ชูวิทย์ “นักสืบเชลยศักดิ์” – เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

คุณ “โบว์ ณัฏฐา” เขาโพสต์ถูกใจผม
จะว่า “ถูกใจ” ก็เหมือนผมยึดใจตัวเองเป็น “ศูนย์กลางจักรวาล” ซึ่งมันเวอร์!
เอาเป็นว่า ข้อความที่คุณณัฏฐาโพสต์นั้น สอดคล้องความจริงที่เป็นก็แล้วกัน
คือเมื่อต้นเดือน “คุณโอฬาร ถิ่นบางเตียว” พูดในรายการ “ริงไซด์การเมือง” ว่า

“วันนี้ ฝ่ายประชาธิปไตยเป็นง่ายมากครับ แค่ย้ายพรรคก็เป็นแล้ว”
วานซืน (๑๒ มค.๖๖) คุณ “โบว์ ณัฏฐา มหัทธนา” ยกคำพูดคุณโอฬารมาโพสต์เฟซ พร้อมเสริมทัศนะ
……………………………

“โบว์ ณัฏฐา มหัทธนา”

“วันนี้ฝ่ายประชาธิปไตยเป็นง่ายมากครับ แค่ย้ายพรรคก็เป็นแล้ว” เหมือนจะเป็นคำพูดที่จริงมากขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อคำว่า “ฝ่ายประชาธิปไตย” ถูกใช้อย่างมักง่ายเกินไป

ก่อนหน้านี้ ดาราคนไหนด่ารัฐบาลขึ้นมาคำหนึ่ง ก็มีคนแห่มาแปะป้ายประชาธิปไตยให้แล้ว (ทุกวันนี้ไม่รู้หายไปไหนหมด)
พอมาตอนนี้ ใครย้ายพรรค ก็ถูกแปะฉลากกันไป

ย้ายเข้าเรียกประชาธิปไตย
ย้ายออกเรียกเผด็จการ คนที่สู้มานานๆ เขาก็เลยงง

อยากบอกว่า….
ไม่ต้องงงค่ะ มันคือคำที่ใช้กันเปรอะจนหมดความหมายมานานแล้ว
คิดซะว่าเป็นชื่อทีมฟุตบอล
………………………………

คุณโบว์ให้นิยามคำว่า “ฝ่ายประชาธิปไตย” สะท้อนความ “มักง่าย” ผู้ใช้ ลงตัวที่สุด
ฉะนั้น คำว่า “ฝ่ายประชาธิปไตย” กับคำว่า “มักง่าย”
จึงถือเป็น “คำเดียวกัน” หรือ “ใกล้เคียงกัน” ใช้แทนกันได้

ดังนั้น…..
ใครหรือพรรคไหน บอกว่าเป็น “ฝ่ายประชาธิปไตย”
ใครจะเรียกว่า “ฝ่ายมักง่าย” ก็ใช้ได้เหมือนกัน!

ย้อนกลับมาเรื่องผมนิด ย้ายมานั่งทำงานสำนักงานใหม่เข้าวันที่ ๓ เหมือนถูกพรรคพวกหลอกมาปล่อยเกาะ
เพราะโด่งเด่ง “เฝ้าสำนักงาน “อยู่กับฝ่ายบัญชีและฝ่ายธุรการ ส่วนกองบรรณาธิการ ทั้งฝ่ายหนังสือพิมพ์ ฝ่ายข่าวเว็บไซต์ และฝ่ายทีวีออนไลน์
ยังรั้งทัพรับศึกอยู่สำนักงานเก่าที่คลองเตยโน่น

ผมเลยอดข้าวเย็นหัวโต….
เพราะฝ่ายเสบียงกรัง ยังต้องคุมยุ้งฉางอยู่กับทัพที่คลองเตย

ความที่เป็นคนพลัดถิ่น ยังไม่รู้แหล่งหาอยู่-หากิน ผมก็เลยต้องอาศัยแกร็บบ้าง โรบินฮู้ดบ้าง ส่งน้ำ-ส่งข้าว
แต่โชคดี ท่านที่รู้ข่าวว่าย้ายมา รู้แล้วว่าบ้านใหม่ยังไม่มีอะไรกินแน่

คุณณัฏวรรณ สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ส่งน้ำมะนาวสิงห์ กับผลไม้สดมาให้ เลยรอดตายมื้อแรก
ปตท.โออาร์ เอาข้าวกล้องผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นมาให้อีก ธนชาติประกันภัย ก็ส่งส้มมาให้หนึ่งลัง ชาวคณะพลัดถิ่น เลยพอมีน้ำ-มีนวล

เมื่อวานเข้าสำนักงาน ปีติ ขนลุกซู่
คุยเรื่อง “แม่กลอง” ไปแหม็บๆ….

รุ่งขึ้น “หลวงพ่อบ้านแหลม” พระคู่บ้าน-คู่เมือง จังหวัดสมุทรสงคราม เสด็จมาอภิบาลคุ้มครองรักษาชาวคณะไทยโพสต์

เปิดประตูสำนักงานเข้ามา ก็เห็นอร่าม สว่างจ้าแต่ไกล ดีใจสุดประมาณ เพราะมิคาดฝัน
ไม่รู้ท่านเสด็จมาได้อย่างไร?

เข้าไปใกล้ๆ เห็นนามบัตรติดอยู่กับกระเช้าผลิตภัณฑ์ธรรมชาติอาหารเสริม SORIZZ
คุณ “KETPOL ROJCHAYAPORN” เด็กหนุ่มรุ่นใหม่ เจ้าของผลิตภัณฑ์แบรนด์ SORIZZ นั่นเอง

เลขาฯบอกว่า นำหลวงพ่อบ้านแหลมมามอบให้ผมแต่เช้า แต่ผมมาบ่าย เลยไม่เจอกัน
แต่ฝากหลวงพ่อบ้านแหลมกับกาแฟแคปซูลและผลิตภัณฑ์อาหารเสริมไว้ให้ผม บอกวันหลังจะมาใหม่

เห็นหลวงพ่อบ้านแหลมพระบ้านเกิดตัวเอง ดีใจจนตัวสั่น นิมนต์ท่านขึ้นหิ้งในห้องพระทันที
ห้องพระที่สำนักงานใหม่ ผมอาราธนาย้ายมาด้วย จากสำนักงานเก่าที่คลองเตยทั้งหมด

ทั้งพระพุทธรูป ทั้งรูปหล่ออริยสงฆ์ ทั้งพระเครื่อง เหรียญ และเทพ มากมาย เรียกว่า มีกี่ร้อย-กี่พันองค์
ผมนิมนต์มาด้วยทั้งหมด
ไม่ทิ้งองค์ไหนไว้ข้างหลังเลยซักองค์!

ตอนนี้ ยังงงหัว แยกไม่เสร็จ ไหนพระพุทธรูป ไหนพระเกจิอาจารย์ และไหนเทพ จนห้องพระที่ไม่เล็ก ดูจะแคบไป
ทั้งหมดนี้ ผมไม่ได้ไปซื้อหา หรือไปนำมาเองจากที่ไหน

หากแต่ท่านผู้อ่านไทยโพสต์นั่นแหละครับ
คนนั้น-คนนี้ กลัวผมและไทยโพสต์ จะมีเพทภัย เพราะปากแจ๋ว แต่ใจดี๊ดีเหลือเกิน จึงนำพระพุทธรูป พระเกจิต่างๆ มามอบให้

ทีละองค์ สององค์ ๒๗ ปี รวมแล้ว ทั้งเล็ก-ใหญ่ น่าจะเป็นพัน!

ล่าสุด ตอนปลายปี แบงก์กรุงเทพ ไปทอดกฐินพระราชทาน ที่วัดเพชรสมุทรฯ หรือวัดบ้านแหลม
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ส่ง “หลวงพ่อบ้านแหลม” มาให้องค์ พอมาต้นปี คุณ KETPOL นำองค์ใหญ่มามอบอีกองค์

เป็นสัญลักษณ์ว่า….
ไทยโพสต์ “ไม่อด-ไม่อยาก-ไม่เจ็บ-ไม่จน” มีแต่รวยทรัพย์-รวยสุข-รวยมิตรสหาย “ใจบ้าน-ใจเมือง” ด้วยกัน

และทรัพย์และสุขนั้น
ไหลเนืองนองไปท่วมทับบรรดาแฟนๆ ไทยโพสต์ “สุขกาย-สบายใจ” ไปด้วยกันถ้วนหน้า

รวมทั้ง “เจ้าหนี้” ส่วนตัวผม ตอนทำไทยโพสต์ใหม่ๆ ที่ยังไม่ได้นำไปใช้คืนด้วย!
เพราะ “หลวงพ่อบ้านแหลม” เป็นพระปางอุ้มบาตร

เมื่ออุ้มบาตร จะอดอยาก/ยากจนได้อย่างไร จริงมั้ย?

ตกเย็น “คุณเล็ก-ปรียาพร” อดีตรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ รู้ข่าวว่าไทยโพสต์ย้ายมาอยู่ไม่ใกล้-ไม่ไกลจาก “คุกลาดยาว”
หิ้วไข่พะโล้ จากร้านอาหาร “ชวนชม” ในคุกมาเยี่ยม
ทำเอาผมเสียวแว๊บ!

หลายท่านบอก จะทำบุญสำนักงานใหม่เมื่อไหร่บอกด้วย บางท่านจองอาหารพระ บางท่านจองจัดดอกไม้ คุณเล็กก็ถาม จะทอดปลาสลิดบางบ่อมาทำบุญ

ก็ขอตอบรวบยอดว่า….
ผมนิมนต์ “พระอาจารย์อินทร์ถวาย สันตุสสโก” วัดป่านาคำน้อย ที่อุดรฯ ไว้ล่วงหน้า เป็นปีแล้ว ว่า
สำนักงานเสร็จเมื่อไหร่ ขอนิมนต์พระอาจารย์มาเจริญพระพุทธมนต์ และท่านก็รับปากไว้แล้ว เพียงแต่ยังไม่รู้จะลงตัววันไหน

กะว่า ต้นเดือนเมษา.ก่อนสงกรานต์เล็กน้อย ทุกอย่างจะเข้าที่ จากนั้น จะกำหนดวัน สุดแต่พระอาจารย์จะสดวก
ถึงวันนั้น ผมจะบอกล่วงหน้า….

พระอาจารย์มา ท่านต้องเดินบิณฑบาตโปรดสัตว์ที่สำนักงาน ตามวัตรพระป่า
วันนั้น ท่านทั้งหลาย ก็มาทำบุญ-ใส่บาตร ด้วยกันนะ

มาคุยเรื่อง “ตู้ห่าว” หน่อย
คดีนี้ “ผู้ร้าย” แทนจะเป็น “ตู้ห่าว” แต่กลับเป็น “ตำรวจ” ซะเอง ตกเป็น “ผู้ร้าย” ในสายตาประชาชน
“ยอมรับความจริง” ซะบ้างก็ได้นะ คุณตำหนวด จะได้เจ๊ากัน!

ตอนนี้ ตำรวจทำสำนวนสอบสวนเสร็จแล้ว
คดีนี้ “พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์” ผบ.ตร.เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวนเอง ตามคำสั่งอัยการสูงสุด

เมื่อวาน (๑๓ มค.๖๖) ท่านนำสำนวนไปส่งอัยการสูงสุดแล้ว เรียกว่าทันเวลา ก่อน “ตู้ห่าว” และพวก จะครบฝากขังวันที่ ๒๐ มกรา.

สรุปสาระตามที่ผบ.ตร.แถลง คร่าวๆ เป็นดังนี้

-คดีนี้ เป็นความผิดที่เกี่ยวเนื่องนอกราชอาณาจักร
-คณะพนักงานสอบสวนประกอบด้วย นครบาล,สอบสวนกลาง,สืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี,ตำรวจปราบปรามยาเสพติด

-สอบสวนพยานบุคคล ๔๔๔ ปาก สืบพยานล่วงหน้า ๒๐ ปาก ตรวจยึดทรัพย์สิน ๕,๓๔๕ ล้านบาท
-พยานเอกสาร พยานนิติวิทยาศาสตร์ และอื่นๆกว่า ๖๗ แฟ้ม จำนวน ๒๖,๘๙๒ แผ่น

-ผู้ต้องหา ทั้งหมด ๔๓ คน เป็นบุคคลธรรมดา ๓๘ คน นิติบุคคล ๕ ราย
-บุคคลธรรมดา ๓๘ คน จับกุมดำเนินคดีแล้ว ๒๐ คน ยังหลบหนี ๑๘ คน
-นิติบุคคล ๕ บริษัท แจ้งข้อหาดำเนินคดีแล้ว

คดีนี้ “อัยการสูงสุด” ตั้งคณะที่ปรึกษามอนิเตอร์คดีใกล้ชิด ทั้งท่านอัยการสูงสุด “นารี ตัณฑเสถียร” ทั้งผบ.ตร.ลงมาคุมเอง

ดังนั้น เชื่อตามผบ.ตร.บอกได้ว่า “สำนวนรัดกุม” แต่คลอบคลุมถึงไอ้โม่งโยงใยได้แค่ไหน ไปถึงหรือไม่ ผมไม่รู้?!

เมื่อส่งถึงอสส.ก็มั่นใจได้ว่า
พิจารณาเสร็จทัน นำตัวตู้ห่าวส่งฟ้องศาล ภายในวันที่ ๒๐ มกรา.แน่

คุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ “นักสืบเชลยศักดิ์” ดูเหมือนจะมีคุณูปการแก่การทำคดีนี้มาก
ดังเห็นได้จาก พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ “ผบ.ตร.” ก็ขอบคุณคุณชูวิทย์ “นายธนกร วังบุญคงชนะ” รมต.สำนักนายกฯ ก็ขอบคุณคุณชูวิทย์

คุณชูวิทย์ก็ขอบคุณนายกฯ…
ที่ให้เข้าพบและรับปาก “คดีโยงถึงใคร ให้ปะฉะดะ”

และนายกฯ ก็ขอบคุณคุณชูวิทย์….
ที่ทำหน้าที่พลเมืองดี ซู่ซ่าแต่สัตย์ เท่ากับช่วยชาติบ้านเมือง ในเรื่อง “สังคมเป็นธรรม”

ผมก็ต้อง “ขอบคุณ” คุณชูวิทย์มั่ง
ที่ทำให้ผมมีข่าวมาเขียน “ขายกิน”!

เปลว สีเงิน
๑๔ มกราคม ๒๕๖๖

 

Written By
More from plew
พี่น้องใต้เศร้าเราจะสุขหรือ?
ขอเป็นกำลังใจกับพี่น้องลำพะยาด้วยนะ เห็น ๙ ร่างชรบ.เรียงรายบนศาลาวัดบ่ายวาน(๗ พย.๖๒) เพื่อรดน้ำ เพื่อดูหน้า ต่อแต่นี้ กายจากลา แต่ “ใจ” คงอยู่ลำพะยาด้วยกัน...
Read More
0 replies on “ชูวิทย์ “นักสืบเชลยศักดิ์” – เปลว สีเงิน”