“น้ำคำ” ถึง “น้ำประปา” – เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

ถ้ามีเหลือ……..
ขอผมเล่มนะครับท่านรองนายกฯ “วิษณุ เครืองาม”
หนังสือ “โลกนี้คือละคร”
ที่ท่านเขียนเล่าเรื่องราวต่างๆ สมัยเป็นรองนายกฯ ในรัฐบาลทักษิณนั่นน่ะครับ
งงตัวเอง ว่าพลาดงานบันทึก “เกร็ด “พงสาวสันดาน” ระบอบทักษิณ” เล่มนี้ไปได้อย่างไร?
ตอนนี้ไม่รู้จะไปหาจากที่ไหน ก็ต้องขอท่านเอาชนิดด้านๆ อย่างนี้แหละ

ในบรรดานักการเมือง คารมคมคำในการตอบโต้และพูดจาทั้งในสภาและนอกสภา นอกจากอดีต “นายกฯ ชวน” ที่นักข่าวตั้งฉายาท่านว่า “มีดโกนอาบน้ำผึ้ง” แล้ว

ก็มีท่านรองนายกฯ วิษณุนี่แหละ….
คู่ควรกับฉายา “เซี่ยวลี้ปวยตอ” ในหนังสือสุดยอดนิยายกำลังภายในของ “โกวเล้ง” มากที่สุด

เพื่อนผม “ว.ณ เมืองลุง” แปลในชื่อเรื่อง “ฤทธิ์มีดสั้น” คมชนิดมีดโกนเขิน
“มีดบินไม่พลาดเป้า”

ซัดออกไปเมื่อไหร่ กระทั่งคนตายใต้คมมีดของเขาก็ยังไม่ทันได้เห็น!

ตอนนี้ มีใครเก็บซาก “ทักษิณปลิ้นปล้อน” ไปแล้วหรือยังก็ไม่ทราบ ที่จ้อคลับเฮาส์ “เอาดีใส่ตัว-เอาชั่วใส่รองฯวิษณุ” หน้าด้านๆ วันก่อน แล้วสมุนนำมาโพสต์ครึกโครมนั่นน่ะ

ทักษิณพูดว่า….
-เรื่องวัดพระแก้ว ผมไปทำบุญประเทศ มัคนายกประจำครม.คือวิษณุ ผมไม่รู้เรื่อง ผมทำงานอย่างเดียว เขาประสานงานทุกอย่าง แล้วจัดทำบุญในวัดพระแก้ว

แต่เหตุการณ์ที่มีปัญหา คือตอนนั้นวิษณุเป็นรองนายกฯ ทำหน้าที่จัดการ วิษณุทำหนังสือถึงสำนักเลขาพระราชวังเพื่อขอใช้วัดพระแก้วแล้ว ผมทำงานอย่างเดียวไม่รู้เรื่อง

-เรื่องเปิดอาคารพระเทพบิดรให้ไปถวายสักการะพระอัฐิบูรพกษัตริย์ คุณวิษณุก็ทำหนังสือถึงสำนักพระราชเลขาธิการ ทูลเกล้าฯ

รองเลขาฯ ระบุว่าในหลวงทรงทราบแล้ว แล้วเปิดใช้ทำบุญฉลองได้ตามขั้นตอน

แต่ปรากฎว่าคุณแก้วขวัญที่นึกว่ายังไม่อนุมัติ แล้วทำไมถึงใช้ได้ เขาก็โวยวาย ทั้งๆ ที่พระเจ้าอยู่หัวทรงรับสั่งแล้ว ผมกล่าวว่า ได้รับสั่งผ่านรองเลขาฯ แล้ว แต่พวกมันจ้องจะหาเรื่องผมเอง

-เรื่องแต่งตั้งรักษาการสมเด็จพระสังฆราช (สมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศ-เปลว) คนทำไม่ใช่ผมนะ เพราะในหลวงรับสั่ง แล้ววิษณุเป็นคนเขียน เขาจึงนำเรื่องออก คนจะโยนเรื่องนี้ใส่ผม แต่ผมแค่ไม่พูด…..

แล้วเมื่อวาน (๒๖ พค.๖๕)
รองฯ วิษณุ ที่ถูกทักษิณโยนให้เป็นคนทำทุกเรื่อง ส่วนตัวเขา “เปล่าสั่ง-เปล่าทำ” ทุกเรื่อง นั้น
วิษณุไม่โต้ เพียงซัดมีดบินออกไปเงียบๆ

“ไม่เป็นไร ก็โยนมาเถอะ …….

ผมเป็นรองนายกฯ ท่านเป็นนายกฯ ไม่เป็นไร เรื่องข้าวก็เห็นโยนให้คุณบุญทรง (นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์)

เรื่องบ้านเอื้ออาทร ก็โยนให้คุณวัฒนา (นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์)”

ทักษิณผงะหงาย…….
อ้าปากค้าง ลูกตาเหลือกถลน สองมือไขว่คว้าอากาศ ยืนโงนเงน ก่อนร้องโอ๊กกกกก เหมือนควายถูกเชือด แล้วอาเจียนออกมาเป็นโลหิต เปรอะเปื้อนเต็มหน้าอก ก่อนทรุดลงกองกับพื้น

ขอยืมสำนวน “ป.อินทรปาลิต” ผู้เป็น “ครูพักลักจำ” ของผมมาใช้หน่อยนะครับ

นักข่าวถามในอารมณ์สยดสยองปนสมเพชต่อร่างที่ทรุดคากองเลือดที่กระอักตรงหน้าต่อ ว่า
“ท่านไม่ติดใจสิ่งที่นายทักษิณพูดใช่หรือไม่?”

บรรยากาศเงียบงำเข้าคั่นกลาง……..
“วิษณุปวยตอ” ก้มมองร่างจอมปล้อนปลิ้นกินชาติที่จมเลือดตรงหน้า ปิดเปลือกตาตัวเองช้าๆ ตอบเบาๆ ประหนึ่งเต้าหยินสวดส่งวิญญาน

“ผมไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้ว
ท่านเป็นหัวหน้ารัฐบาล ผมเป็นรองนายกฯ ก็คิดกันเอง

ไม่มีรัฐบาลไหนหรอก….
ที่ให้รองนายกฯ ลุกขึ้นมาทำโน่นทำนี่ โดยที่หัวหน้ารัฐบาลไม่รู้เรื่อง

แต่หลายเรื่องผมจำไม่ได้แล้ว และยังไม่มีโอกาสไปเปิดหนังสือโลกนี้คือละคร แต่บังเอิญผมเก็บเอกสารไว้หมด”

จากนั้น…….
“วิษณุปวยตอ” ค้อมกายเชิงขอตัวกับนักข่าว
ก่อนดุ่มเดินจากไป

นักข่าวยืนแข็งค้าง ด้วยยังไม่คลายตื่นตลึงในอานุภาพ “มีดบินไม่พลาดเป้า” ของวิษณุปวยตอ!

แบบนี้กระมังที่เรียกว่า “ตรรกะย้อนเกร็ด”
อันวิญญูชนนั้น ……
กับเรื่องที่ตัวเองมิใช่ผู้กระทำ เมื่อถูกกล่าวหา ย่อมหยิ่งในศักดิ์ศรี ที่จะไม่ลงไปขยำขี้ที่เขาปาใส่ ให้เกิดภาพลักษณะว่าออกมา “แก้ตัว”

ให้ “ความจริง” ย้อนบอกเรื่องราวที่คนกล่าว “อิงเท็จ” ขอดเกร็ดตัวเองจนแดงเถือกเถลือกไถล อันสามัญสำนึกของผู้คน ใคร่ครวญแล้วย่อมเข้าใจ
“ไหนโจร-ไหนบัณฑิต”!?

ว่าจะคุยนิดเดียว เผอิญทางมันเลี้ยวให้ต้องเคี้ยวคดตามไปเรื่อยเปื่อย

ที่จริง ตั้งใจจะคุยเรื่องที่ฟังสส.เขาถามรัฐมนตรีเรื่องประมูลน้ำ “โครงการอีอีซี” มากว่า

คือเรื่องการประมูลโครงการท่อส่งน้ำดอกกราย มาบตาพุด สัตหีบ “ที่มีปัญหา ระหว่างบริษัท อีสวอเตอร์” เจ้าเดิม กับ “บริษัทวงษ์สยาม” เจ้าใหม่

ก็ฟังข่าวมานาน อีสวอเตอร์จะหมดสัญญา เปิดประมูลใหม่ ยังไม่ทันได้เปิดซองประมูล ทางกรมธนารักษ์ยกเลิกการประมูล อ้าง TOR ไม่สมบูรณ์

พอปรับ TOR ประมูลใหม่ ทุกเจ้าเดิมก็ยื่นซองประกวดราคา ปรากฏว่า วงษ์สยามให้ผลตอบแทน ๒ หมื่นกว่าล้านชนะไป ส่วนอีสวอเตอร์ให้น้อยกว่า ก็แพ้ไป

พอแพ้ ก็ไปฟ้องศาลปกครอง ว่าประมูลไม่โปร่งใส เขาชนะรอบแรกแล้ว มาประมูลกันใหม่ เขาแพ้ แบบนี้มีนอก-มีในประมาณนั้น

ก็เป็นข่าวมาเป็นเดือนๆ ผมก็ฟังๆ สำนักโน้นว่าไปทาง สำนักนี้ว่าไปอีกทาง ทำไป-ทำมา พลิกประเด็นอีกว่า

ทำไมกรมธนารักษ์ไม่ใช้วิธีประมูลทั่วไป กลับใช้วิธีการคัดเลือก แบบนี้ล็อกเสป็ก จะเอาวงษ์สยามใช่หรือเปล่า?
เรื่องก็ไปเข้าตีนนักการเมือง จ้องหยิบไปอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลด้วย

รับตรงๆ ผมไม่ได้ศึกษาเรื่องนี้ เมื่อวาน เมื่อสส.ยุทธพงศ์-เพื่อไทยตั้งกระทู้ถาม รองรัฐมนตรีคลัง “สันติ พร้อมพัฒน์” ตอบ
ท่านตอบถูก “ต่อมสงสัย” ของผมพอดี ก็อยากนำมาเล่า

เอาประเด็นหลักเลยก็คือ ที่ออกข่าว มุ่งตีกันที่ประเด็นอีสวอเตอร์ชนะแล้ว ธนารักษ์กลับล้มประมูลใหม่ ทำให้อีสวอเตอร์กลับฝ่ายแพ้วงษ์สยาม ส่อว่า กรมธนารักษ์มีนอก-มีนัย ประมาณนั้น

รมช.สันติ เคลียร์ในประเด็นที่ผมคาใจมานานได้พอดี ท่านตอบว่า
“อีสวอเตอร์เข้าใจว่าตัวเองชนะได้อย่างไร ในเมื่อไม่ได้เปิดซอง สงสัยว่าทำไมถึงรู้ราคาเหล่านี้
ซึ่งผมจะได้ไปตรวจสอบต่อไป อย่างไรก็ตาม กรณีที่บ.อีสวอเตอร์ไปฟ้องศาลปกครอง ศาลวินิจฉัยแล้วว่า กรมทำถูกต้องตามระเบียบแล้ว

เมื่อทีโออาร์ไม่สมบูรณ์ก็ยกเลิก แล้วให้ 5 บริษัทยื่นอีกครั้ง

ที่ผ่านมา ตั้งปี 35, 36 ถึงปี 66 บ.อีสวอเตอร์ จ่ายให้กรมเพียง 500 กว่าล้าน

แต่ในการประมูลรอบที่สอง บ.อีสวอเตอร์ เสนอถึง 2.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งผมก็ตกใจ และจะได้ตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่เพื่อชี้แจงกับประชาชนด้วยว่ารายได้ของรัฐหายไปไหน”

ผมว่า “หัวใจ” ของการประมูลโครงการท่อส่งน้ำภาคตะวันออก “EEC” ที่ควรเคลียร์มันอยู่ตรงนี้ตะหาก
๓๐ ปี อีสวอเตอร์ จ่ายผลตอบแทนให้รัฐแค่ ๕๐๐ ล้านบาท
แต่พอมีแข่งประมูล ใส่กันเป็นหมื่นๆ ล้าน วงษ์สยามให้รัฐ ๒๕,๐๐๐ ล้าน อีสวอเตอร์ให้ ๒๔,๐๐๐ ล้าน จึงแพ้ไป
ตัวเลขเหล่านี้แหละ มันน่ากังขา!

มูลค่าเป็นหมื่นๆ ล้าน แต่ให้รัฐแค่ ๕๐๐ ล้าน

ประมูลรอบแรก ให้กันแค่ระดับพันล้าน พอปรับ TOR ประมูลรอบใหม่ อีสวอเตอร์กับวงษ์สยาม เข้าตำรา “ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่”
ใส่แข่งกันพรวดๆ ระดับ ๒ หมื่นกว่าล้าน เผอิญวงษ์สยามให้มากกว่า จึงชนะไป ฝ่ายแพ้ก็โวย

เนี่ย…
ทำไมการเมืองไม่มุ่งตรวจสอบประเด็นนี้ กลับเฉไฉไปหยุมหยิมตรวจสอบวิธีการประมูล

ควรขอบคุณกรมธานรักษ์ด้วยซ้ำ ถ้าไม่ปรับ TOR ประมูลใหม่
๓๐ ปี ก็จะได้แค่ระดับพันล้าน แต่ประมูลใหม่ กลับได้เป็นหมื่นๆ ล้าน!

อะไรทั้งหมด ไม่ตรงใจผม ตรงคำถามในคำตอบของ รมช.สันติ ที่ท่านถามกลับว่า

“อีสวอเตอร์เข้าใจว่าตัวเองชนะได้อย่างไร ในเมื่อไม่ได้เปิดซอง สงสัยว่าทำไมถึงรู้ราคาเหล่านี้?”

ก็นั่นน่ะซี….
รอบแรกที่ยกเลิก “ยังไม่ได้เปิดซอง” แล้วตัวเลขว่าอีสวอเตอร์ชนะเท่านั้น-เท่านี้ ที่ฝ่ายค้านเอาไปโพนทนาเป็นตุ-เป็นตะ

“หัวหงอก-หัวดำ”ตั วไหน เสียประโยชน์แล้วเอาไปปั่นข่าว?

 



Written By
More from plew
ยิ่งนาน “ตั้งรัฐบาล” ยิ่งเละ-เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน ตกลง คำว่า “แป๊บๆ” นี่…. มันหมายถึง “เร็ว” หรือ “ช้า” กันแน่นะ ชักสับสนแฮะ?
Read More
0 replies on ““น้ำคำ” ถึง “น้ำประปา” – เปลว สีเงิน”