“นพพล” พร้อมตัดงบเกษตร-มหาดไทย ชี้ไม่คุ้มกับภาระกิจดูแลประชาชน เผยเกษตรกรสุดทนชลประทานปล่อยน้ำเอาใจนักการเมืองมากกว่าปล่อยเกษตรกรขาดน้ำทำนา

10 มิถุนายน 2565-นายนพพล เหลืองทองนารา ส.ส.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาพื้นที่พิษณุโลกพบปัญหา ภัยแล้งหนักมาก เพราะเกษตรกรหลายพื้นที่ขาดน้ำทำนา กรมชลประทานจะปล่อยน้ำเอาใจนักการเมืองใหญ่ในรัฐบาล ไม่ปล่อยให้เกษตรกร กระทบการปลูกข้าวนาปี ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาเรื้อรังแก้ไม่จบ ส่งผลให้คนในพื้นที่ ชี้ว่าปัญหาน้ำ เกิดจากการเลือกปฏิบัติของเจ้าหน้าที่กรมชลประทาน ชาวบ้านเอือมระอากับการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ

ที่ผ่านมาหาแนวทางในการแก้ปัญหาให้เกษตรกรในพื้นที่รวมทั้งการหารือกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาให้กับเกษตรกร สามารถแก้ปัญหาได้ในระดับหนึ่ง แต่เกรงว่าปัญหาจะวนกลับมาที่เดิม สร้างปัญหาให้เกษตรกรไม่รู้จบ

นายนพพล กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้จากการที่ได้รับแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการพิจารณางบประมาณประจำปี 2566 จะพุ่งเป้าในการพิจารณากระทรวงเกษตรและสหกรณ์รวมทั้งกระทรวงมหาดไทย เพราะกระทรวงทั้งสองกระทรวงทำงานไม่สมกับงบประมาณที่ได้รับจัดสรร ปล่อยปละละเลย ไม่แก้ปัญหาให้กับประชาชน

“กระทรวงมหาดไทย มีหน้าที่บำบัดทุกข์ให้กับประชาชน แต่ปล่อยให้ประชาชนจัดหางบประมาณขุดลอกคูคลองเอง ไม่รอเจ้าหน้าที่รัฐ ในขณะที่กระทรวงเกษตรปล่อยให้วัชพืชเต็มลำคลอง ขวางทางน้ำไม่เคยแก้ปัญหา ดังนั้นงบประมาณมหาศาลที่ทั้งสองกระทรวงได้รับไปจึงมองว่าไร้ประโยชน์มาก หากไม่ได้รับคำตอบที่น่าพอใจ พร้อมตัดงบประมาณ 2 กะทรวงนี้อย่าง แน่นอน” นายนพพลกล่าว


Written By
More from pp
ทางเลือกใหม่กับการผ่าตัดส่องกล้องปอด
                                                                                               นพ. ศิระ  เลาหทัย  แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หน่วยศัลยศาสตร์ทรวงอกและหัวใจ ภาควิชาศัลยศาสตร์ โรงพยาบาลวชิรพยาบาล เป็นที่ทราบกันดีว่าการผ่าตัดในช่องทรวงอกนั้น การผ่าตัดแบบเปิดเป็นการผ่าตัดพื้นฐานที่นิยมทำกันมาอย่างยาวนาน แต่ด้วยเทคโนโลยีด้านการแพทย์ในปัจจุบันมีการพัฒนามาก ส่งผลทำให้วิธีการผ่าตัดมีการเปลี่ยนแปลงจากการผ่าตัดแบบเปิด
Read More
0 replies on ““นพพล” พร้อมตัดงบเกษตร-มหาดไทย ชี้ไม่คุ้มกับภาระกิจดูแลประชาชน เผยเกษตรกรสุดทนชลประทานปล่อยน้ำเอาใจนักการเมืองมากกว่าปล่อยเกษตรกรขาดน้ำทำนา”