นายเเพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากรายงานผู้เดินทางชาวเกาหลีใต้ติดเชื้อและเสียชีวิตด้วยอาการสมองอักเสบ จากการติดเชื้ออะมีบา Naegleria fowleri หลังกลับจากประเทศไทย โดยโรคสมองอักเสบมักมีอาการ 1-12 วันหลังได้รับเชื้อ ที่เข้าทางจมูกและเชื้อเข้าสมองผ่านเส้นประสาทรับกลิ่น โดยอาการที่พบ ได้แก่ ปวดศีรษะ มีไข้ คลื่นไส้อาเจียน คอแข็ง ความรู้สึกตัวลดลง ชักเกร็ง อาการจะค่อยๆ แย่ลงและเสียชีวิต หากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม
โรคสมองอักเสบจากเชื้ออะมีบา พบได้ทั่วโลก ในช่วง 40 ปี ระหว่างปี 2526-2564 ประเทศไทยพบเพียง 17 ราย เป็นสัญชาติไทย 16 ราย และสัญชาตินอร์เวย์ที่เดินทางกลับจากไทย 1 ราย ใน 17 รายนี้มี 14 ราย ที่เสียชีวิต คิดเป็นร้อยละ 82 ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย อายุ 12 ปี ต่ำที่สุด 8 เดือน มากที่สุด 71 ปี
ผู้ป่วยโรคนี้ส่วนใหญ่มีประวัติสำลักน้ำที่ไม่สะอาด จากแหล่งน้ำธรรมชาติ เช่น สระน้ำ บ่อน้ำ แต่ไม่ติดต่อจากการดื่มน้ำและไม่ติดต่อจากคนสู่คน วิธีการป้องกันการติดเชื้อจากการสำลักน้ำ ทำได้โดยการหลีกเลี่ยงการว่ายน้ำ หรือดำน้ำในเเหล่งน้ำธรรมชาติที่ไม่สะอาด ถ้าสำลักน้ำให้รีบสั่งน้ำออกแรงๆ ทางจมูก รีบล้างจมูกด้วยน้ำต้มสุกที่สะอาด หรือน้ำเกลือ ผู้มีประวัติเสี่ยงร่วมกับมีอาการป่วยน่าสงสัย ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีและแจ้งประวัติการสัมผัสน้ำไม่สะอาด สำลักน้ำ หรือการใช้น้ำในการล้างจมูกให้แพทย์ทราบ เพื่อประโยชน์ต่อการวินิจฉัย
นายแพทย์ธเรศ กล่าวด้วยว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและขอบคุณการแจ้งข่าวจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย ที่ทำให้กรมควบคุมโรคได้ใช้ข้อมูลนี้ในการให้ความรู้เรื่องโรคสมองอักเสบจากเชื้ออะมีบา กับประชาชนเพื่อการป้องกันโรค เป็นตัวอย่างความร่วมมือที่ดีของความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐเกาหลีที่มีมาอย่างยาวนาน และเสริมสร้างความมั่นคงทางด้านสุขภาพของทั้งสองประเทศ