(22 มกราคม 2563) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการว่าด้วยการศึกษาและการให้บริการผ่านโครงข่ายโทรคมนาคมไร้สายในระบบ 5G โดยมี นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และพลเอก สุกิจ ขมะสุนทร ประธาน กสทช. ร่วมเป็นประธานในพิธีลงนาม
ซึ่งมี นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.และนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช.ลงนาม พร้อมด้วย นาวาอากาศโท สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และนายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร รองเลขาธิการ กสทช.เป็นพยาน บริเวณชั้น 2 อาคารผู้โดยสารขาเข้า ประตู 10 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.กล่าวว่า ในวันนี้ถือเป็นโอกาสอันดีที่ ทอท.ภายใต้
การกำกับดูแลของกระทรวงคมนาคมได้มีการสร้างความร่วมมือข้ามอุตสาหกรรม ระหว่างอุตสาหกรรมโทรคมนาคม และอุตสาหกรรมการบิน โดยลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการว่าด้วยการศึกษาและการให้บริการผ่านโครงข่ายโทรคมนาคมในระบบ 5G ร่วมกับ กสทช.ซึ่งเป็นองค์กรที่จัดสรรคลื่นความถี่ของประเทศ ที่จะเกิดประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมการบินให้สามารถประยุกต์ใช้นวัตกรรมเทคโนโลยี เพื่อการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการบินด้วยเทคโนโลยี 5G นำไปสู่ระบบนิเวศของสนามบินอัจฉริยะ (Smart Airport Ecosystem) ในอนาคต สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ระดับชาติและนโยบายของรัฐบาลภายใต้แนวคิดไทยแลนด์ 4.0
ในส่วนของ ทอท.ซึ่งบริหารท่าอากาศยานหลัก 6 แห่งของประเทศไทย ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานหาดใหญ่ และท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ได้ก้าวเข้าสู่ยุค Digital อย่างเต็มตัว ได้เริ่มโครงการ Digital Airports โดยได้เปิดให้ผู้ใช้บริการ
ท่าอากาศยานดาวน์โหลด AOT Airports Application ภายใต้ Concept สนามบินมีชีวิตที่จะทำให้ผู้โดยสารสามารถโต้ตอบกับระบบ IT ได้เมื่อใช้บริการ ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ ทอท. และจะต่อยอดขยายไปยังท่าอากาศยานพันธมิตรกว่า 15 แห่งทั่วโลก เพื่อทำให้การเดินทางของผู้โดยสารง่ายขึ้นภายใต้ Slogan “Turn Busy to Easy” รวมทั้งได้สนองนโยบายของกระทรวงคมนาคมในการร่วมมือกับหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงคมนาคมก้าวเข้าสู่
ยุคคมนาคม 4.0 ด้วยกัน โดยได้เชื่อมต่อข้อมูลตารางการเดินรถไฟฟ้า และเวลาที่รถไฟฟ้าจะมาถึงแต่ละสถานีกับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ และได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อการส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งจะเห็นว่า Application มีข้อมูลด้านการท่องเที่ยวที่น่าสนใจมาก และได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ในการพัฒนานวัตกรรมทางการเงิน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้เดินทางโดยมี Function VAT Refund for Tourists
นอกจากนั้น ทอท.จะร่วมลงนามความร่วมมือกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เพื่อเชื่อมต่อข้อมูลประมาณการเวลาที่รถประจำทางจะมาถึงแต่ละสถานีได้อีกด้วย
นายนิตินัย กล่าวในตอนท้ายว่า ความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของการให้บริการโทรคมนาคม และการให้บริการผู้โดยสารและผู้ใช้บริการท่าอากาศยาน โดยการเชื่อมโยงข้อมูลขนาดใหญ่ผ่านทางโทรคมนาคมไร้สายในระบบ 5G ซึ่ง ทอท.ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้ความสำคัญและสนับสนุนความร่วมมือในครั้งนี้จนประสบผลสำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนนโยบาย Thailand 4.0 ที่จะทำให้ประเทศไทยก้าวเป็นหนึ่งในประเทศชั้นนำทางอุตสาหกรรมการบิน และด้านโทรคมนาคมต่อไป