ผักกาดหอม
ก็จริงนะ…
เสียงเตือนอย่าอวย “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” มากจนเกินงาม เดี๋ยวกระแสจะตีกลับ
ตัว “ชัชชาติ” เองก็ไม่ควรเล่นกับเกมพีอาร์จนมากเกินไปเช่นกัน
เพราะเมื่อถึงเวลาที่ต้องทำงานจริงๆ มันจะไม่ง่ายเหมือนการสร้างภาพ
แต่ก็ยังต้องเอาใจช่วย “ชัชชาติ” ครับ
และต้องเข้าใจว่า คนกรุงเทพฯ ไม่ต้องการช่วงฮันนีมูนที่ยาวนาน แต่ต้องการการแก้ไขปัญหาที่ฉับไวทันท่วงทีมากกว่า
เพราะปัญหามันเยอะ
รอให้ผู้ว่าฯ แข็งแกร่งที่สุดในปฐพีแก้ไขอยู่
เรื่องขยะ การจราจร น้ำเสีย ถนนพัง ฯลฯ
ที่จริงก็เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงอยู่บ้างเหมือนกัน เพราะช่วงนี้ข้าราชการ กทม.ชั้นผู้ใหญ่ขยันกันเป็นพิเศษ มีปัญหาก็รายงานผู้ว่าชัชชาติกันพรึ่บพรั่บ
ถูกบ้างผิดบ้างก็แก้ข่าวกันไป
ทำให้นึกถึงช่วงมีรัฐบาลจากการรัฐประหารใหม่ๆ
ช่วงนั้นออกประกาศ คสช.เมื่อไหร่ เด็กๆ ร้องไห้กระจองอแง เพราะกลัวเผด็จการจะเล่นงานเอา
ประกาศเรื่องห้ามคอร์รัปชันออกมา หัวหดกันหมด ทั้งภาครัฐ-เอกชน ถึงกับหมอบ เพราะใครหือจะถูกเรียกตัวปรับทัศนคติ
ก็ไม่น่าเชื่อว่าปีแรกของรัฐบาล คสช. ดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชันดีขึ้นราวกับเสกได้
องค์กรเพื่อความโปร่งใสในประเทศไทย (Transparency Thailand) เปิดเผยผลการจัดอันดับในการจัดอันดับดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชัน ประจำปี ๒๕๕๗ ประเทศไทยได้คะแนน ๓๘ คะแนน
จากคะแนนเต็ม ๑๐๐ คะแนน
อยู่อันดับที่ ๘๕ จากการจัดอันดับทั้งหมด ๑๗๕ ประเทศทั่วโลก
อย่าเพิ่งร้องยี้!
เพราะปีก่อนนั้นคือยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ได้อันดับที่ ๑๐๒
ดีขึ้นตั้ง ๑๗ อันดับ
จะเรียกว่าก้าวกระโดดก็ได้
ปี ๒๕๕๘ ดีกว่าเดิมอีก ได้ลำดับที่ ๗๖ เพราะคนยังกลัวเผด็จการรัฐประหารอยู่
แต่ปี ๒๕๕๙ เกิดอะไรขึ้นมิทราบได้ รูดไปอยู่ลำดับที่ ๑๐๑
ปี ๒๕๖๐ อันดับที่ ๙๖
ปี ๒๕๖๑ อันดับที่ ๙๙
ปี ๒๕๖๒ อันดับที่ ๑๐๑
ปี ๒๕๖๓ อันดับที่ ๑๐๔
ปี ๒๕๖๔ อันดับที่ ๑๑๐
ตั้งแต่รัฐบาลลุงตู่มาจากการเลือกตั้ง ดัชนีโกงไหลรูดไปเทียบชั้นรัฐบาลยิ่งลักษณ์ซะงั้น สู้รัฐบาลลุงตู่มาจากการรัฐประหารช่วงแรกๆ ไม่ได้เลย
หรือว่าดัชนีการโกงแปรผันตามที่มารัฐบาล
นี่แหละครับการเมืองไทยยากแท้หยั่งถึง
รัฐบาลที่อ้างว่ามาจากประชาชน กลับโกงมากกว่ารัฐบาลที่มาจากรัฐประหาร ซึ่งฉีกตำราประชาธิปไตยมาซะงั้น
ครับ…ว่าเสียยืดยาว ก็อยากให้กองเชียร์ชัชชาติ เชียร์แต่พองาม รักชัชชาติ ต้องค่อยๆ เชียร์จะได้เชียร์นานๆ
เปลี่ยนผู้ว่าฯ กทม.ก็คล้ายกับเปลี่ยนรัฐบาล บิ๊กข้าราชการจะขยันกว่าปกติ เพราะต้องดูทิศทางลม ว่าพัดไปทางไหน
จากนี้อีกไม่นาน “ชัชชาติ” จะต้องเจอกับของจริง กับปัญหาที่ต้องแก้จริงๆ
ประเภทพายเรือเก็บขยะ ไม่ต้องแล้วครับ
ต้องนั่งบัญชาการให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองสะอาดกว่าที่ผ่านมา ไม่ถึงขั้นต้องเป็นโลกที่หนึ่งเหมือนที่กองเชียร์พยายามปั้นกันอยู่ แค่ให้มันต่างจากเดิมจนสามารถจับต้องได้
อีกสักเรื่อง….เทพไท เสนพงศ์ โพสต์ข้อความบอกว่า
“…วันนี้ คือวันที่ ๕ มิถุนายน เป็นวันครบรอบ ๓ ปี ของการประกาศลาออกจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายอภิสิทธิ์เป็นนักการเมืองตัวอย่างในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต และการรักษาสัจจะวาจาเท่าชีวิต
การตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง ส.ส.ของนายอภิสิทธิ์ นับว่าเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิตของนักการเมือง เพื่อรักษาคำพูดที่เป็นสัญญาประชาคมต่อพี่น้องประชาชน ซึ่งมีความยิ่งใหญ่และสำคัญมากกว่ามติของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีมติเสียงข้างมากให้เข้าร่วมรัฐบาล กับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
แม้ว่านายอภิสิทธิ์จะถูกทัดทานจากบรรดาสมาชิกพรรค และพยายามหาทางออกทางการเมืองให้กับนายอภิสิทธิ์ในเงื่อนไขต่างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ผิดคำพูด หรือสัจจะวาจาที่สัญญากับประชาชน แต่นายอภิสิทธิ์ก็ปฏิเสธและได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง ส.ส. ซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชนทั้งประเทศ โดยยกเหตุผลของการลาออกในตอนหนึ่งว่า “มหาตมะ คานธี ส่งจดหมายให้กับหลาน ระบุถึงบาป ๗ ประการในสังคม หนึ่งในนั้นคือการเมืองที่ปราศจากหลักการ ผมไม่สามารถทำบาปนั้นได้ ผมจึงจำเป็นต้องตัดสินใจลาออกจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร”
ขอชื่นชมและศรัทธาในจุดยืน และอุดมการณ์ทางการเมืองที่มั่นคง ดั่งคำขวัญของพรรคประชาธิปัตย์ “สัจจังเว อมตวาจา ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย”…”
มองย้อนกลับไป การตัดสินใจของ “อภิสิทธิ์” ในวันนั้นไม่ง่ายเลย
ถ้า “อภิสิทธิ์” อยู่เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ต่อ และไม่ร่วมรัฐบาลกับพลังประชารัฐ หน้าตาของรัฐบาลจะออกมาเป็นอย่างไร
โอกาส “ลุงตู่” เป็นนายกฯ แทบจะริบหรี่ ต่อให้ ส.ว.เทคะแนนให้ทั้งหมด ก็จะอยู่ในสภาพ ตั้งรัฐบาลได้ แต่บริหารประเทศไม่ได้
เมื่อ “ลุงตู่” เป็นไม่ได้มันก็ต้องเปลี่ยนขั้ว
“อภิสิทธิ์” จะพาประชาธิปัตย์จับมือกับเพื่อไทย จัดตั้งรัฐบาล โดยมีภูมิใจไทยติดสอยห้อยตามไปหรือเปล่า
ก็เป็นไปได้ยากเช่นกัน เพราะคนเสื้อแดงจะเล่นงานเพื่อไทย ว่าเป็นผู้ทรยศทันที
ส่วนแฟนๆ ประชาธิปัตย์ก็กระหน่ำ “อภิสิทธิ์” ไม่แพ้กัน
เพราะเท่ากับไปเป็นมือไม้ให้ระบอบทักษิณ
การที่ประชาธิปัตย์เดินมาถึงวันนี้อาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว
ครับ…การเมืองไทยไม่ง่ายเลย
ไม่มีตำราสอน ว่ากันหน้างานล้วนๆ
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า