25 สิงหาคม 2565 ที่โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวก่อนเปิดการประชุมระดับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเขตเศรษฐกิจเอเปค ระบุว่า
การประชุมที่เกิดหลังจากที่ประเทศไทยได้ผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคระบาดโควิด-19 แล้วมีการเดินทางเข้ามาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานระดับโลกสะท้อนความมั่นใจที่นานาชาติมีให้กับประเทศไทย ตีมของงานคือ Open, Connect และ Balance Open หมายความถึงการเปิดโอกาสให้ทุกคนได้กลับมาใช้ชีวิต Connect หมายถึงการที่สังคมได้กลับมาเชื่อมต่อกันอีกครั้ง และ Balanceซ์ คือการบริหารจัดการทั้งในเรื่องของระบบสาธารณสุขและเศรษฐกิจ
ไทยเองได้รับการยอมรับจาก WHO ไปจนถึงนานาชาติ ว่ามีความโดดเด่น เรื่องจัดการกับโควิด-19 อาทิ เรื่องของการป้องกัน ไปจนถึงการจัดหาวัคซีนและการรักษา มีวัคซีนในทุกรูปแบบและได้ให้บริการแก่ประชาชนอย่างทั่วถึง เป็นตัวอย่างของการดูแลประชาชนจน WHO ใช้อ้างอิงเป็นมาตรฐานการดูแลรักษาผู้ป่วย
เรื่องของกัญชา ได้มีการประชุมแบบทวิภาคี เช่น การหารือกับประเทศมาเลเซีย ได้พาไปเยี่ยมชมโรงงานขององค์การเภสัชกรรมด้วย ซึ่งทางมาเลเซียและไทยมีความเห็นตรงกันว่ากัญชาคือทางเลือกหนึ่งในการรักษาโรคและการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
สิ่งที่คาดหวังจากการประชุมคือการพัฒนาความร่วมมือที่สำคัญในเรื่องของ การสร้างความเท่าเทียมด้านสาธารณสุขเพื่อลดความลักลั่น ขจัดปัญหาความเหลื่อมล้ำ ในการเข้าถึงยาเข้าถึงวัคซีน ถึงเวลาแล้ว ที่ทุกประเทศต้องดูแลกันและกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กิจกรรมดังกล่าว มีรัฐมนตรีสาธารณสุขจากเขตเศรษฐกิจเอเปค ได้แก่ บรูไนดารุสซาลาม อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ จีนไทเป ไทย สหรัฐอเมริกา และเวียดนาม เข้าร่วมแบบออนไซต์ และมี จีน จีนฮ่องกง เกาหลีใต้ และรัสเซีย เข้าร่วมในรูปแบบออนไลน์ รวมถึงมีผู้นำระดับสูงของหน่วยงานระหว่างประเทศ ได้แก่ เลขาธิการอาเซียน ผู้อำนวยการบริหารสำนักงานเลขาธิการเอเปค และมีข้าราชการระดับสูงและภาคเอกชนเข้าร่วมประชุมอีกจำนวนมาก