ครม.อนุมัติให้องค์การส่งเสริมกิจการโคนม กู้เงินเกินบัญชีเสริมสภาพคล่อง 250 ล้าน โดยกระทรวงการคลังค้ำประกัน

1 มีนาคม 2566 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 ว่า ครม.เห็นชอบการกู้ยืมเงินเบิกเกินบัญชี เพื่อสำรองเผื่อสภาพคล่องทางการเงินขององค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) โดยให้กระทรวงการคลังค้ำประกัน จำนวน 250 ล้านบาท ระยะเวลา 1 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ

ความจำเป็นที่ต้องกู้ยืมเงินเกินบัญชีในครั้งนี้ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา อ.ส.ค. ได้รับผลกระทบทางด้านการเงินจากหลายปัจจัย อาทิ

1)กำลังซื้อของผู้บริโภคและตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ลดลงเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจในช่วงโควิด-19

2)เกิดโรคติดต่อในโคกระบือ หรือโรคลัมปี สกิน

3)การปรับขึ้นราคาน้ำนมดิบ

4)การปรับราคาวัตถุดิบและวัสดุที่ใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์นมสูงขึ้น

ด้วยปัจจัยเหล่านี้ ส่งผลให้ อ.ส.ค. ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องและบางช่วงเวลามีเงินสดไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระเป็นประจำทุกเดือน เช่น จ่ายค่าน้ำนมดิบให้แก่เกษตรกรประมาณเดือนละ 220 – 420 ล้านบาท

ดังนั้น กระทรวงเกษตรและและสหกรณ์จึงจำเป็นต้องเสนอขอกู้ยืมเงินเบิกเกินบัญชี เพื่อให้ อ.ส.ค. มีแหล่งเงินเพียงพอรองรับการบริหารงานได้อย่างต่อเนื่อง และลดความเสี่ยงจากการขาดสภาพคล่องทางการเงินในระยะสั้น

นางสาวรัชดา กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมา องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทยเคยกู้ยืมเงินเบิกเกินบัญชีในปีงบประมาณ พ.ศ.2565 มาแล้ว ตามมติ ครม. เมื่อ 1 ก.พ.65

โดยกระทรวงการคลังค้ำประกัน จำนวน 250 ล้านบาท มีระยะเวลา 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน 2565 – 27 เมษายน 2566 ซึ่ง อ.ส.ค. ได้เบิกเงินมาเพื่อใช้จ่ายระหว่างเดือน พฤษภาคม – กันยายน 2565 และได้ชำระเงินกู้คืนทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว

Written By
More from pp
เปิดขายแล้ววันนี้! พันธบัตรสุขใจให้ออม 4.5 หมื่นล้าน ขายผ่านธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์
13 ธันวาคม 2565 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากที่รัฐบาล โดยกระทรวงการคลังได้เปิดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ รุ่นสุขใจให้ออม วงเงินรวม 60,000...
Read More
0 replies on “ครม.อนุมัติให้องค์การส่งเสริมกิจการโคนม กู้เงินเกินบัญชีเสริมสภาพคล่อง 250 ล้าน โดยกระทรวงการคลังค้ำประกัน”