สันต์ สะตอแมน
มีนา. ปีหน้า-66..
คุณธานินทร์ อินทรเทพ นักร้องของชาติ ที่ยังไม่ได้ “ศิลปินแห่งชาติ” ได้ปรารภกับผมว่า “กูครบ 80 ปีเต็ม อยากจัดงานเลี้ยงฉลองสักครั้ง มึงว่าดีไหม”?
“เพื่ออะไรครับพี่” แทนที่จะตอบดี-ไม่ดี ผมกลับย้อนถาม.. “ไม่รู้..คิดว่าอยู่มานานมากแล้ว ขอจัดวันเกิดให้ตัวเองสักปี มึงว่าจัดที่ไหนดี”
“ถ้าเอาแบบเชิญแขกเหรื่อ พรรคพวกเพื่อนฝูงเต็มที่ก็ต้องสนามหลวงแล้วล่ะ”ผมแหย่ เพราะคุณธานินทร์ หรือ “พี่เล็ก” นั้นได้ชื่อเป็นนักร้อง (ใจ) นักเลง..
มีพี่น้องเพื่อนฝูงคบหาสมาคมฯ อยู่หลากหลายวงการ จัดในร้านอาหารมีหวังได้ขี่คอกันนั่ง!
แต่..ก็ไม่แน่นะ ด้วยเพื่อนพ้องน้องพี่ที่ว่าก็ชักเริ่มร่อยหรอร่วงโรยกันไปทีละคนสองคน หรือจะด้วยเหตุนี้รึเปล่าไม่รู้ พี่เล็กถึงอยากจัดงานวันเกิดให้ตัวเอง..
ที่นอกจากจะได้พบปะหน้าคนเก่า-เพื่อนแก่รำลึกย้อนอดีตกันแล้ว ด้านหนึ่งยังจะเป็นการเช็คเรตติ้งดูว่า เวลานี้มีเพื่อนพี่น้องที่ยังมีลมหายใจอยู่อีกกี่มากน้อย?
และคงน่าจะไม่เกี่ยวกับที่มีคนส่งข้อความไปให้ทางไลน์..“พี่เล็กเชื่อหรือเปล่าว่าปีนี้ 65 เป็นปีเบญจเพศ คนบันเทิงจะเสียชีวิตซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ตลอดปี 65 จะต้องมีศิลปินดารานักแสดงวงการบันเทิงก็จะต้องมีตายต่อเนื่องไปอีกเรื่อยๆ จนกว่าจะสิ้นปี
เบญจเพศมีทางเดียวเท่านั้น จะต้องจัดงานทำบุญใหญ่เพื่อล้างอาถรรพ์ แก้เหตุอาเพศร้ายให้ศิลปินทุกแขนงมารวมตัวกันทำบุญใหญ่อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร
และองค์พญามัจจุราชองค์ยมบาท ขอขมากรรมท่านองค์ยมทูตยมบาลโลก ไม่งั้นจะต้องมีการตายเกิดขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วยครับ”
ที่เชื่อว่าไม่เกี่ยว เพราะคุณธานินทร์มักพูดให้ผมได้ยินเสมอ..ความตายนั้นเป็นธรรมดา ไม่ได้ทุกข์-กังวล กลัวจะมีอายุยืนยาว แล้วต้องอยู่เดียวดายเมื่อพี่พ้องน้องเพื่อนตายจากโลกไปเสียมากกว่า!
ก็..เอาเป็นว่า ปีหน้านี้ถ้าไม่อะไรติดขัดจริงๆ คุณธานินทร์ อินทรเทพ “นักร้องของชาติ” จะจัดงานฉลองอายุครบ 80 ปีแบบยิ่งใหญ่อลังการแน่..เพื่อนพ้องเตรียมตัวกันไว้!
นี่..กำลังเขียนถึงคุณธานินทร์ ก็พอดีได้ยินเพลง “หัวใจร้อยรัก” แว่วเข้าหู เพลงนี้ “ครูจงรัก จันทร์คณา” อดีตเพื่อนรัก-เพื่อนซี้ (ไปแล้ว) พี่เล็กเป็นคนแต่ง
จากหนังสือ “เล่าเบื้องหลังเพลงดัง” ครูจงรักเล่าว่า.. “ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังแต่งเนื้อเพลงอยู่หน้าห้องอัดเสียงให้ธานินทร์ อินทรเทพร้อง กำลังมึน ไม่รู้จะแต่งเพลงอะไรดีกับเพลงต่อไป เหลียวซ้ายแลขวา..
เห็นนักร้องหญิงกับเพื่อนสองคนกำลังนั่งให้หมอแขกดูลายมืออยู่ ได้ยินหมอแขกบงการ..เดี๋ยวให้กำมือ-เดี๋ยวให้แบมือ ข้าพเจ้าก็ฉุกคิด..
ไม่รู้ใครเคยโม้ให้ฟังว่า ถ้าเห็นใครลายมือขาด คนนั้นมักเป็นคนเด็ดขาด มือแม่นอีกต่างหาก นอกจากแม่นปืนแล้ว การใช้มีดโกนก็แม่นฉมังนัก
แต่ถ้าเห็นใครลายมือยุ่งเหยิง จงรู้ไว้เถิดว่า คนนั้นนิสัยมักจุกจิกจู้จี้ บ่นให้เรายุ่งหัวใจได้ทั้งวัน
แล้วก็แว๊บ..เข้ามาเป็นบทเพลง “หัวใจร้อยรัก” ในทันทีนั้น แต่งเสร็จ ธานินทร์ก็ร้องเพลงก่อนหน้านี้เสร็จเหมือนกัน เขารับเนื้อเพลงที่แต่งสดๆกระดาษยังอุ่นๆ ไปดูแล้วชมว่าเนื้อแปลกพิศดารดี
ข้าพเจ้าชี้ให้ดูที่โต๊ะม้าหินซึ่งมีแขกหมอดูกำลังม่วนอยู่กับนักร้องสาวสองคนนั่น.. “เพลงนี้เก็บได้จากโต๊ะโน้นแหละ” ธานินทร์มองตามมือแล้วหัวเราะชอบใจ
“ไหนลองกำมือของเธอดูซี โถใจเธอก็เพียงเท่านี้ แต่ไยไม่มีที่จะเพียงพอ รสรักชายหนึ่ง คลึงเคล้าพะนอ ไม่ถึง-ใจจึงไม่พอ ต้องเติมรักต่อ-ให้ร้อยรอบตัว”..เพลงจบ แต่ผมนั่งคิดต่อในใจ..
เมื่อไหร่คุณธานินทร์จะได้เป็นศิลปินแห่งชาติเสียทีหนอ?