“ทิพานัน” แจ้งข่าวดีผู้ประกอบการ SMEs ท่องเที่ยวเมืองรอง “พล.อ.ประยุทธ์” ปลดล็อกอาคารลักษณะพิเศษ บังกะโล ตู้คอนเทนเนอร์ แพ บ้านต้นไม้ เต็นท์แบบเป่าลม ยื่นขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมได้ หวังบูมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ พร้อมคุมเข้มความปลอดภัย
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากกรณีที่คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566 ได้อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะและระบบความปลอดภัยของอาคารที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ…..
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการและผู้ให้บริการสถานที่พักโดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs ภาคธุรกิจขนาดย่อมและขนาดเล็กในเมืองท่องเที่ยวเมืองรองสามารถนำอาคารที่ มีรูปแบบพิเศษอื่นมาประกอบธุรกิจโรงแรมได้ เพื่อให้ธุรกิจที่พักโรงแรมในประเทศไทยสามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืน ซึ่งคณะกรรมการควบคุมอาคารได้เห็นชอบด้วยแล้ว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นชอบด้วยในหลักการ
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า สืบเนื่องจากปัจจุบันอาคารที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรมมีลักษณะของอาคารที่มีความหลากหลายมากขึ้น มีการนำอาคารตามประเภทอื่นมาให้บริการที่พักแก่ประชาชนเป็นการทั่วไป
เช่น การสร้างบังกะโลชั้นเดียวแบ่งเป็นห้อง ตู้คอนเทนเนอร์ แพที่อยู่ตามเขื่อนต่างๆ บ้านต้นไม้ เต็นท์แบบเป่าลม เป็นต้น ซึ่งลักษณะและโครงสร้างของอาคารไม่สอดคล้องกับอาคารที่จะนำมาประกอบธุรกิจโรงแรมตามที่กฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารกำหนด ทำให้ไม่สามารถขอรับใบอนุญาตให้ใช้อาคารเป็นโรงแรม เพื่อจะขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมได้
ดังนั้น กระทรวงมหาดไทยจึงได้เสนอ เพื่อให้อาคารที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรมดังกล่าวสามารถประกอบธุรกิจโรงแรมได้ ทั้งนี้ การขออนุญาตประกอบกิจการโรงแรมต้องเป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ด้วย เช่น เรื่องของที่ตั้งต้องเป็นไปตามกฎหมาย ไม่บุกรุกที่ป่า เป็นต้น
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า โดยร่างกฎกระทรวงฯนี้ได้กำหนดมาตรการเกี่ยวกับลักษณะของโรงแรมและระบบความปลอดภัยสำหรับอาคารที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรมให้มีความเหมาะสมต่อประเภทและขนาดของโรงแรม เพื่อใช้บังคับเป็นการทั่วไปสำหรับอาคารที่สร้างใหม่และอาคารประเภทอื่นที่จะนำมาใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม
โดยมีการกำหนดนิยาม “อาคารลักษณะพิเศษ” ให้มีความชัดเจนโดยหมายความว่า สิ่งที่สร้างขึ้นอย่างอื่นที่บุคคลอาจเข้าอยู่หรือเข้าใช้สอยได้เพื่อใช้เป็นโรงแรมที่มีลักษณะ แบบ รูปทรง สัดส่วนขนาดหรือเนื้อที่แตกต่างจากสภาพอาคารทั่วไป เช่น แพหรือสิ่งใดๆ ที่นำมาใช้ประกอบหรือสร้างให้เป็นรูปร่างลอยอยู่ในน้ำได้ เต็นท์ โครงสร้างแบบอัดอากาศ (bubble) ตู้คอนเทนเนอร์ เป็นต้น
พร้อมกันนี้ ยังได้กำหนดให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารที่จะใช้ประกอบธุรกิจโรงแรมต้องดำเนินการตามที่กำหนดในส่วนที่เกี่ยวกับโครงสร้างของโรงแรม ระบบป้องกัน และระงับอัคคีภัย ระบบทางหนีไฟ ลักษณะภายในและภายนอกของอาคาร และการนำอาคารลักษณะพิเศษมาใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม
ทั้งนี้ เพื่อจะได้มีมาตรฐานของอาคารและความปลอดภัยสำหรับอาคารลักษณะพิเศษที่นำมาประกอบธุรกิจโรงแรมอันจะทำให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินการได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารและกฎหมายว่าด้วยโรงแรม
“ถือเป็นอีกหนึ่งข่าวดีสำหรับผู้ประกอบการ และผู้ให้บริการสถานที่พักโดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เปิดกว้างให้เกิดแนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเป็นสำคัญ ตามนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความเข้าใจลักษณะการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไปจึงมีการปรับปรุงกฎหมายให้ สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของนักท้องเที่ยวด้วย
พร้อมเร่งขับเคลื่อนมาตรกระตุ้นการท่องเที่ยว ควบคู่ไปกับมาตรการดูแลความปลอดภัยพี่น้องประชาชน เกิดการจ้างงาน กระจายรายได้ในชุมชนเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของพี่น้องประชาชน”น.ส.ทิพานัน กล่าว