ผักกาดหอม
สภาล่มอีกแล้ว….
มีสภาให้ทำงาน ส.ส.หายหัว
พอไม่มีสภา บ่นกันขรมเผด็จการครองเมือง
จะมาอ้างว่าใกล้เลือกตั้งแล้ว ส.ส.หวงพื้นที่ ฉะนั้นต้องลงพื้นที่ไม่ได้ มักง่ายเกินไป
วานนี้ (๑ ธันวาคม) สภาผู้แทนราษฎรของไทยเริ่มต้นเดือนสุดท้ายของปี ด้วยการทำสภาล่ม
ร่างพ.ร.บ.การเข้าชื่อเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ที่เข้าสู่การพิจารณาในสภาฯเป็นรอบที่ ๔ แล้ว แต่ยังคงยืดเยื้อ ไม่ผ่านการพิจารณา
เพราะสภาล่มซ้ำซาก
แล้วจะเอาไงต่อ
ยุบสภาไปเลยดีไหม?
จะมาอ้างยุบทำไม ไม่ใช่ความผิดสภาไม่ได้แล้ว
มันเป็นความผิดสภาเต็มๆ
ช่วงนี้ต้องเช็คสถานการณ์การเมืองกันรายวัน เพราะเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเร็ว
“ลุงตู่” ยังพูดอะไรได้ไม่าก ด้วยเหตุผล ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีค้ำอยู่
วันนี้ก็พูดได้แค่ “ต้องรออีกหน่อย”
หลังปีใหม่โน้นแหละครับ
วันที่ “ลุงตู่” แสดงความชัดเจนทางการเมือง จะมีอยู่เพียง ๒ วันเท่านั้น
คือ วันที่ยุบสภา
กับวันที่อยู่ครบวาระ
แล้วอย่างไหนมีเปอร์เซ็นต์มากกว่ากัน
ถ้าว่ากันตามแผนที่่วางไว้ ณ เวลานี้ คำตอบคือ วันที่รัฐบาลอยู่ครบวาระ ๔ ปี คือปลายเดือนมีนาคมปีหน้า
การปรับคณะรัฐมนตรี ๓ เก้าอี้
ธนกร วังบุญคงชนะ เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
สุนทร ปานแสงทอง เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นริศ ขำนุรักษ์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
นี่คือสัญญาณว่า จะยังไม่มียุบสภาก่อนปีใหม่แน่นอน
เลยปีใหม่ไป วาระสภาเหลือแค่ ๓ เดือน ทีนี้แหละครับ อะไรก็เกิดขึ้นได้
ถามว่าสัญญาณอยู่ครบเทอมมีความเป็นไปได้แค่ไหน
ดูจากท่าที “ลุงตู่” วันสองวันที่ผ่านมา เหมือนจะยังไม่มีแผนยุบสภาอยู่ในหัว
จากที่พูดในเวที มอบรางวัลองค์กรที่มีความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ ที่ทำเนียบรัฐบาล ดูจะยังเดินตามแผนอยู่ครบเทอม
“วันนี้ผมคาดหวังว่าในระยะเวลาอันใกล้ วันหน้าจะมีการเลือกตั้งต่างๆ ผมก็ไม่อยากทิ้งภาระให้ใครในโอกาสหน้าทั้งสิ้น และไม่อยากให้ทุกอย่างกลับมาอยู่ที่เดิม
ก็คือก่อนที่เราจะแก้ไขปัญหามาถึงตรงนี้ได้ ขอให้พวกเราภาคภูมิใจการทำงานเหน็ดเหนื่อยสาหัสมา ทำเพื่อใคร ไม่ใช่เพื่อตัวเอง ทำเพื่อคนอื่น นั่นคือสิ่งที่เรียกว่ากุศล ทำบุญทำกับวัดกับพระ แต่ทำกุศลทำให้กับคน
ฉะนั้นคือสิ่งที่ทุกคนต้องเสียสละ ต้องไม่เหนื่อยที่จะคิดไม่เหนื่อยที่จะทำ และไม่มุ่งหวังผลประโยชน์จากการทำงานของตัวเอง
อันนี้เป็นสิ่งที่ผมอยากจะบอกกับพวกเรา และเชื่อมั่นว่าทุกท่านพยายามทำอย่างเต็มที่แล้ว แต่คิดว่าต้องทำได้ดีกว่านี้ และหวังว่าวันพรุ่งนี้ต้องดีกว่านี้ ต้องคิดแบบนี้ ทุกวัน อาทิตย์หน้าต้องดีกว่านี้ แล้วมันจะสำเร็จ
ขอให้ทุกคนตั้งใจให้ดีที่สุด”
ไม่ใช่สั่งลาครับ แต่ยังมีงานที่ค้างอยู่ต้องทำต่อ ไม่อยากทิ้งเป็นภาระให้รัฐบาลถัดไป
รัฐบาลลุงตู่ ทำงานสำเร็จก็เยอะ ทำไม่ได้ก็มี ไม่ได้ทำก็มีหลายอย่าง
แต่โดยภาพรวม ๘ ปี ๓ ปีหลังท่ามกลางวิกฤตโรคระบาด นำไปสู่เศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก ถือว่ารัฐบาลวางรากฐานให้รัฐบาลหลังจากนี้มาเก็บกิน
การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศต้องยกนิ้วให้ว่า เป็นยุคก้าวกระโดด
ส่วนการปราบคอร์รัปชั่นถือว่าสอบตกเหมือนทุกรัฐบาลที่ผ่านมา
มาดูกรณียุบสภากันบ้าง
ดูเงื่อนไขแล้ว ไม่ยากไม่ง่าย
เมื่อพิจารณาถึงสาเหตุของการยุบสภาผู้แทนราษฎร ก็พบว่าแต่ละครั้งของการยุบสภาล้วนมีเหตุการณ์และเงื่อนไขที่เป็นสาเหตุแตกต่างกันไป
พอสรุปถึงสาเหตุหลักๆได้ ๓ ประการ
๑.ความขัดแย้งระหว่างฝ่ายบริหารกับฝ่ายนิติบัญญัติ
๒.ความขัดแย้งภายในพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล
และ ๓ ปัญหาทางการเมืองหรือวิกฤตการณ์ทางการเมือง
นับแต่อดีตมีการยุบสภามาแล้ว ๑๔ ครั้ง
ครั้งสุดท้าย ยุบโดย ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้เหตุผลครอบจักรวาล เป็นปัญหาวิกฤตการณ์ทางการเมือง ความขัดแย้งและความแตกแยกของชนในชาติ
ฉะนั้นระยะเวลา ๔ เดือนหลังจากนี้มีปัจจัยอะไรให้ต้องยุบสภาบ้าง
หากมีร่างกฎหมายของรัฐบาลเข้าสภา นั่นคือความเสี่ยงสูงสุด
เพราะหากร่างกฎหมายของรัฐบาลถูกคว่ำ ก็บ้านใครบ้านมัน
ขณะนี้กฎหมายสำคุญของรัฐบาล อาทิ ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี ไม่ใช่ปัญหา เพราะตามไทม์ไลน์ ไม่ใช่ร่างกฎหมายที่ต้องพิจารณาในช่วงเวลาดังกล่าวนี้
ขณะที่ ร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางการเมืองได้ เพราะ ๒ พรรคร่วมรัฐบาล คืออ ภูมิใจไทย กับ ประชาธิปัตย์ มีความเห็นแย้ง และแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
หากร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ เข้าสู่การพิจารณาของสภา มีแนวโน้มจะกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐ และนำไปสู่อุบัติเหตุทางการเมืองได้เช่นกัน
ช่วงเวลาใกล้เลือกตั้ง คือห้วงเวลาช่วงชิงคะแนนเสียง
การที่พรรคภูมิใจไทยเน้นย้ำมาตลอดว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้คือกฎหมายของรัฐบาล ก็หมายความว่า พรรคประชาธิปัตย์ต้องยอมรับในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล
หากพรรคประชาธิปัตย์ยืนกรานจะโหวตสวน เพราะยืนยันมาตลอดว่า กัญชา คือยาเสพติด การยุบสภาอยู่แค่เอื้อม
ส่วนวิกฤตการเมืองจากการชุมนุมขับไล่รัฐบาล จนต้องยุบสภานั้น แทบมองไม่เห็น เพราะบรรดาหัวโจกที่อยู่เบื้องหลังเด็กล้วนอยู่ในพรรคการเมืองทั้งสิ้น คนพวกนี้ก็ระแวดระวังไม่ให้เกิดสถานการณ์แทรกซ้อนจนไม่มีสนามให้เล่น
ฉะนั้นสาเหตุยุบสภาก่อนสิ้นเดือนมีนาคม น่าจะมาจากกรณีเดียว คือร่างพ.ร.บ.กัญชา
ก็เท่ากับรัฐบาลล้ม เพราะขัดขากันเอง
