เปลว สีเงิน
“ชลน่าน “ก็มันเขี้ยวเขาละ
ช่วงนี้ วันๆ ไม่ต้องทำอะไร…..
คิดแต่ประเด็นย่ำเหยียบ “นายกฯประยุทธ์” ให้สัมภาษณ์บ้าง ตั้งวงเสวนาบ้าน้ำลายบ้าง
ก็ “สรรประเด็น” เลี้ยงกระแสข่าวไปเรื่อยๆ
จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยเรื่อง ๘ ปีนายกฯ ออกมาโน่นหละ
ถ้าตรงใจ ก็สัมโมทนียกถา แต่ถ้าไม่ตรงใจ ก็คงดาหน้ากันออกมาทอดผ้าบังสุกุลตามสไตล์พวกเขา
เมื่อวาน (๓๐ สค.๖๕) อ่านข่าวที่เขาเสวนากันในหัวข้อ “๘ ปี ประยุทธ์ พอเถอะครับ”
ผมว่า เอาเวลาไปซักกระโปรงให้หัวหน้าครอบครัวใหญ่จะมีความดี-ความชอบมากกว่า และดีกว่ามาทำอะไรในทางด้อยค่า-ด้อยศักดิ์ศรี ตำแหน่ง “ผู้นำฝ่ายค้าน” นะ
นี่ถ้าผมเป็นพลเอกประยุทธ์และตวัดลิ้นถึงจมูกได้เหมือนพวกเพื่อไทย ก็จะบอกว่า
“พอ-ไม่พอ” เรื่องของกู ไม่หนักหัวกะบาลใคร ในเมื่อเรื่องถึงศาล ก็รอศาลท่านจะวินิจฉัย ผลออกมาอย่างไร ก็เป็นอย่างนั้น
จะต้องมาเที่ยว “นั่งไล่-ยืนไล่” ให้ออกไป ด้วยเหตุผลใด?
ก่อนว่าคนอื่นเขา ลองนึกย้อนดูพฤติกรรมตัวเองและนายตัวเองซักนิด ก็น่าจะละอายใจบ้าง
หรือว่า “ยางมนุษย์” ไม่มีแล้ว?
ที่มันปากกันในวงเสวนา ว่า………
“๘ ปีที่อยู่กับระบอบประยุทธ์ พี่น้องประชาชนยากลำบากในทุกมิติ จนตอบแทบไม่ได้ว่าประเทศไทยอยู่ตรงไหนของเวทีโลก
เพราะตลอด ๘ ปี นับตั้งแต่การรัฐประหาร ๒๕๕๗ สังคมโลกส่วนใหญ่เป็นประเทศประชาธิปไตย “ไม่ให้การยอมรับ”
อีกทั้งกลไกที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับการสืบทอดอำนาจ ล้วนแต่ได้แสดงออกให้เห็นชัดแล้วว่าได้ทำลายประชาธิปไตยและระบบรัฐสภาอย่างรุนแรง
หากระบอบประยุทธ์ ยังอยู่ต่อไป ระบอบประชาธิปไตยของประเทศจะถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง
เพราะประชาชนจำนวนหนึ่งสิ้นหวังกับระบบรัฐสภาที่ล้มเหลวด้วยกลไกที่เขาวางเอาไว้อย่างแนบเนียน”
เนี่ย…..
ที่พูด พูดด้วยข้อเท็จจริง หรือเสกสรรปั้นแต่งพูดด้วยแรงริษยา-อาฆาต ขอถาม?
-๘ ปี พี่น้องประชาชนลำบากทุกมิติ
-๘ ปี ไม่รู้ว่าไทยอยู่ตรงไหนของเวทีโลก
-๘ ปี สังคมโลกไม่ให้การยอมรับ
-๘ ปี ทำลายประชาธิปไตย
ชลน่าน ไหนลองยกตัวอย่างตามหัวข้อที่กล่าวหามาให้ประชาชนเห็นซิ?
อย่าสักแต่พูดลอยๆ แบบครอบจักรวาล มันเสียเกียรติภูมิตำแหน่ง “ผู้นำฝ่ายค้าน” รู้มั้ย
ผมก็ไม่ใช่ญาติโยมนายกฯ ประยุทธ์หรอก รู้จักก็ไม่เคยรู้จัก
ทักษิณนายพวกคุณด้วยซ้ำ…….
ผมยังรู้จักมักคุ้นมากกว่า ถ้าจะประจบแดกน่ะนะ ผมประจบนายคุณไม่ดีกว่าหรือ อย่างน้อย ก็มีน้ำข้าวให้เลีย
ก่อนเข้าการเมือง นายพวกคุณบอก “ผมรวยแล้วไม่โกง”
พออำนาจการเมืองอยู่ในมือแล้ว นายพวกคุณเป็นตัวตั้ง-ตัวตีซะเอง “โกงเอามาแบ่งกัน” สะบั้นหั่นแหลก
ถึงขั้นคุณนายส่งคนไปกั้นม่านชักเปอร์เซนต์ทุกโครงการในแต่ละกระทรวง!
แบบนั้น จะให้ผมไปเลียเชียร์ข่าว ใครทำได้-ก็ทำไป แต่ผมไม่ชอบกินน้ำข้าว จึงขอบาย
อีกทั้งพ่อ-แม่ผมสอน “ต้องช่วยคนดี-คนอัปรีย์-จัญไรต้องเหยียบ”
นายกฯ ประยุทธ์ที่พวกคุณด่าจนพจนานุกรมหมดเล่มก็ยังไม่หยุดนั้น ขอถามว่า
“๘ ปี ค้นหาเรื่องที่นายกฯประยุทธ์ “โกงบ้าน-กินเมือง” ได้ซักเรื่องมั้ย?”
ก็หาไม่ได้ เพราะไม่มี ต่างกับนายพวกคุณจากหน้ามือเป็นหลังตีน แตะตรงไหน แม่ง…เป็นโกงตรงนั้น
ไม่เชื่อไปถาม “เหนาะ”!
เอาทุกเรื่องที่พวกคุณเค้นคำด่านายกฯ ประยุทธ์ไปแปะกำแพงข่าว แค่เอาชื่อประยุทธ์ออก
ทุกคนอ่าน ก็รู้เลย….
ว่านี่มันพฤติกรรมไอ้…..แม้วชัดๆ!
เอ้า….ผมจะยกตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ มาให้เห็น ว่า ๘ ปี ของประยุทธ์น่ะ ประชาชนลำบากทุกมิติจริงมั้ย?
เอาเรื่องรถไฟฟ้าในกรุงและชานเมืองก่อน เพราะใกล้ตัว-ใกล้ตา พิสูจน์ได้
ทักษิณเป็นนายกฯ ๕ ปีกว่า รวมนอมินี ทั้งสมัคร สมชาย และยิ่งลักษณ์ ก็ร่วม ๑๐ ปี
-ทักษิณ สร้างรถไฟฟ้า ๑ สาย “แอร์พอร์ตลิงค์” ระยะทาง ๒๘.๕ กม.
-พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ สร้าง ๒ สาย “สีแดงเข้ม” (บางซื่อ-รังสิต) และ “สีแดงอ่อน” (บางซื่อ-ตลิ่งชัน” ๔๑.๓ กม.
-สมัคร สุนทรเวช ๑ สาย “สีเขียว” (แบริ่ง-สมุทรปราการ) ๑๓ กม.
-สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ไม่ได้สร้าง แต่ไม่ว่าอะไร เพราะเป็นแป๊บเดียว
-อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ๒ สาย “สีม่วง” (บางใหญ่-บางซื่อ) และ “สีน้ำเงิน” ต่อขยาย (หัวลำโพง-บางแค) และ (บางซื่อ-ท่าพระ) ๔๖ กม.
-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ๑ สาย “สีเขียว” ต่อขยาย (หมอชิต-คูคต) ๑๙ กม.
ทีนี้ มาดู ๘ ปีของพลเอกประยุทธ์บ้างนะ ว่าสร้างกี่สายให้ประชาชนได้ใช้
“๑๐ สาย”ครับ!
-สายสีม่วง (เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) ๒๓.๖ กม.
-สีแดงอ่อน (ตลิ่งชัน-ศาลายา) ๑๔.๘ กม.
-สีแดงเข้ม (รังสิต-ธรรมศาสตร์) ๘.๙ กม.
-สีทอง (กรุงธนบุรี-ประชาธิปก) ๒.๗ กม.
-สีแดงอ่อน (พญาไท-หัวหมาก, แดงเข้ม (บางซื่อ-หัวลำโพง) ๒๕.๙ กม.
-สีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) ๒๒.๕ กม.
-สีชมพู (แคราย-มีนบุรี) ๓๔.๕ กม.
-สีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ๓๐.๔ กม.
-สีส้มตะวันตก (ศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์) ๓๕.๙ กม.
-สีแดง (ตลิ่งชัน-ศิริราช) ๕.๗ กม.
๑๐ สาย รวมระยะทางทั้งหมด ๒๐๔.๙ กม.ครับพี่น้อง!
ชลน่าน เป็นคนเหนือ อยู่จังหวัดน่านใช่มั้ย?
สมัยก่อน ตอนคอมมิวนิสต์บุก ผมไปทำข่าวที่ทุ่งช้าง รถวิ่งได้แค่ช่วงกลางวัน ตกเย็นทั้งเสี่ยงและทั้งเสียวเส้นทาง
สะดวกหน่อยก็นั่งรถไฟไปลงเด่นชัย นอนมุ้งที่โรงเตี๊ยมให้เลือดแทะรอสว่าง ใต้ถุนก็เจี๊ยวด้วยสามล้อที่มาตั้งวงก๊งตอนค่ำ
เรียกว่าไปลำบาก-ลำบน แล้วตอนนี้ ชลน่านรู้แล้วใช้มั้ย ว่ารถไฟที่พี่น้องชาวเหนือฝันค้าง ว่าจะสร้าง มา ๖๒ ปี ผ่านมาเป็นสิบๆ รัฐบาล รวมทั้งรัฐบาลทักษิณ ก็ไม่เคยเป็นจริงซักทีนั้น
๘ ปี ประยุทธ์ทำฝันพี่น้องชาวเหนือ “เกิดเป็นจริง” แล้ว ลงมือทำแล้ว จาก “เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ” บุกป่าผ่าเขาเป็นระยะทาง ๓๒๓.๗ กม.มีทั้งหมด ๒๖ สถานี
จะเปิดใช้ปี ๒๕๗๑ ส่งท้ายพลเอกประยุทธ์ “ครบวาระ ๘ ปี” ในตำแหน่งนายกฯตามรัฐธรรมนูญพอดีเลย!
เนี่ย…เมื่อเสร็จ ถ้าชลน่านยังอยู่ จะไปน่าน ประหยัดเงินหลวง นั่งรถไฟแทนเครื่องบินไปลงแพร่ก็ได้ แพร่กับน่าน ใกล้กันแค่ “ตูดมาก้น” เท่านั้นเอง
ชลน่านมีปากสักแต่พูดว่า ๘ ปี ประยุทธ์ ทำประชาชนลำบากทุกมิติ
แล้วไม่บอกด้วยล่ะว่า ในรอบ ๓-๔ ปีมานี้ ไทยต้องเจอวิกฤติจากปัญหาอะไรบ้าง แหกตาหาข้อมูลอ่านบ้างนะ ว่ามีประเทศไหนในโลกสุขสบายบ้าง?
ตรงกันข้าม คนมากกว่าครึ่งค่อนโลก “อิจฉาไทย” ว่ารับมือได้ทุกวิกฤติ
“๑ ลำบากไทย” เทียบค่าเท่ากับ “ล้านสุขสบาย” ของคนทั้งยุโรป-สหรัฐฯและอีกหลายๆ ประเทศ
รู้ไว้บ้างนะชลน่าน……
บอกโป้งเหน่งคู่เสวนาที่ชอบโม้เป็นกูรูเศรษฐกิจด้วย ว่าตัวเลข “พระเจ้าช่วย” ด้านท่องเที่ยวของเราออกมาแล้ว
“คาดว่าสิ้นปีนี้……..
จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวม ๑๐ ล้านคน เฉพาะช่วงครึ่งปีหลัง (ก.ค.-ธ.ค.๖๕) จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ ประมาณ ๗.๕ ล้านคน
เพิ่มขึ้น ๑,๘๔๐% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี ๒๕๖๔ สร้างรายได้ ๔ แสนล้านบาท”
นี่เป็นตัวเลขจาก “สร้างไทยไปด้วยกัน” เขารายงาน
แล้วที่ “ชังชาติ” ตัวเองด้วยคำถามว่า ประเทศไทยอยู่ตรงไหนของเวทีโลก?
ก็ไม่รู้ซีนะ..ชลน่าน เห็น Moody’s Investors Service คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยที่ Baa1 หรือเทียบเท่า BBB+
และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย ที่ระดับ “มีเสถียรภาพ”
บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำญี่ปุ่น “Rating and Investment Information, Inc. (R&I)” คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) ที่ A- และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย อยู่ในระดับ “มีเสถียรภาพ” (Stable Outlook)
“ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก” เชิญให้ประเทศไทยเป็น “ประเทศต้นแบบ” ประเทศที่ ๓
นำร่องจัดกิจกรรมการทบทวนการเตรียมความพร้อมกรณีภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและสุขภาพถ้วนหน้า ในการรับมือการระบาดใหญ่ของโรคโควิด 19
และรู้แล้ว ห้ามชลน่านบอกทักษิณเด็ดขาด เดี๋ยวน้ำลายมันไหลรีบกลับมา เมื่อรู้ว่า ไทยมีทองคำสำรองตั้ง ๒๔๔.๒ ตัน เป็นอันดับ ๑ ในอาเซียน
และอ้อ…..
อ้อเพิ่งนึกได้ ไม่ใช่อ้อจันทร์ส่องหล้า คือจะบอกว่า
ประเทศไทย โดยนายกฯ ประยุทธ์ จะอยู่บนเวทีโลก ณ จุด “เป็นเจ้าภาพ” จัดงาน APEC
โดยมีผู้นำระดับโลก จาก ๒๑ เขตเศรษฐกิจ มากระทบไหล่กันที่ “ศูนย์ประชุมสิริกิติ์”
เวทีนี้ “โทนี่ เอ๋ง” ได้แค่อิจฉา…..
เหมือน “หมาเห็นข้าวเปลือก” ไปเท่านั้นเอง!
เปลว สีเงิน
๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๕
ภาพ : เพจเฟซบุ๊ก
