ผักกาดหอม
ม.๑๑๒ จะถูกขยายความไปอีกมากหลังจากนี้
อย่างที่หยิบยกมาคุยกันเมื่อวาน การที่พรรคก้าวไกล โดยการสนับสนุนของคณะก้าวหน้า ประกาศนโยบายหลักของพรรค เพื่อใช้ในการหาเสียง คือการแก้ไข ม.๑๑๒ จะทำให้การเลือกตั้งที่จะมีขึ้น เกิดความร้านฉานในสังคมมากยิ่งขึ้น
ในสภาโดยพรรคก้าวไกลจะใช้คำว่า…
“แก้ไข ม.๑๑๒”
แต่นอกสภาโดยมวลชนของพรรคก้าวไกล คณะก้าวหน้า จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า…
“ยกเลิก ม.๑๑๒”
จะเป็นการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ที่พรรคการเมืองเปิดปราศรัยในประเด็นที่กระทบถึงสถาบันพระมหากษัตริย์โดยตรง
และจะบ่มเพราะความขัดแย้ง รอวันระเบิดหากพรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้ง ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
ในขณะที่พรรคก้าวไกล คณะก้าวหน้าบอก ปฏิรูปสถาบัน แต่ประชาชนจำนวนมากตั้งข้อสงสัยจากพฤติกรรมของสมาชิกพรรค และมวลชนพรรคก้าวไกล คณะก้าวหน้า คำว่า ปฏิรูปสถาบัน คือข้ออ้างเพื่อทำลายสถาบัน เสียมากกว่า
ความเชื่อนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเอง
แต่เกิดจากท่าทีที่ไม่เป็นมิตรต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะการแสดงความคิดความเห็นในโซเชียล มีการโจมตีสถาบันฯอย่างรุนแรงและกว้างขวาง โดยกลุ่มคนที่สนับสนุนพรรคก้าวไกล และคณะก้าวหน้า มาพักใหญ่แล้ว
ฉะนั้น การมองนโยบายแก้ม.๑๑๒ ของพรรคก้าวไกล จึงอยู่บนพื้นฐานของความไม่ไว้วางใจ ว่าปลายทางอยู่ที่ไหนกันแน่
ท่าที่จาก “ปิยบุตร แสงกนกกุล” ดูจะเป็นปัญหา และยุ่งยากต่อการที่พรรคก้าวไกลชี้แจงนโยบาย แก้ม.๑๑๒ ต่อประชาชน
ปฏิวัติฝรั่งเศส มักถูกยกมากล่าวถึงเสมอ
เมื่อชินหู ผู้คนก็มองว่า เป้าหมายของ พรรคก้าวไกล และคณะก้าวหน้าคือการทำแบบเดียวกับปฏิวัติฝรั่งเศส
ครับ…วันสองวันมานี้ “ปิยบุตร แสงกนกกุล” พูดถึง ม.๑๑๒ และการปฏิรูปาสถาบัน มากเป็นพิเศษ
เป็นความไม่พอใจ พรรคการเมืองอื่นที่ประกาศไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกลตั้งแต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกตั้งกันวันไหน
“ที่ไม่สบายใจที่สุดคือ พอแต่ละพรรค ส.ส. แต่ละคน ผู้มีอำนาจไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 รวมถึงสื่อมวลชนบางส่วน บางฝ่ายที่ไม่ได้เห็นด้วย
หรือแม้แต่ไอโอที่มีการไปปลุกระดม ปั่นกระแสต่างๆ ก็ไปทำในลักษณะที่ว่า พรรคก้าวไกลเขาแตะแต่เรื่อง ๑๑๒ ไป Branding ตีตราให้พรรคเขากลายเป็นพรรคที่มีวิธีคิดเกี่ยวกับเรื่องสถาบันกษัตริย์อย่างไร ทำแบบนี้มีประโยชน์ตรงไหน
ถ้ามัวแต่มาทำแบบนี้ พูดว่าพรรคก้าวไกลมีแต่เรื่อง ๑๑๒ โดยจงใจไม่พูดถึงว่าเขาเป็นพรรคที่เตรียมทำเรื่องเศรษฐกิจ สวัสดิการสังคม ปฏิรูปกองทัพ กระจายอำนาจ ฯลฯ
หากหมกมุ่นพูดแต่ว่าก้าวไกลเป็นพรรคที่ทำแต่เรื่อง ๑๑๒ แล้วพอถึงเวลาเขาลงเลือกตั้ง แล้วได้คะแนนเสียงมา
หากได้เท่าเดิมเท่ากับตอนอนาคตใหม่คือ ๖ ล้าน ๓ แสนเสียง หรือได้เพิ่มขึ้นหรือน้อยลง ได้ ส.ส. เข้าสภามา แล้วไป Branding ให้พรรคก้าวไกลเป็นแบบนี้ ถ้าเป็นเช่นนี้ใครเดือดร้อน
พรรคก้าวไกลและประชาชนที่เลือกพรรคก้าวไกลไม่น่าจะเดือดร้อน
แล้วเกิดลงเลือกตั้งแล้วเขาได้คะแนนมาเยอะ ได้มากกว่าพรรคที่ประกาศตัวทุกวันว่าจงรักภักดี ประชาชนจะคิดกันอย่างไร
อยากให้ลองพิจารณากันให้ดีๆ ว่าควรใช้วิธีการแบบนี้หรือไม่ จะเป็นประโยชน์ต่อสถาบันกษัตริย์หรือไม่…”
กึ่งขู่ กึ่งท้าทาย!
เหมือนจะบอกว่าให้ระวังให้ดี หากพรรคก้าวไกล ชนะเลือกตั้งแลนด์สไลด์ จะเกิดอะไรขึ้นกับ ม.๑๑๒
การเมือง การเลือกตั้ง คาดการณ์ได้ แต่ฟันธงยาก
พรรคก้าวไกลมีโอกาสชนะการเลือกตั้งแบบถล่มทลาย หากประชาชนส่วนใหญ่ มองตรงกันว่า การแก้ม.๑๑๒ ของพรรคก้าวไกล มีประโยชน์ต่อสถาบันฯมากกว่า
แต่ก็มีแนวโน้มสูงว่า ความแตกต่าง และแตกแยก จะรุนแรงกว่าในอดีต เพราะเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ มีความละเอียดอ่อนสูง
พรรคก้าวไกลจะแก้ม.๑๑๒ ประเด็นอะไรบ้าง
ลดโทษจำคุก
ย้ายออกจากหมวดความมั่นคง
ให้สำนักพระราชวังเท่านั้นที่เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ
และกำหนดให้มีเหตุยกเว้นความผิด เหตุยกเว้นโทษ ในกรณีวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริต เพื่อประโยชน์สาธารณะ
เหมือนจะดูดี แต่ซ่อนปัญหาใหม่ที่จะตามมา
เพราะข้อเสนอของพรรคก้าวไกลล้วนเป็นการเปิดทางให้วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์ได้ง่ายขึ้น
และต้องการให้สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นคู่พิพาทกับประชาชนโดยตรง
การให้สำนักพระราชวังเท่านั้น เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ แปลความเป็นอย่างอื่นไม่ได้ เพราะสำนักพระราชวังต้องรอพระบรมราชานุญาต เท่านั้น
ฉะนั้นหากพรรคก้าวไกลแก้ม.๑๑๒ สำเร็จ คดีม.๑๑๒ ไม่ใช่คดีความมั่นคงอีกต่อไป ให้พระมหากษัตริย์เป็นผู้ฟ้อง มีบทลงโทษน้อย แถมให้ยกเว้นโทษหากวิจารณ์โดยสุจริต
ก็แทบไม่ต่างการฟ้องหมิ่นประมาทบุคคลธรรมดา
แต่นี่แค่ก้าวแรกเท่านั้น!
การแก้ม.๑๑๒ เป็นเพียงการเปิดประตูไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์ ได้อย่างง่ายดายขึ้นเท่านั้น
ที่ตามมาหลังจากนั้น เชื่อว่าผู้คนเริ่มจะมองออกแล้ว
นี่ยังไม่พูดถึงความปรารถนาให้ ปฏิวัติฝรั่งเศส เป็นจริงในไทย
ม.๑๑๒ จะเป็นปัญหา เมื่อมีคนต้องการวิจารณ์และโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์
“ปิยบุตร” อ้างว่าการติชมโดยสุจริต เพื่อประโยชน์สาธารณะ ไม่ควรมีโทษจำคุกสูงถึง ๑๕ ปี
แต่เมื่อมองย้อนกลับไป “ปิยบุตร” ติชมโดยสุจริตเพื่อประโยชน์สาธารณะจริงหรือ?
“ประยุทธ์ตบหัวลูกน้องอ้างว่าทำด้วยความเอ็นดู ดังนั้น ประยุทธ์ก็ยอมให้ลูกพี่ตนเองตบหัวด้วยความเอ็นดูเช่นกัน ปัญหามีอยู่ว่าในสายตาของประยุทธ์ ประชาชนไม่ใช่ลูกพี่ของเขา แล้ว “ลูกพี่” ของเขาคือใคร? ต้องไปดูว่า “ใคร” ที่ตบหัวสั่งประยุทธ์ แล้วเขาไม่หือ ยิ้มรับ และยอมทำตามสั่ง”
“ประเทศไทยจะเป็นอย่างไรระหว่าง ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์จำแลง ที่มีกองทัพ ระบบราชการ และทุนผูกขาดค้ำจุนหรือ ระบอบประชาธิปไตย ที่ประชาชนเป็นผู้ทรงอำนาจสูงสุด และมีกษัตริย์เป็นประมุขของรัฐอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ”
“ปฏิรูปไม่ใช่ล้มล้าง แต่ถ้าคนเรียกร้องปฏิรูป คือล้มล้าง หรือนำไปสู่ล้มล้างนั่นเท่ากับว่าบีบให้เลือก 1 ไม่ปฏิรูปเพื่อไม่ใช่ล้มล้าง หรือ ๒ ล้มล้างให้ราบเป็นหน้ากลอง เพื่อไม่ให้ใครบอกว่าเป็นล้มล้าง คำตัดสินของคนไม่กี่คนชี้ชะตาประเทศ ประตูปฏิรูปมี อย่าปิดประตูปฏิรูป”
คำพูดที่กำกวม แต่ท่าทีเป็นปฏิปักษ์ สะท้อนถึงสิ่งที่ “ปิยบุตร” คิด และต้องการให้เป็น
หากไม่มีม.๑๑๒ จะเป็นเช่นไร
เมื่อพรรคก้าวไกลโดยการครอบงำของคณะก้าวหน้า นำการแก้ม.๑๑๒ มาใช้ในการหาเสียง จะต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยหากจะนำไปสู่ความขัดแย้งของคนในชาติรุนแรงขึ้น
เพราะจะไม่มีความขัดแย้งหนไหนรุนแรงไปกว่านี้อีกแล้ว
ภาพจากเฟซบุ๊ก Piyabutr Saengkanokkul – ปิยบุตร แสงกนกกุล
