ชาวเคหะคลองจั่นเฮ หลัง บอร์ดการเคหะฯ เตรียมมีมติยุติโครงการมิกซ์ยูส พีระพันธุ์ เล็งแก้ กม. ให้ ปชช.มีส่วนร่วมดูแลและออกแบบชุมชนของตัวเอง

5 พฤศจิกายน 2565-ชาวเคหะคลองจั่นเฮลั่น หลังประธานบอร์ดการเคหะฯ เตรียมออกมติยุติโครงการมิกซ์ยูส คอนโดขนาดใหญ่บนเนื้อที่อยู่อาศัยในชุมชนการเคหะคลองจั่น เพราะประชาชนคัดค้าน

ด้าน “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” หวังแก้กฎหมาย การเคหะฯ ให้เน้นการมีส่วนร่วมของผู้อยู่อาศัย ระบุนายกฯ เป็นห่วงเร่งให้หาแนวทางแก้ปัญหา หลังรับทราบความเดือดร้อน ด้าน ส.ส.โอ๋-ฐิติภัสร์ ยกความเข้มแข็งของชุมชนเคหะคลองจั่นเป็นตัวอย่าง ชี้ “สมาร์ท ซิตี้ “ไม่ได้อยู่ที่ความทันสมัยอย่างเดียว แต่หมายถึงการมีส่วนร่วมของประชาชนด้วย

เมื่อวันที่ 3 พ.ย.2565 ที่ตึกกองบัญชาการ 2 ทำเนียบรัฐบาล นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยความเป็นธรรมและเร่งรัดการปฏิบัติราชการ เป็นประธานการประชุมหาข้อสรุป กรณีประชาชนชุมชนเคหะคลองจั่น กรุงเทพฯ ลงนามจำนวน 2,278 รายชื่อคัดค้านการก่อสร้างโครงการอาคารสูงสำหรับผู้พักอาศัย The Lake และThe park ของการเคหะแห่งชาติ เนื่องจากเกรงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อชีวิตความเป็นอยู่และสภาพแวดล้อมของชุมชน หากมีการก่อสร้างจริง โดยเฉพาะ ปัญหาน้ำท่วม และปัญหาความแออัดของผู้อยู่อาศัย เป็นต้น

โดยมี พล.ต.ดร.เจียรนัย วงศ์สะอาด ประธานคณะกรรมการการเคหะแห่งชาติ ,นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการเคหะแห่งชาติ ผู้บริหารการเคหะแห่งชาติ และตัวแทนประชาชนจากชุมชนเคหะคลองจั่น พร้อมด้วย น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร เขตบางกะปิ-วังทองหลาง ในฐานะตัวแทนชุมชนร่วมหารือ

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา นายพีระพันธุ์ และคณะผู้บริหารการเคหะแห่งชาติ ได้ลงพื้นที่บริเวณที่อยู่อาศัยของประชาชน บริเวณการเคหะคลองจั่น เพื่อสำรวจจุดสำคัญที่อาจจะได้รับผลกระทบจากโครงการดังกล่าวร่วมกับผู้นำชุมชน เช่น บริเวณสนามฟุตบอลคลองจั่น สระน้ำสวนนวมินทร์ภิรมย์ และบึงพังพวย ซึ่งเป็นแก้มลิงเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมในเขตบางกะปิ บึงกุ่ม และพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งจุดที่ประชาชนขอให้การเคหะฯปรับปรุงบริเวณสาธารณะหลายจุด เช่น สนามฟุตบอล เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการใช้พื้นที่ หลังจากนั้นได้เข้าร่วมเวทีประชาชน พร้อมรับหนังสือการลงนามจำนวน 2,278 รายชื่อคัดค้านการก่อสร้างโครงการดังกล่าว กระทั่งล่าสุดได้เชิญทั้งสองฝ่ายมาประชุมร่วมกันอีกครั้ง

นายพีระพันธุ์ กล่าวระหว่างการประชุมว่า จากที่ตนได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมด เบื้องต้นได้รับรายงานข้อเท็จจริงจากการเคหะฯ ว่า โครงการดังกล่าวเป็นเพียงการศึกษาในภาพรวมไม่ได้เจาะจงเฉพาะพื้นที่ เนื่องจากการเคหะฯ ต้องการศึกษาทรัพย์สินทั้งหมดว่าสามารถพัฒนาต่อไปได้หรือไม่ ส่วนของพื้นที่เคหะคลองจั่นเป็นหนึ่งในหลายแห่งที่ได้ทำการศึกษา อย่างไรก็ตาม บริษัทที่ปรึกษาที่รับจ้างจากการเคหะฯ ลงไปศึกษาพื้นที่ต่างๆ ได้ดำเนินการไปตามภารกิจหน้าที่โดยมุ่งเป้าเรื่องการพัฒนาที่ดิน โดยไม่ได้มองเรื่องของมวลชน หรือผลกระทบต่อประชาชนเชิงสังคมในภาพรวมทำให้เกิดความไม่เช้าใจกันดังกล่าว ซึ่งเป็นจุดอ่อนของบริษัทที่ปรึกษา เรื่องนี้ผู้บริหารการเคหะฯ ไม่ได้ทราบในรายละเอียดมาก่อนแต่เมื่อทราบแล้วก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้นำปัญหามาหาแนวทางแก้ไขอย่างรวดเร็ว

นายพีระพันธุ์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของความเห็นของตนจากที่ได้ลงพื้นที่ และได้รับรายงานข้อเท็จจริงต่างๆ เห็นว่าโครงการนี้เป็นโครงการใหญ่ที่ต้องใช้งบประมาณหลักหมื่นล้านบาทซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายในการหางบประมาณมาดำเนินการ เพราะการศึกษาโครงการสามารถเขียนได้ง่าย แต่การทำจริงไม่ได้ง่ายเหมือนเขียนรายงาน

“จากกรณีนี้ ผมคิดว่ากฎหมายการเคหะควรต้องปรับใหม่ทั้งหมด เพราะกฎหมายที่ใช้อยู่ทุกวันนี้ใช้มานานมาก ถ้าใครเคยไปที่สิงคโปร์จะเห็นว่าเมื่อเข้าใกล้เขตเมืองจะเห็นอาคารรูปแบบเป็นแท่งๆ ของการเคหะสิงคโปร์ ของเราเรียก กคช. ของเขาเรียก HDB ซึ่งพัฒนาไปไกลกว่าเรามาก ทั้งๆ ที่เขามาดูงานอาคารสงเคราะห์ของเราที่จอมพล ป. ริเริ่มไว้มาตั้งแต่สมัยที่ลีกวนยู เป็นนายกฯ สมัยแรก เขาต้องการพัฒนาที่อยู่อาศัยจากสลัม โดยเข้ามาดูที่ดินแดง หลังจากที่ดูงานเขากลับไปพัฒนาปรับปรุงตั้งหน่วยงานของเขาขึ้นมา การทำงานของเขาไม่ได้ทำงานคนเดียว เรื่องการจัดที่อยู่อาศัยของเขาทำงานเป็นทีม หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารอาคารสงเคราะห์ กองทุนบำเหน็จบำนาญ ต้องมีส่วนร่วมโดยกำหนดเป็นกฎหมายว่าจะต้องร่วมกับการเคหะฯดูแลประชาชนด้วย

ด้านพล.ต.ดร.เจียรนัย วงศ์สะอาด ประธานคณะกรรมการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า เนื่องจากการศึกษาของโครงการเป็นแผนแม่บทของการเคหะฯ ที่จะต้องดำเนินการ แต่หากส่งผลกระทบต่อประชาชน และประชาชนคัดค้าน บริษัทที่ปรึกษาก็จะต้องรายงานการศึกษาอย่างถูกต้องชัดเจน ดังนั้นเมื่อมีประชาชนคัดค้าน บอร์ดการเคหะฯ สามารถออกเป็นมติยกเลิกหรือยุติโครงการนี้ไปก่อน ยืนยันว่าจะไม่มีนโยบายการดำเนินการต่อจนกว่าชาวบ้านจะให้มีการก่อสร้างในพื้นที่นี้ และหากชาวบ้านไม่ยินยอมโครงการก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว และขอให้ไปศึกษาในพื้นที่อื่นๆ ของการเคหะฯ ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนแทน

รวมทั้งจะได้เสนอไปยังสภาพัฒน์ฯ เพื่อนำโครงการนี้ออกจากแผนแม่บทของการเคหะฯ ซึ่งจะทำให้เป็นการยุติโครงการได้อย่างถาวร ไม่สามารถดึงกลับมาทำได้อีกไปโดยปริยาย

“นอกจากนี้ การเคหะฯ จะร่วมกับชุมชนเคหะคลองจั่น จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมา โดยมีตัวแทนจากคนในชุมชนเข้ามาร่วมเป็นกรรมการด้วย เพื่อมาทำงานร่วมกัน ทั้งในเรื่องของการดูแลพื้นที่ พัฒนาชุมชน เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมที่แท้จริง และต้องการสร้างให้เกิดชุมชนที่มีความสุข โดยคณะกรรมการชุดนี้จะทำงานประสานกันระหว่างผู้อยู่อาศัยกับ การเคหะแห่งชาติ หากมีปัญหาก็สามารถแจ้งมาเพื่อร่วมกันหาแนวทางแก้ไข หรือหากมีข้อเสนอแนะในการพัฒนาพื้นที่และชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน เช่น กรณีการฟื้นฟูวิถีชุมชน รวมไปถึงการนำพื้นที่ส่วนรวมเช่น สนามฟุตบอลกลับมาให้ประชาชนได้ใช้ต่อไป ก็สามารถนำมาหารือร่วมกันได้” พล.ต.ดร.เจียรนัยกล่าว

ขณะที่ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร เขตบางกะปิ-วังทองหลาง พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า สำหรับชาวชุมชนคลองจั่นถือว่าเป็นชุมชนที่แข็งแรง ที่ผ่านมาได้มีการทำงานร่วมกันเองของประชาชนในพื้นที่โดยเฉพาะการประชุมเพื่อหาทางแนวทางแก้ปัญหาต่างๆ หลังจากที่ได้รับทราบผลการประชุมแล้ว ทุกคนรู้สึกดีใจและได้รับทราบว่าจะได้เร่งดำเนินการในการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อประสานงานร่วมกับการเคหะฯต่อไป

“อยากให้พื้นชุมชนคลองจั่นเป็นพื้นที่ตัวอย่างในการผลักดันให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน คำว่า “สมาร์ทซิตี้” ไม่ไกลเกินเอื้อม หากทุกหน่วยงานให้ความร่วมมือ “สมาร์ทซิตี้” ไม่จำเป็นว่าจะเป็นแค่เรื่องของความทันสมัยแต่ยังรวมถึงการมีส่วนร่วมของประชาชนให้เกิดสาธารณประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชนด้วย” น.ส.ฐิติภัสร์กล่าว

ด้านนางบุรัญชลี ทองเจริญ ผู้อยู่อาศัยในชุมชนเคหะคลองจั่น กล่าวว่า วันนี้ รู้สึกดีใจ เพราะมีความกังวลเรื่องผลกระทบจากโครงการตั้งแต่รับรู้ว่าการเคหะฯ ทำการศึกษาเรื่องนี้ หากมีการสร้างคอนโดขนาดใหญ่ขึ้นมาจริงๆ จะต้องได้รับความเดือดร้อนทั้งเรื่องของความแออัด และสาธารณูปโภค รวมทั้งปัญหาสังคมที่จะเกิดขึ้น อย่างแน่นอน ซึ่งจากที่ได้รับฟังผลวันนี้ถือว่ารัฐบาลมีการดำเนินการได้อย่างรวดเร็วในการช่วยแก้ไขปัญหาหลังจากที่พวกตนได้พยายามคัดค้านร้องเรียนตลอดเวลาที่ผ่านมา และหวังว่าหลังจากนี้จะมีการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม เพราะเป็นสิ่งที่การเคหะฯ ทำได้อยู่แล้ว เป็นสิ่งที่ดีที่มีการตัดสินใจแบบนี้ ประชาชนก็มีความสุขที่จะใช้ชีวิตอย่างสบายใจต่อไป

Written By
More from pp
พบกับโปรโมชั่นห้องพักสุดหรู จาก เคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลส์ ราคาพิเศษสุดปัง ในงาน “ภูเก็ตเด็ดทั้งเกาะ”
พบกับโปรโมชั่นห้องพักสุดหรู จาก เคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลส์ ราคาพิเศษสุดปัง ในงาน “ภูเก็ตเด็ดทั้งเกาะ”
Read More
0 replies on “ชาวเคหะคลองจั่นเฮ หลัง บอร์ดการเคหะฯ เตรียมมีมติยุติโครงการมิกซ์ยูส พีระพันธุ์ เล็งแก้ กม. ให้ ปชช.มีส่วนร่วมดูแลและออกแบบชุมชนของตัวเอง”