลุงตู่" ขึ้นปราศรัยเวทีกทม.ลั่นอย่าให้ใครมาเหยียบย่ำ-ทำลาย 3 แกนหลักปท.ไทย ปลุกรักประเทศ- รักชาติ -ศาสนา-พระมหากษัตริย์ ยันทุกพรรคต้องทำให้ประเทศต้องสงบ บอกกรุงเทพฯเป็นดินแดนสวรรค์ อย่าทำให้เป็นนรก ย้ำไม่เคยรังเกียจใคร ถ้าไม่ชอบก็หางบดูแลให้ เพราะเป็นคนไทย

เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2566 – เวลา 18.38 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวปราศรัยว่า สวัสดีกับพี่น้องขอกล่าวคำว่าสวัสดีพี่น้องที่รักทุกคน วันนี้เป็นวันแรกที่ได้มาพูดในกรุงเทพฯ ต้องขอบคุณทุกคนและบรรดาว่าที่ส.ส.กทม.ทั้ง 33 เขตฯ และฝ่ายเศรษฐกิจ รู้สึกมีความสุขที่ได้ยินพวกเราส่งเสียง ปรบมือแสดงว่า เราเชื่อมกันได้แล้ว เราเชื่อมใจกันได้แล้ว รักแล้วรักเลยหรือเปล่า เอาให้แน่นะ ต้องขอบคุณที่ทุกคนเสียสละเวลามานั่งตรงนี้ เพื่อมาคุยกับตน จริงๆ แล้วตนชอบคุยกับคน ไม่ได้อยากมีอารมณ์เสียอะไรทั้งวันไม่ใช่ วันนี้ดีใจที่ได้มาเจอพ่อแม่พี่น้องชาวกรุงเทพฯ แม้จะมาไม่ครบก็ตาม

แต่นี่ถือเป็นส่วนหนึ่งของประชากรที่สำคัญของประเทศคือในเขตกรุงเทพฯ และวันนี้อยากจะเรียนว่ากรุงเทพฯ เป็นหน้าบ้านของประเทศไทยใช่หรือไม่ และเป็นมหานครแห่งหนึ่งของโลกที่คนต่างประเทศคนทั้งโลกรู้จักอยากมาเยี่ยมประเทศไทย

สิ่งที่เรามีอยู่แล้วเราได้รับการันตีมากมาย เช่น กรุงเทพเป็นอันดับ 1 เมืองที่น่าพักผ่อนหย่อนใจมากที่สุดในเอเชียแปซิฟิก 6 ปีซ้อน นี่คือกรุงเทพฯของเรา ที่คนอยากมาเที่ยวมากที่สุด เป็นเมืองน่าท่องเที่ยวน่ามาทำงานที่สุดเป็นอันดับ 1 จาก 150 ทั่วโลก ไม่ใช่หมูๆไม่ใช่ง่ายๆ

สถานที่ท่องเที่ยวมีชื่อเสียงระดับโลกสถานที่โบราณสถานต่างๆ เรามีอารยธรรมมายาวนานที่สำคัญที่สุด เรามีรอยยิ้ม ยิ้มหวานๆ ทุกคน ยิ้มกว้างๆ เขาเรียกว่ายิ้มสยามนี่คือเสน่ห์ของคนไทยคนกรุงเทพฯ เราต้องไม่โมโหโทโส ไม่ทะเลาะเบาะแว้ง ขัดแย้ง ยิ้มอย่างเดียวยิ้มๆๆ และเราเป็นแหล่งกินแหล่งเที่ยวหลากหลาย

เราเป็นมหาอำนาจอาหารระดับโลก อาหารไทย ฝรั่ง จีน และญี่ปุ่น เขากินจนปากพอง แต่เขาก็พยายาม เวลาเจอแขกต่างประเทศมาถามว่าอาหารไทยอร่อยไหม เขาบอกว่าอร่อยแต่ เผ็ดไปนิดนึง ซึ่งตรงนี้พวกเราปรับได้อยู่แล้วความเผ็ด เพราะคนไทยเป็นคนเผ็ดร้อนใช่ไหม

ใครมาเหยียบย่ำใครมาทำลายไม่ได้ เหมือนที่เรารักประเทศของเรา รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์เราจะต้องเป็นคนที่เผ็ดร้อน ในการที่จะป้องกันแกนหลักของประเทศไทยไว้ให้ได้ทั้ง 3 ส่วนเราควรจะภูมิใจใช่ไหม

“ลองนึกดูนะฝันๆ หลับๆ ไปแล้วตื่นขึ้นมาเอ๊ะ ถ้าเราได้ส.ส. 33 เขตทั้งหมดนี้จะเป็นไงเนี่ย เราบางคนก็อย่าลืม คนบางคนชอบเรา แต่บางคนก็ไม่ชอบ แต่มีคนต้องการที่ไม่รู้จะเลือกใครเอามาให้ได้ ข้างบ้านใครไม่ออกมาเลือกตั้งไปเคาะประตูมาให้หมดออกมาเลือกตั้ง ทุกคนต้องมาใช้สิทธิ์ร่วมกัน ในการที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศไทยอะไรก็แล้วแต่” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ปีนี้เราจะได้ฉลองสงกรานต์อย่างสนุกสนาน หลังจากที่ว่างเว้นมา 2 ปีที่ผ่านมา และต่างชาติก็รอที่จะมาเที่ยวสงกรานต์ประเทศไทย อีก 6 วันจะฉลองสงกรานต์ ขอให้รักษาตัวกันให้ดีๆบางคนกลับบ้างบางคนอยู่กรุงเทพฯ

แต่เป็นช่วงที่จะพีคที่สุดในรายได้ของเรา ซึ่งมีหลายอาชีพ หลายรายได้โรงแรม ร้านค้า สถานที่ท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยวเยอะแยะไปหมด ขายของอะไร ต้องซื่อสัตย์ต่อลูกค้า ไม่ใช่ขายครั้งเดียวแล้วเลิก วันก่อนตนไปเดินดูอุโมงค์หน้าวัดพระแก้ว ใครสร้างตรงนั้น ไอ้ลุงคนนี้ทำอะไรไว้เยอะแยะ ถ้าสังเกตด้วยตาฟังด้วยหูจะรู้ว่า มันเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ขอให้พวกเรารอรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ วันนั้นการที่เราบริหารจัดการได้อย่างดีมีคุณภาพในการนำพาประเทศผ่านวิกฤตโควิด-19 ของเราถือว่าเป็นประเทศชั้นนำในโลกใบนี้ได้อย่างปลอดภัย เสียหายน้อยที่สุดและเราสามารถเปิดประเทศได้เร็วที่สุด เพราะใคร เพราะลุงตู่เป็นคนตัดสินใจ จากวันนั้นมาถึงวันนี้คนเข้ามาในประเทศอีก 10 ล้านคนแล้วรายได้เพิ่มขึ้น

ดังนั้น อยากได้ผู้นำที่ทำแบบนี้ได้ไหม ทุกประเทศเขาเลือกผู้นำจากตรงไหน เขาเลือกจากผู้นำที่ให้ความสำคัญประเด็นความมั่นคง ถ้าประเทศชาติไม่มั่นคงแล้ว มันจะมั่งคั่งได้อย่างไร ใครจะกล้ามาลงทุน ไม่มีหรอก แต่นี่คนเดิมนะ ถ้าบ้านเรายังเละๆ ทะเลาะเบาะแว้งกัน

ทั้งนี้ เรามักจะมองอะไรที่ใกล้ตัว ตนไม่ว่า แต่เราก็ต้องมองไกลตัวด้วย ตนบริหารมาหลายปี นึกถึงคนทุกคนตื่นเช้ามาไม่ได้นึกถึงตัวเองเลย ยังดีที่ไม่ลืมอาบน้ำแปรงฟัน นอกนั้นคิดทั้งวัน ทั้งคืนไอ้นี่เอาอย่างไรไอ้นั่นเอาอย่างไร ไอ้นี้ดีไม่ดี แล้วก็ต้องตรวจสอบว่าทำได้หรือไม่กฎหมายว่าอย่างไร ต้องระมัดระวังแบบนี้ถึงจะเดินหน้าได้ เพื่อให้ทุกคนยอมรับในเรื่องการเงินการคลังของเรา เงินบาทยังแข็งค่าอยู่

ฉะนั้นเราต้องการผู้นำที่มีวิสัยทัศน์หรือเปล่ามองอนาคตไหม อนาคตคืออะไร อนาคตมีลุงตู่ อยู่ด้วย จะทำตรงนี้ให้ดีที่สุด เบอร์อะไร 22 ใช่ไหม เป็นทหารมา 30 กว่าปีไม่เคยมีความสุขเท่าวันนี้ เพราะอยู่ในกองทัพตั้งแต่เด็กจนโต เป็นผู้บังคับบัญชามา มีระเบียบวินัยในกองทัพ ทหารทุกคนตอนรักเหมือนลูกเหมือนหลาน ทั้งนี้ ประเทศไทยเป็นดินแดนแห่งความสงบสุข แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ แผ่นดินนี้เป็นแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์จำคำพูดของตนไว้

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า วันนี้การค้าของเราเราตั้งเป้าประเทศไทย ควรจะมีรายได้ เพิ่มขึ้นโดยต้องคิดใหม่ทำใหม่ประเภทชักเงินกระเป๋าซ้ายใส่กระเป๋าขวา ทำอะไรไม่ได้ ทั้งสิ้นเราต้องหาเงินเติมกระเป๋าซ้ายให้มากขึ้นด้วยกันลงทุนใหม่ทั้งหมด

ทั้งนี้ วันนี้เรามีทีมงานเยอะแยะไปหมดที่ไว้ใจได้ทำงานด้วยกันมาหลายปี และวันนี้เรามี พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มีทุกระดับทั้งคนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ ประเทศไทยต้องเดินไปพร้อมกันใช่ไหม คนเราต้องเดิน 2 ขาหรือเปล่า คนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ต้องเดินไปด้วยกัน เรามีทีมเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง

“สิ่งสำคัญที่สุดคุ้นเคยกับการทำงานร่วมกันกับตน ถามว่าผมไปโอเวอร์แอคอะไรกับพวกท่านหรือเปล่า ตนนอนคิดทุกคืน ผมนิสัยเสียอย่างหนึ่ง กลางคืนไม่ค่อยหลับ ตื่นกลางคืน ไม่เคยฝันถึงนั่นถึงนี่ ในหัวมีแต่งาน บางทีฝัน แต่ไม่ใช่เรื่องที่ทำ อยากฝันถึงคนอื่นก็ไม่ได้ภรรยาจะว่าเอา

บอกเสียก่อนนะว่าผมเป็นคนกรุงเทพฯ เกิดที่โคราชก็จริง แต่คุณพ่ออยู่กรุงเทพฯ ต้นตระกูลใหญ่อยู่กรุงเทพฯ อยู่บางขุนเทียน ตอนพายเรือข้ามน้ำเรียนหนังสือ อยู่คนละฝั่งนั่งเรือเล็กๆ ไปขึ้นรถไปโรงเรียน บางวันไปสายหน่อย เพราะเรือล่ม หนังสือเปียกหมด เพราะเรือหางยาววิ่งเยอะ คลองวัดไทร วัดหนังวัดสิงห์

สิ่งที่เป็นปัญหามากในวันนี้คือน้ำท่วม การจราจรคูคลองไม่สะอาด ขยะเต็มเมือง แต่ถ้าเราช่วยกันไม่ทิ้งขยะลงคลองเกลื่อนทั่วไป เราต้องปรับให้ได้ ผมจะแก้ระบบระบายน้ำในกรุงเทพฯ ให้ได้ อย่าคิดว่าเราสั่งได้ ต่อให้เป็นนายกฯมาจากไหนก็สั่งไม่ได้สั่งประชาชนไม่ได้ แต่ขอความร่วมมือและขอความเห็นชอบ

การจะสร้างถนนขุดท่ออะไรต่างๆถ้าถามก็ไม่ได้ขุด เพราะท่านคือพลังคนไทยทั้งประเทศรัฐบาล ทุกรัฐบาลต้องฟังเสียงท่าน ผมได้แต่ขอร้อง ผมไม่เคยทุบใครหรือสั่งใครผิดๆถูกๆ

กรุงเทพฯ เป็นดินแดนแห่งสวรรค์ อย่าทำให้สวรรค์เป็นนรกก็แล้วกัน เราต้องไม่ให้ใครทำแบบนั้นใช่ไหม นี่คือดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของท่าน พ่อแม่บรรพบุรุษพระมหากษัตริย์วันนั้นมาถึงวันนี้กี่ร้อยปีแล้ว เราเพียงแค่เสี้ยวหนึ่งที่ได้ทำ

ฉะนั้น ขอให้เชื่อมั่นพรรครทสช.ว่าจะทำงานอย่างเต็มที่ วันนี้ผมมาในฐานะนักการเมืองจะเอ่ยชื่อรัฐมนตรีไม่ได้ต้องขอโทษด้วยไม่ได้ตั้งใจ วันนี้ก่อนนอนก็ต้องเรียกตัวเองว่าลุงตู่ เพราะอยู่มานานก็ติดชื่อตัวเองอะไรก็แล้ว แต่ต้องพยายามระมัดระวังที่สุด

8 ปีที่ผ่านมา ผมได้เปลี่ยนไปมากในการทำงาน แม้แต่สวนเบญจกิตติ ผมก็มีส่วนร่วมในการผลักดัน ซึ่งจะไม่จบแค่นี้จะสวยงามกว่านี้ สิ่งที่คาดหวังไว้คือทำอย่างที่ต่างประเทศทำ ซึ่งเดี๋ยวค่อยว่ากันต่อไป

ย้ำว่าผมจะทำหน้าที่ให้ท่านมีสตางค์จ่ายให้ได้ เรื่องค่ารถไฟฟ้า จะสร้างพื้นที่เศรษฐกิจในพื้นที่รถไฟฟ้าผ่าน และแก้ปัญหาความแออัดในกรุงเทพฯ โดยขยายกรุงเทพฯออกไปสร้างถนนเชื่อมต่อสร้างพื้นที่เศรษฐกิจ เพื่อขยายการลงทุนออกไป ต้องเอาคนขยายเมืองออกไปสร้างชุมชนใหม่ขึ้น และให้มีรายได้ที่เพียงพอ

ผมเป็นคนแบบนี้ คิดมากว่าจะทำอย่างไรให้เขาดีขึ้น ถ้าเป็นเราจะเป็นยังไงนี่คือความรู้สึกที่มีมาตลอดตั้งแต่เด็กจนโต จนเป็นลุงตู่นี่แหละ ฉะนั้นนึกถึงคนอื่นมากๆอย่างน้อยก็ส่งใจให้เขา บางครั้งก็โบกมือทักทาย ใครจะทำอะไรกับผมก็ไม่เป็นไรหรอก ผมพร้อมที่จะรับทุกอย่าง ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดีรับผิดชอบให้อยู่แล้ว” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า การทำงานการเมืองพรรครทสช.ทำงานการเมือง ซึ่งจริงๆก็ทำแล้ว ทำเพื่อบ้าน เพื่อเมือง เพื่อคน 70 ล้านคน นั่นคือพรรคการเมืองทุกพรรคต้องทำแบบนี้ จะเลือกไม่เลือก ก็ต้องทำให้เขา จะมาบอกว่าไม่เลือกแล้วไม่ทำได้หรือไม่ได้ นี่คือสัญญาใจ

ผมไม่เคยรังเกียจ ถ้าไม่ชอบผม เกลียดผม ผมก็ไปเยี่ยมไปหา งบประมาณก็เอาไปให้ เพราะประชาชนเป็นคนได้ประโยชน์ เราต้องเผื่อแผ่แบ่งปัน ถ่ายทอดสิ่งต่างๆให้ลูกหลานของเรา ถ้าเขาลำบากวันหน้าจะอยู่กันอย่างไรประเทศไทยก็วุ่นวายอีก เราไม่ได้ทำเพื่อใคร แต่เราทำเพื่อคนไทย

“เขาบอกจะให้นู่นจะให้นี่ จะมาแข่งกันทำไม่ได้ ผมนี่แหละตัวจริง ผมจะหาเงินให้ได้ ต้องมีรายจ่ายประจำปี เพิ่มขึ้นถึงจะตอบสนองประชาชนได้ ไม่ต้องห่วง พวกเราระวังอยู่แล้ว ไม่ให้เศรษฐกิจเสียหาย และวันนี้ต้องดูกติกาโลกด้วย ถ้าเราไม่แข่งขันตามกติกาโลกก็เดินไม่ได้ และเราจะเป็นศูนย์กลางดิจิตอลอาเซียน

วันนี้ คนรอดูว่าเงินจะเข้าทางโทรศัพท์เมื่อไหร่ โอนแทบไม่ทัน แต่เรากำลังหาเติมให้ รอหน่อยแล้วกัน ส่วนสกุลเงินอะไรนั่น ทำได้ไม่ได้ก็แล้วแต่ แต่เราก็อยู่ด้วยกันมาหลายปี 8 ปี ต้องเห็นว่าอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง

วันนี้มีอย่างเดียวขอพวกเรารักกันมากๆรักสามัคคีมีพลัง ชาติใดไร้รักสมัครสมานจะทำ การงานสิ่งใดก็ไร้ผล จะพาประเทศย่อยยับอับจนประชาชนจะสุขอยู่อย่างไร จำไว้ นี่คือคำสัญญาจากรวมไทยสร้างชาติ บัตรกี่ใบ เบอร์อะไร ส.สเขตมีหลายเบอร์มี 2 ใบ ส.ส.เขตต้องเลือกตามเบอร์ส.ส.เขต ส่วนปาร์ตี้ลิสต์ต้องเบอร์ 22 เท่านั้น จำหน้าไอ้คนนี้ไว้ให้ได้ ไม่ลืมกัน แต่ไม่ต้องฝันถึงนะ

จริงๆ แล้ว ผมเขียนมาทั้งหมด แต่พอเจอพวกเราก็พูดไม่หมด แต่อยากให้ทุกคนมีอารมณ์ร่วมด้วยไม่ใช่มานั่งฟังแล้ว หน้าแหย่ๆ แต่นี่ไม่มีคนกลับบ้านเลยยอดเยี่ยมมีใครไปกั้นประตูไว้หรือเปล่าก็ไม่มี ผมสั่งแล้วอย่าทำแบบนั้นเด็ดขาด” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

Written By
More from pp
ทหารพราน..ออกปฏิบัติการเดินเท้า มอบเสื้อกันหนาวให้ผู้ป่วยติดเตียงแทนความห่วงใยจากกองทัพบก
5 พ.ย.63 กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศ ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูหนาว 2563 แล้วโดยอุณหภูมิต่ำสุดช่วงเช้าประกอบกับอุณหภูมิต่ำสุดในช่วงเช้าบริเวณประเทศไทยตอนบนลดลงอยู่ในเกณฑ์อากาศเย็นเกือบโดยทั่วไป
Read More
0 replies on ““ลุงตู่” ขึ้นปราศรัยเวทีกทม.ลั่นอย่าให้ใครมาเหยียบย่ำ-ทำลาย 3 แกนหลักปท.ไทย ปลุกรักประเทศ- รักชาติ -ศาสนา-พระมหากษัตริย์”