สถาบันกัญชาทางการแพทย์ชี้แจง ถึงเจตนารมณ์ของรัฐบาลในการปลดกัญชาออกจากยาเสพติดให้โทษนั้น เป็นไปเพื่อประโยชน์ด้านการแพทย์และสุขภาพแตกต่างจากยาบ้าที่ไม่มีประโยชน์มีแต่โทษ
จากกระแสข่าวของการปลดกัญชาออกจากรายการยาเสพติดให้โทษ เท่ากับเป็นการซ้ำเติมสังคมให้มียาเสพติดออกมาในสังคมมากขึ้น และกล่าวถึงกัญชาเป็นยาเสพติดที่เทียบเท่ากับยาบ้า
สถาบันกัญชาทางการแพทย์ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาชี้แจง ถึงเจตนารมณ์ของรัฐบาลในการปลดกัญชาออกจากยาเสพติดให้โทษนั้น เป็นไปเพื่อประโยชน์ด้านการแพทย์และสุขภาพ เพราะประโยชน์ของกัญชามีมากกว่าโทษ
ปัจจุบันมีผู้ป่วยเข้าถึงและใช้ยากัญชาทางการแพทย์หลายแสนรายทั้งการแพทย์แผนปัจจุบันและการแพทย์แผนไทย แตกต่างจากยาบ้าที่ไม่มีประโยชน์มีแต่โทษ
นพ.กิตติ โล่สุวรรณรักษ์ ผู้อำนวยการสถาบันกัญชาทางการแพทย์ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “กัญชาเป็นสมุนไพรพื้นบ้านของประเทศไทยที่มีการใช้เพื่อดูแลสุขภาพของคนไทยมานาน ในอดีตไม่เพียงประเทศไทยเท่านั้นที่ใช้กัญชาเป็นพืชสมุนไพร
แต่หลายประเทศในอาเซียน รวมถึงมีประสบการณ์นี้เช่นกัน และความรู้ก็แพร่ไปยังยุโรป จนเกิดการศึกษาวิจัยกว้างขวางในต่างประเทศ และนำมาใช้ในการรักษาโรคและความเจ็บป่วยในปัจจุบัน และเป็นหนึ่งในความหวังของวงการแพทย์ที่จะถูกนำมาใช้ในการรักษาโรค
โดยเฉพาะโรคที่รักษาด้วยยามาตรฐานไม่ได้ผล การปลดพืชกัญชาจากยาเสพติดเป็นการทำงานที่ต่อเนื่องอย่างเป็นขั้นตอน เริ่มจากอนุญาต ให้ใช้ทางการแพทย์และขยายขอบเขตสู่เศรษฐกิจในที่สุด”
“ในด้านการออกฤทธิ์นั้น กัญชามีฤทธิ์ทำให้สงบระงับ ส่วนยาบ้ามีฤทธิ์กระตุ้นประสาท ดังนั้นการเปรียบเทียบว่าเท่ากันคงไม่ได้ ความรุนแรงนั้นในหลายประเทศกัญชายังเป็นยาเสพติด ก็ยังจัดให้กัญชาเป็น Soft drugs คือ ยาเสพติดที่อันตรายต่ำ
ตัวอย่าง เช่น เหล้า,บุหรี่,ยานอนหลับ และกัญชายังถูกนำมาใช้ในการลดอันตรายจากการใช้ยาและยาเสพติดที่รุนแรง (Harm Reduction) เช่น การใช้เพื่อลดอันตรายจากการใช้ยากลุ่มแก้ปวดโอปิออยด์ในขนาดสูง การรักษาภาวะติดเหล้า บุหรี่
ในต่างประเทศมีงานวิจัยในการนำสาร CBD (ซีบีดี) ในกัญชา มาใช้บำบัดการติดยาแอมเฟตามีน ในประเทศไทยก็มีผลงานวิจัยองค์ความรู้เรื่องนี้เช่นกัน
เช่น ตำรับยาอดฝิ่นที่มีกัญชาเป็นส่วนผสม ต่างกับ ยาบ้า เป็น Hard drug คือ ยาเสพติดอันตรายสูง ตัวอย่าง เช่น เฮโรอีน, ฝิ่น, โคเคน ที่ทุกประเทศห้ามประชาชนตัวเองมีไว้ในครอบครอง
การปลดพืชกัญชาจากยาเสพติด กระทรวงสาธารณสุขมีระบบการเฝ้าระวังติดตามการนำไปใช้ในทางที่ผิด ตามที่ได้เคยชี้แจงให้สังคมได้ทราบแล้ว และขอให้เร่งรัดให้มีการออกพระราชบัญญัติกัญชากัญชง เพื่อให้เกิดการควบคุมอย่างเป็นระบบและเกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อประโยชน์ด้านการแพทย์และสุขภาพ” ผู้อำนวยการสถาบันกัญชาทางการแพทย์กล่าวทิ้งท้าย