สันดานไม่เคยเปลี่ยน-ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

ฟันธงกันแล้ว….

เลือกตั้งรอบนี้รวมไทยสร้างชาติของ “ลุงตู่” กับพลังประชารัฐของ “ลุงป้อม” บวกกันแล้วได้ส.ส.ไม่เกิน ๕๐ ที่นั่ง

ถ้าเป็นจริงก็จบครับ

“อุ๊งอิ๊ง” เป็นนายกฯ ล้านเปอร์เซ็นต์

ว่าไปแล้วตราบที่ยังไม่มีการเลือกตั้ง ยังไม่มีผลออกมา มันก็เป็นไปได้ทั้งนั้น

ลุงตู่-ลุงป้อม รีเทิร์น ก็เป็นไปได้

อนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี ขณะที่พรรคภูมิใจไทยได้เก้าอี้ลำดับที่ ๒ รองจากพรรคเพื่อไทย ก็เป็นไปได้

ฉะนั้นช่วงนี้ เป็นเวลาของการเกทับบลั๊ฟแหลก เพื่อสร้างความมั่นใจก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง

ไปดูการวิเคราะห์ของนักวิชากาารกันก่อน

“รศ.ดร.พรอัมรินทร์ พรหมเกิด” อาจารย์ประจำภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษวิทยา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ฟังธงเป็นฉากๆ

“…หากจะแบ่งออกเป็นพรรคอนุรักษ์นิยม คือพรรครัฐบาลปัจจุบันการเลือกตั้งครั้งนี้ อาจจะมุ่งฐานเสียงจากกลุ่มจังหวัดทางภาคใต้และ กลุ่มภาคกลางและมุ้งฝั่งสมุทรปราการ, เพชรบุรีและชลบุรี ซึ่งหากให้วิเคราะห์มั่นใจว่า รวมไทยรักษาชาติน่าจะได้ที่นั่ง ส.ส.ประมาณ ๒๐-๒๕ คน

ในขณะที่พรรคเสรีนิยม จะครองสัดส่วน สส.ทั้งประเทศมากกว่าร้อยละ ๖๐

ส่วนพรรคเล็กพรรคน้อยขณะนี้ชัดเจนแล้วว่าได้มาร่วมกับรวมไทยสร้างชาติ เพราะหากจะสู้เพียงลำพังด้วยรัฐธรรมนูญฉบับใหม่คงไม่ได้เกิดแน่

ฟันธงได้ว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้ พล.อ.ปะยุทธ์ ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ต่อไปอีกแน่

ด้วยเหตุเพราะกระแสเปลี่ยนและเบื่อเกิดขึ้นชัดเจน ประกอบกับการเปิดดีลของพรรคการเมืองต่างๆ เริ่มส่งสัญญาณและข้อต่อรองที่ชัดเจนและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของแต่ละพรรคนั้นน่าสนใจ

ซึ่งหากให้วิเคราะห์สัดส่วน สส.พรรครัฐบาลปัจจุบัน โดยเฉพาะ รวมไทยสร้างชาติและพลังประชารัฐที่แยกตัวกันมาตี จะได้ ส.ส.ไม่ถึง ๓๐ คน

ดังนั้นสูตรการจัดตั้งรัฐบาลมองได้เพียง ๒ สูตรคือ สูตรแรก พรรคร่วมรัฐบาลที่มีอยู่ในปัจจุบัน แต่ก็ต้องตัดพรรคเล็กพรรคน้อยออก และพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรค ก็พร้อมที่จะออกจากรวมไทยสร้างชาติและพลังประชารัฐ

อีก สูตรคือดีลใหม่ คือเมื่อเพื่อไทย ได้รับเสียงข้างมากและเป็นแกนนำหลักในการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อไทยก็พร้อมที่จะจับมือกับ ก้าวไกล, ภูมิใจไทย, ชาติไทยพัฒนา, เสรีรวมไทย และพรรคการเมืองต่างๆ ตามสัดส่วน ส.ส.

และอาจจะจับมือกับพลังประชารัฐที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค ที่อาจจะมีดีลพิเศษเกิดขึ้นด้วยเหตุผลบางอย่าง เพื่อไม่ให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ในสมัยหน้าก็อาจที่จะเป็นไปได้อีกด้วย…”

ก็น่าจะเป็นจริงครับ!

โดยเฉพาะสูตรจัดตั้งรัฐบาล

ขั้วรัฐบาลเดิมจะยังจับมือกันตั้งรัฐบาลอีกครั้ง หากพรรคเพื่อไทยไปไม่ถึงฝัน

ไม่มีแลนด์สไลด์

แต่หากเพื่อไทยแลนด์สไลด์จริงเกมเปลี่ยน

พลังประชารัฐ กับภูมิใจไทย อยู่ในข่ายย้ายขั้ว

แต่การฟันธงว่า รวมไทยสร้างชาติ กับ พลังประชารัฐ ได้ส.ส.รวมกันไม่เกิน ๕๐ ที่นั่ง ดูจะประเมิน ๒ พรรคการเมืองนี้ต่ำไปหน่อย

ส.ส.พลังประชารัฐทยอยลาออกก็จริง แต่ ณ เวลานี้ ยังอยู่ส.ส.อยู่อีก ๗๐-๘๐ คน

ส่วนใหญ่ไปภูมิใจไทย

การไหลของส.ส.ส่วนใหญ่ยังถ่ายเทอยู่ในขั้วเดิม มีบ้างที่บางคนย้ายไปเพื่อไทย แต่ก็มีส.ส.ของเพื่อไทย ย้ายเข้าภูมิใจไทยเช่นกัน

ณ เวลานี้การไปสู่แลนด์สไลด์ของเพื่อไทย ยังอยู่ในโลกจินตนาการ เพราะกระแสพรรคเพื่อไทยไม่ได้าสูงในทุกเขตเลือกตั้ง

พูดง่ายๆ ไม่มีปัจจัยอะไรใหม่ที่พรรคเพื่อไทยจะได้รับความนิยม ถึงขั้นสามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้

ยกเว้นคนชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่ออกมาพูดเป็นตุเป็นตะ

“…ผมว่าเลือกตั้งครั้งนี้ เราต้องไปฟ้องประชาชน ว่าให้ประชาชนรับสตางค์ไปเลย แต่อย่าเลือกมัน ต้องเลือกฝ่ายประชาธิปไตยให้ได้ ๓๗๕ เสียงรวมกันแล้ว ถ้าได้ ๓๗๕ เสียงเราก็ไม่ต้องพูดถึงเรื่อง ส.ว.อีกเลย

ถ้าส.ว.จะเล่นลูกเล่นแบบไร้ยางอาย ซึ่งตอนนี้เขาด้านหมดแล้ว เขาอยากอยู่ในอำนาจอย่างเดียว เขาจะไม่สนใจหรอก

เพราะฉะนั้นประชาชนจะต้องเป็นคนตัดสินใจดันให้ได้ ๓๗๕ เสียง

ผมคิดว่าทำได้ ขนาดตอนนั้นไทยรักไทย ๓๗๗ ที่นั่งยังทำได้เลยพรรคเดียวด้วย ครั้งนี้หลายพรรครวมกัน ๓๗๕ น่าจะทำได้

ผมว่าพลังประชารัฐคงอยู่ลำบากแน่ ถ้าเขาจะมาขอจับมือด้วย ผมเตะตูดไล่ไปดีกว่า เพราะผมว่าพลังประชารัฐน่าจะเกิน ๒๕ อยู่ แต่ไม่เกิน ๓๕ ที่นั่ง เพราะคนยังไหลออกอยู่

แต่ผมรับรองว่า เลือกตั้งคราวหน้า ฝ่ายประชาธิปไตยได้เกิน ๓๐๐ แน่นอน…”

สันดานไม่เคยเปลี่ยน

ยุให้ประชาชนรับเงินแต่อย่าเลือก มันก็ไม่ต่างส่งเสริมการซื้อสิทธิขายเสียง

ด้วยทัศคติแบบนี้ ทำให้ “ทักษิณ” กลายเป็นนักการเมืองรุ่นเก่า ที่ปรับตัวไม่ได้

ยุคโน้นแหละครับ ยุคฮุบที่ธรณีสงฆ์

พูดถึงสนามกอล์ฟอัลไพน์ แปลจากที่ดินธรณีสงฆ์ ทำกันเป็นขบวนการ ไม่กลัวบาปกรรมกันบ้างหรืออย่างไร

คติโบราณ ขนทรายเข้าวัด ก่อพระเจดีย์ทรายในเทศกาลสงกรานต์ เป็นความละเอียดอ่อนทางจิตสำนึกของคนไทย ที่เดินเข้าวัดแล้วเหยียบเอาทรายจากวัดติดเท้าออกมา

จึงต้องขนกลับคืน

แต่นี่เอาที่ธรณีสงฆ์ทั้งผืนไปขาย

ฟังแล้วอยากจะอาเจียน “ทักษิณ” พร่ำเพ้อ ฝ่ายประชาธิปไตย

วิกฤตของบ้านเมืองส่วนหนึ่งก็เพราะมีคนกลุ่มหนึ่ง เกิดภาวะหลอนว่าตัวเองคือฝ่ายประชาธิปไตย

แต่พฤติกรรมตรงข้ามกับประชาธิปไตยอย่างสิ้นเชิง

หลงจู๊ คิดว่าตัวเองบริหารแบบชี้นิ้วสั่งคือประชาธิปไตย

ลูกสมุนก็คิดว่าการรับคำสั่งคือประชาธิปไตย

แบบนี้น่ากลัวครับ

ถ้าได้ส.ส.เกิน ๓๗๕ เสียง ถือเป็นกรรมของประเทศไทย

รัฐบาลหน้าจะบริหารโดยการกดปุ่มของนักโทษหนีคุกคดีโกง

ย้อนกลับเข้าวังวนเดิม!

Written By
More from pp
“พล.อ.ประวิตร-ร.อ.ธรรมนัส” ร่วมมอบข้าวสารเป็นกำลังใจ ช่วยบรรเทาความเดือดร้อน ชาวบ้านในบริเวณตลาดสดเทศบาลรัตนบุรี จ.สุรินทร์ ที่ประสบอัคคีภัย
ตามที่เกิดเหตุ เพลิงไหม้บริเวณตลาดสดเทศบาลรัตนบุรี ถนนศรีนคร อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา สร้างความเสียหายอาคาร และร้านค้าต่างๆของประชาชนในพื้นที่กว่า...
Read More
0 replies on “สันดานไม่เคยเปลี่ยน-ผักกาดหอม”