3 พฤศจิกายน 2565- นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า สถานการณ์การติดเชื้อโรคโควิด19 ในกลุ่มเด็ก พบอัตราป่วยในเด็กเล็กมากกว่าเด็กโต 1.5 เท่า และป่วยเสียชีวิตมากกว่าเด็กโต 3 เท่า ประกอบกับพบเด็กที่มีภาวะ Mis-C หรือ Long Covid ที่มีอาการรุนแรง ในผู้ป่วยเด็กเป็นสัดส่วนที่สูงขึ้น จึงควรเร่งรัดการฉีดวัคซีนในกลุ่มเป้าหมายเด็ก
ทางกรมควบคุมโรค จึงร่วมมือกับ กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวง พม. และประสานขอความร่วมมือจาก สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี เขตสุขภาพ 4 และศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุ ชลประทาน มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
เพื่อเร่งดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเป้าหมายเด็กอายุ 6 เดือน ถึงต่ำกว่า 5 ปีในสถานสงเคราะห์เด็กพญาไท และมีแผนการเร่งรัดการฉีดให้เด็กเล็กในสถานสงเคราะห์ทั่วประเทศเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด และลดความรุนแรง ในกลุ่มเป้าหมายเด็กเล็ก
นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเสริมว่า ถึงแม้ว่าการฉีดวัคซีนจะไม่สามารถป้องกันโรคได้ 100% แต่เมื่อได้รับเชื้อจะมีอาการไม่รุนแรง ที่สำคัญจะลดโอกาสการแพร่เชื้อสู่บุคคลอื่น หรือเด็กๆ อื่น
จากการศึกษาความปลอดภัยของการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ฝาสีแดง พบว่า มีความปลอดภัย อาการข้างเคียงไม่รุนแรง โดยส่วนใหญ่จะเจ็บบริเวณที่ฉีด มีไข้ อ่อนเพลีย
แนะนำให้เด็กทุกคนควรเข้ารับวัคซีน โดยเฉพาะเด็กที่มีโรคประจำตัวที่มีความเสี่ยงต่อการป่วยรุนแรง ตามข้อแนะนำของ ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย และ อนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค หน่วยงานทุกภาคส่วนสามารถประสานขอรับการสนับสนุนวัคซีนจากกรมควบคุมโรคโดยผ่านสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ
นายแพทย์พูลลาภ ฉันทวิจิตรวงศ์ ผู้ตรวจราชการเขตสุขภาพที่ 4 กล่าวว่า ในขณะนี้จังหวัดนนทบุรีได้เร่งรัดการฉีดวัคซีนในกลุ่มเด็กอายุ 6 เดือน ถึง 4 ปีเด็กเล็ก ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขเนื่องจากการติดตามภาพรวมการฉีดวัคซีนโควิด 19 ในการประชุมติดตามสถานการณ์โรคโควิด 19 ที่มีท่านปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธานไปเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2565
พบว่ายังมีการรับวัคซีนน้อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเด็กเล็ก โดยมีแผนเร่งเปิดหน่วยบริการฉีดวัคซีนสำหรับเด็กเล็กของทั้งภาครัฐและภาคเอกชน จัดหน่วยบริการฉีดวัคซีนเชิงรุกไปตามศูนย์เด็กเล็กต่างๆ ในจังหวัดนนทบุรี ซึ่งขณะนี้วัคซีนมีพอเพียง ขอเชิญชวนให้ผู้ปกครองนำบุตรหลานมาฉีดวัคซีนโดยเร็ว
ด้านผู้แทนกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า สถานสงเคราะห์เด็กอ่อน 8 แห่ง ของกรมกิจการเด็กและเยาวชน ได้รับการสนับสนุนวัคซีนโควิด-19 จากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อนำร่องการฉีดวัคซีนให้กับเด็กอายุ 6 เดือน – 5 ปี ในสถานสงเคราะห์เด็ก
ซึ่งแต่ละแห่งจะได้รับการสนับสนุนบริการฉีดวัคซีนจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โดยวันนี้ได้มาเปิดตัวโครงการฉีดวัคซีนที่สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพญาไทเป็นแห่งแรก โดยได้รับการสนับสนุนหน่วยฉีดจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี และศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุ ชลประทาน
และโครงการถัดไปจะเป็นศูนย์พัฒนาเด็กตำบลอุทัยสวรรค์ จังหวัดหนองบัวลำภู เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็ก ทั้งนี้แผนระยะยาวจะมีแผนจัดบริการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้กับเด็กโต รวมถึงเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการเป็นด่านหน้าในการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ต่อไป