“สามารถ” ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยผู้สมัคร ขอโอกาสคนร้อยเอ็ดเลือกครอบครัว “พลซื่อ” ย้ำ อยากให้ร้อยเอ็ดเจริญต้องเลือก “ลุงป้อม” เป็นนายกฯ

5 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ขึ้นเวทีปราศรัยจังหวัดร้อยเอ็ด เขต 2 ช่วย นายเอกรัฐ พลซื่อ หรือ นาว ผู้สมัคร ส.ส. พลังประชารัฐ บุตรชายของ นายเอกภาพ พลซื่อ

โดยนายสามารถ กล่าวว่า ขอสวัสดีพี่น้องชาวร้อยเอ็ดทุกๆ ท่าน ที่ตนมาในวันนี้เพื่อที่จะพา เอกรัฐ พลซื่อ หรือ นาว ไปเป็นผู้แทนราษฎร ตนจะไม่พูดว่าครอบครัวพลซื่อ ไม่ว่าจะเป็นพี่เอกภาพ หรือ นาว เอกรัฐ ดีอย่างไร

เพราะเชื่อว่า พวกเรารู้ดีอยู่แล้ว แต่ตนจะพูดว่า ทำไมต้องเลือก นาว ทำไมต้องเลือก คุณรัชนี พลซื่อ ไปเป็นผู้แทน 4 ปีที่แล้วเนี่ยตนอยากบอกคนร้อยเอ็ดว่า ตนไปปราศรัยที่ไหนที่นั้นได้ผู้แทนฯ เช่น ท่านภูดิท อินสุวรรณ ส.ส.พิจิตร เขต 2 ท่านอนุชา น้อยวงศ์ ส.ส.พิษณุโลก เขต 3 หรือท่านชูศักดิ์ คีรีมาศทอง ส.ส.จังหวัดสุโขทัย เขต 2 ต่างก็ได้เข้าไปเป็นผู้แทนฯ

“ผมมั่นใจว่าวันนี้ผมมาปราศรัยช่วย เอกรัฐ พลซื่อ ก็จะเพื่อเข้าไปเป็นผู้แทน แต่จะศักดิ์สิทธิ์เหมือน 4 ปีที่แล้ว หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่ที่พวกเรา ถ้าพี่น้องที่นี่รับปากว่าจะเข้าคูหาเลือกเอกรัฐ พลซื่อ ผมว่าเขาก็ได้เป็น มันอยู่ว่า เลือกหรือไม่เลือก ขอให้ทุกคนกลับไปบอกคนที่บ้านด้วยว่า ต้องเลือกเอกรัฐ”

นายสามารถ กล่าวต่อว่า วันนี้ตนออกจากบ้านตั้งแต่ตี 5 เพื่อต้องการเจอพ่อแม่พี่น้องทุกคนที่อยู่ตรงนี้ สิ่งที่ทำไมตนต้องมาพูดก็เพราะพี่น้องจะได้รู้ว่า ทำไมเราต้องเลือกเอกรัฐ ไม่เช่นนั้นพี่น้องประชาชนก็จะตัดสินใจเลือกผิดอีก เพราะร้อยเอ็ดเป็นจังหวัดที่เจริญได้กว่านี้

ร้อยเอ็ดมีสนามบินไม่น้อยหน้าจังหวัดไหน แต่ทำไมจังหวัดร้อยเอ็ดถึงไม่เจริญเหมือนจังหวัดขอนแก่น ตนขอฝากประชาชนให้คิดว่า ถ้าเลือกครอบครัวพลซื่อ ร้อยเอ็ดจะพัฒนาอย่างก้าวกระโดดให้ทัดเทียมขอนแก่นแน่นอน

“เลือกตั้งครั้งนี้พรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 หลายคนบอกว่า ลุงป้อมไม่แข็งแรง

แต่ตนยืนยันได้ว่า ท่านยังแข็งแรงดี ความจำดี จิตใจดี มีเมตตา และมีบารมี คำว่าบารมีไม่ได้เกิดขึ้นง่ายง่ายผมถึงบอกว่า ถ้าวันนี้พลเอกประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรีผมมั่นใจได้เลยว่า พวกเราทุกคนถ้าเดือดร้อนอะไรให้บอกผ่าน น้องนาว เอกรัฐ ได้ทันที และปัญหาของพี่น้องประชาชนจะได้รับการแก้ไขอย่างแน่นอน

แต่ถ้าพลเอกประวิตรไม่ได้รับการเลือกตั้งให้เป็นนายกฯ ปัญหาที่เรื้อรังมานานก็จะถูกซุกไว้ใต้พรมเหมือนเดิม เราก็เดือดร้อนและจนอยู่เหมือนเดิม”