ผักกาดหอม
ขนลุก!
วานนี้ (๑๘ มกราคม) พรรคเพื่อไทยยกทัพใหญ่ไปหาเสียงที่นนทบุรี “อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร” พูดเรื่องแลนด์สไลด์ ซ้ำแล้วซ้ำอีก
เอาจริงๆ ก็มีความเป็นไปได้ที่พรรคเพื่อไทยจะชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์
เพราะองค์ประกอบน่าจะครบแล้ว
หลักๆ คือการกดปุ่มจากดูไบ
เลือกตั้งประเทศไทย อิทธิพลจากดูไบยังแรงอยู่ครับ ที่เป็นเช่นนั้นก็รู้ดีกันอยู่แล้ว ไม่ต่างจากการเลือกตั้งจากปี ๒๕๕๔ เท่าไหร่นัก ปีนั้น “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ได้เป็นนายกฯ แบบงงๆ
ปีนี้ก็อีหรอบเดิม “อุ๊งอิ๊ง” อาจได้เป็นนายกฯ ไปแบบงงๆ เหมือนกัน
เปล่าดูถูกหรือบูลลีครับ
การทำงานการเมือง มันมีขั้นตอนของมัน
ประเภทจู่ๆ โผล่มา เขาเรียกว่าหุ่นเชิด
แต่ “อุ๊งอิ๊ง” ดีกว่า “ยิ่งลักษณ์” หน่อยหนึ่งตรงที่ มีเวลาเตรียมตัวมากกว่า มีที่ทางในพรรคเพื่อไทยชัดเจนกว่า คือเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย
ขณะที่ “ยิ่งลักษณ์” ไม่มีตำแหน่งอื่นนอกจาก ผู้สมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ลำดับที่ ๑
ฉะนั้นหากวัดประสบการณ์ทางการเมือง “อุ๊งอิ๊ง” ขี่ อาปู
“ยิ่งลักษณ์” เป็นนักการเมืองได้ ๔๙ วัน ก็ได้ตำแหน่งนายกฯ ไปครอบครอง
ส่วน “อุ๊งอิ๊ง” เริ่มเข้าพรรคเพื่อไทยอย่างเป็นทางการเมื่อ วันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๔
ในวันนั้นนั่งเก้าอี้ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย
พร้อมกับคำปราศรัย
“ดิฉันสัมผัสการเมืองตั้งแต่ ๘ ขวบ ตอนนั้นคุณพ่อเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตอนอายุ ๙ ขวบ พ่อเป็นหัวหน้าพรรคพลังธรรม จากนั้นอีก ๓ ปี พออายุ ๑๒ ปี พ่อก่อตั้งพรรคไทยรักไทย ชื่อพรรคนั้นยังอยู่ในใจเสมอ”
ถัดมา วันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๖๕ เป็นหัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย
เมื่อยกระดับเป็นหัวหน้าครอบครัว คำปราศรัยก็เปลี่ยนไป
“อำนาจรัฐเท่านั้นที่จะเป็นทางออกในเวลานี้ และเป็นจุดที่พรรคเพื่อไทยต้องไปให้ถึง ยืนยันว่านโยบายของพรรคเพื่อไทย จะเติมเงินในกระเป๋าให้พี่น้องประชาชนได้มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี อีกครั้ง”
“ทักษิณ ชินวัตร” ปูทางให้ลูกสาวอย่างเป็นขั้นเป็นตอน
และเพื่อไทยแลนด์สไลด์คือหนึ่งในนั้น
ก่อนจะไปถึงแลนด์สไลด์ ออกจะงงอยู่บ้าง กับความรู้ทางการเมืองของ “อุ๊งอิ๊ง” เพราะมีบางอย่างคล้ายกับ “ยิ่งลักษณ์”
“การก้าวข้ามความขัดแย้งเป็นเรื่องดี แต่เรายึดหลักประชาธิปไตย และเราหาเสียงแบบแลนด์สไลด์”
เป็นคำให้สัมภาษณ์ของ “อุ๊งอิ๊ง” ครับ
อ่านผ่านๆ ดูเหมือนไม่มีอะไร
แต่สังเกตดีๆ เหมือนท่องมาเป็นวลี
เหมือนจะมีความหมาย แต่ก็ไม่ได้มีความหมายให้เข้าใจว่าที่พูดนั้นเป็นเรื่องเดียวกัน
และนี่จะเป็นจุดอ่อนของ “อุ๊งอิ๊ง” ที่ “ยิ่งลักษณ์” เคยประสบมาแล้ว
ประเทศซิดนีย์ จังหวัดหาดใหญ่ครับ!
ครับ…เลือกตั้งปี ๒๕๕๐ พรรคพลังประชาชน ได้ ส.ส. ๒๓๓ ที่นั่ง
เป็น ส.ส.แบ่งเขตเลือกตั้ง ๑๙๙ ที่นั่ง
เลือกตั้ง ๒๕๕๔ พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส. ๒๖๕ ที่นั่ง
ได้ ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ๒๐๔ ที่นั่ง
ถัดมาเลือกตั้งปี ๒๕๖๒ พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส. ๑๓๖ คน ทั้งหมดเป็น ส.ส.ระบบเขตเลือกตั้ง
แม้จะเป็นเพราะระบบการเลือกตั้งที่เปลี่ยนไป รวมทั้งยุทธศาสตร์แตกแบงก์พันผิดพลาด พรรคไทยรักษาชาติถูกยุบ ทำให้พรรคระบอบทักษิณได้ ส.ส.น้อยกว่าที่ประเมินไว้
อย่าลืมว่าปัจจัยหลักจริงๆ ของการพ่ายแพ้มาจากพรรคเพื่อไทยแตก
ย้อนกลับไปวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ มีนักการเมืองกว่า ๑๕๐ คน เปิดตัวกับพรรคพลังประชารัฐ
ในนั้นมีทั้งอดีต ส.ส.จากพรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชาชน พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย และพรรคชาติไทยพัฒนา
รวมถึงอดีตแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ
หมายความว่าส่วนที่หายไปจากการเลือกตั้งปี ๒๕๖๒ ไม่ได้ถูกเติมกลับเข้าไปพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งปีนี้อย่างแน่นอน
กลุ่มสามมิตรยังคงยืนยันทำงานการเมืองในนามพรรคพลังประชารัฐต่อ แม้จะมีบางส่วนแตกออกไป แต่ไม่มีใครกลับพรรคเพื่อไทย
เลือกตั้งบัตร ๒ ใบ ใช่ว่าเป็นคุณกับพรรคเพื่อไทยจนสามารถสร้างปรากฏการณ์แลนด์สไลด์เสมอไป
เพราะเอาเข้าจริงคะแนนพรรคของพรรคระบอบทักษิณนั้น ไม่ได้เหนือกว่าพรรคการเมืองลำดับที่ ๒ ชนิดทิ้งไม่เห็นฝุ่น
การเลือกตั้งปี ๒๕๕๐
พลังประชาชน ๑๒,๓๓๘,๙๐๓ คะแนน
ประชาธิปัตย์ ๑๒,๑๔๘,๕๐๔ คะแนน
ชาติไทย ๑,๒๑๓,๕๓๒ คะแนน
การเลือกตั้งปี ๒๕๕๔
เพื่อไทย ๑๕,๗๕๒,๔๗๐ คะแนน
ประชาธิปัตย์ ๑๑,๔๓๕,๖๔๐ คะแนน
ภูมิใจไทย ๑,๒๘๑,๖๕๒ คะแนน
การเลือกตั้งปี ๒๕๖๒
เพื่อไทย ๗,๘๘๑,๐๐๖ คะแนน
พลังประชารัฐ ๘,๔๔๑,๒๗๔ คะแนน
อนาคตใหม่ ๖,๓๓๐,๖๑๗ คะแนน
ประชาธิปัตย์ ๓,๙๕๙,๓๕๘ คะแนน
ภูมิใจไทย ๓,๗๓๔,๔๕๙ คะแนน
จะเห็นว่าการเลือกตั้งปี ๒๕๖๒ พรรคเพื่อไทยมีคู่แข่งมากขึ้น
มีพรรคสามารถทำคะแนนพรรคเกินหลักล้านเสียงได้ถึง ๖ พรรค จากปกติที่ทำได้เพียง ๓ พรรคเท่านั้น และพรรคลำดับที่ ๓ ทำได้เพียงล้านเศษๆ
หนำซ้ำพรรคพลังประชารัฐมีคะแนนพรรคมากกว่าพรรคเพื่อไทย
นี่คือสถิติที่ขัดขวางการทำแลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทย หากพรรคพลังประชารัฐ ก้าวไกล ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย สามารถรักษาฐานคะแนนเดิมของตัวเองไว้ได้
แลนด์สไลด์จริงๆ นะ “อุ๊งอิ๊ง”