24 กุมภาพันธ์ 2566 ที่เวทีปราศรัย อ.เมือง จ.พัทลุง ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยคณะผู้บริหารพรรค อาทิ นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรค ร่วมกิจกรรม เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดพัทลุง ได้แก่ เขต 1 นายภุชงค์ วรศรี เขต 2 นายวรท เทอดวีระพงศ์ และเขต 3 นายประเทือง มนตรี มีประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 5 พันคน บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก
นายอนุทิน กล่าวว่า กับจังหวัดพัทลุง พรรคภูมิใจไทย เรามีความผูกพันกับพวกท่านมานานมาก เพราะสมาชิกคนสำคัญ ของพรรค ก็มาจากจังหวัดพัทลุง แต่ความผูกพันดังกล่าว มันแน่นแฟ้นมากขึ้น เมื่อท่านไว้ใจ และเลือกพรรคภูมิใจไทย เข้าไปทำงานแบบยกจังหวัดในการเลือกตั้งปี 2562
ซึ่งหลังจากนั้น เราได้เข้าไปตอบแทนความไว้วางใจ ของท่านด้วยการทำงานอย่างสุดความสามารถ การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น พรรคส่งคนเก่ง คนมีความสามารถ เป็นคนที่ทุกท่านรู้จักดี และเราก็หวังว่าท่านจะให้ความไว้ใจเรา เลือกตั้งเราเข้ามาทำงานแบบยกจังหวัด 3 คน ถ้าทำได้ ขอสัญญษว่าอะไร ที่ค้างคาไว้ เราลุยต่อจนเสร็จแน่นอน เพราะเรา “แหลงแล้วทำ”
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังนายอนุทิน พูดประโยคดังกล่าวจบ ประชาชน ที่มาร่วมฟังปราศรัย ต่างปรบมือลั่น ทำให้นายอนุทิน หยุดพูดไปชั่วขณะ และกลับมาปราศรัยขอบคุณพี่น้องประชาชน ซึ่งนายอนุทิน ระบุว่า การเข้ามาของพรรคภูมิใจไทย เมื่อ 4 ปีที่แล้ว เรายกระดับถนนหนทาง การคมนาคม ไปจนถึงการสาธารณสุข ทุกวันนี้ ถนนดี เดินทางสะดวก สวัสดิการด้านสุขภาพก็เพิ่มขึ้น
แต่เท่านั้นยังไม่พอ เรากำลังผลักดันโครงการใหญ่ อย่างสะพานข้ามพัทลุง ไปสงขลา ปัจจุบัน ผ่านการพิจารณาของ ครม. แล้ว แน่นอนว่า ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในทั้ง 2 จังหวัด และช่วยดึงดูดความน่าลงทุน และการท่องเที่ยว ส่วนแลนด์บริดจ์ เราก็เดินหน้าแล้ว เชื่อฝั่งอันดามัน กับอ่าวไทย จากระนองสู่ชุมพร เราวางหลักทั้ง 2 โครงการแล้ว และถ้าพี่น้องเลือกเราเข้าไปทำงาน เราสานต่อแน่นอน
นายอนุทิน ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า จากเดิมพัทลุง เป็นเมืองผ่าน แต่พรรคภูมิใจไทย พยายามผลักดันให้ก้าวข้ามจุดนั้น ให้กลายเป็นจังหวัดที่นักท่องเที่ยวต้องมาเยือน ซึ่งเรากำลังทำ และต้องการที่จะสานต่อ เพราะเราเห็นความสำเร็จทุกวัน เรามาถูกทาง และไม่อยากให้แผนการหยุดชะงัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนโยบายของพรรคภูมิใจไทย ในการหาเสียงเลือกตั้งรอบนี้ อาทิ การให้สิทธิพักหนี้คนละไม่เกิน 1 ล้านบาท เป็นการพักหนี้แบบ หยุดต้น ปลอดดอก เป็นเวลา 3 ปี เท่ากับเวลาที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากโควิด หนี้ธนาคาร หนี้สหกรณ์ หนี้บัตรเครดิต หนี้ผ่อนรถยนต์ หนี้ผ่อนรถมอเตอร์ไซค์ หนี้กองทุนหมู่บ้าน ใช้สิทธิได้ทั้งหมด ยกเว้นหนี้นอกระบบ ใช้สิทธิไม่ได้
จะผลักดันภาษีบ้านเกิดเมืองนอน คนไทยทุกคน บริษัทห้างร้านทุกบริษัทที่เสียภาษี มีสิทธิกำหนดให้ภาษีที่ตัวเองจ่าย อย่างน้อยร้อยละ 30 ถูกนำไปใช้พัฒนา แก้ปัญหาให้กับท้องถิ่นที่ตัวเองต้องการ จะเป็นครั้งแรกที่ประชาชนจ่ายภาษีแล้ว ได้รู้ว่าภาษีของตัวเองเอาไปใช้ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร
ไฟฟ้าประชาชน คนไทยทุกครัวเรือน มีสิทธิเข้าร่วมโครงการ “การไฟฟ้าประชาชน” ใช้พื้นที่บ้านของตัวเอง หรือพื้นที่ส่วนกลางในชุมชน ติดตั้งโซลาร์เซลล์ผลิตกระแสไฟฟ้าขายให้กับรัฐบาล จะช่วยทุกครอบครัวที่เข้าร่วมโครงการมีรายได้จากการขายไฟฟ้าให้รัฐบาล และลดค่าไฟฟ้าได้ไม่น้อยกว่า 500 บาทต่อเดือน ที่สำคัญคือ ช่วยให้รัฐบาลลดการลงทุนสร้างโรงไฟฟ้า ลดการนำเข้าไฟฟ้าจากต่างประเทศ
และ การพัฒนา อสม. เป็น สมาร์ท อสม. เพิ่มค่าตอบแทนให้ อสม. เป็นเดือนละ 2,000 บาท ให้ อสม.เป็นฐานรากที่เข้มแข็งของระบบสาธารณสุขไทย สร้างสุขภาพที่แข็งแรงให้คนไทย ลดค่าใช้จ่ายในการรักษาผู้ป่วย นำเงินที่ลดได้มาพัฒนาการทำงานของ อสม.