ผักกาดหอม
ช็อกกันเลยทีเดียว!
จริง ไม่จริง อย่าเพิ่งปักใจ
ยุคนี้ทนายออกสื่อ เป็น เซเลบ ดารากันเยอะ บางคนเริ่มแยกบทบาทตัวเองไม่ออก
อย่างคดีแตงโม ลองนับซิครับว่า มีทนายไปเป็นข่าวเกี่ยวข้องทั้งหมดกี่คน
ครับ…”ปริญญ์ พานิชภักดิ์” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นามสกุลค้ำคอขนาดนั้น หากทำเรื่องผิดพลาดจริงถือเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ควรอยู่ในวงการเมืองอีกต่อไป
วานนี้ (๑๔ เม.ย.) ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ประโคมผ่านสื่อโซเชียล
“มีน้องคนหนึ่งมาปรึกษาว่าถูกรองหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ลวนลาม หอมแก้ม กอดจูบ จับก้นโดยไม่สมยอม เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่นะครับ เพราะนักการเมืองคนนี้มีตำแหน่งหน้าที่การงานใหญ่โต สร้างความน่าเชื่อถือให้กับตนเอง”
ตามด้วยการปฏิเสธของ “ปริญญ์ พานิชภักดิ์” ว่าไม่ใช่เรื่องจริง
“หลายคนที่รู้จักผมก็จะรู้ว่าไม่ใช่คนแบบนั้น แม้เป็นเรื่องส่วนตัวแต่กระทบกับพรรค จึงขอรับผิดชอบด้วยการลาออกจากทุกตำแหน่งในพรรคประชาธิปัตย์ เป็นการตัดสินใจด้วยตนเอง ยินดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และ พิสูจน์ความจริง”
เท่าที่ฟังข้อมูลจากหลายด้าน เรื่องเกิดบนโต๊ะกินข้าว มีบุคคลอื่นอีก ๗-๘ คน รวมอยู่ด้วย หากมีเหตุการณ์ลวนลาม หอมแก้ม กอดจูบ จับก้นโดยไม่สมยอม หลักฐานน่าจะเยอะพอควร
ตามที่ ทนายษิทรา บอกมา นอกจากรายนี้แล้วยังมี รายอื่นๆ อีก และการที่รองหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่มีการใช้พฤติกรรมคุกคามทางเพศที่รุนแรงมาก บางรายถึงขั้นถูกข่มขืน มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แน่นอน
แต่ก็มองได้หลายมุม
เป็นการดิสเครดิตทางการเมืองก็ได้
เรื่องจริงก็ได้
ปูมประวัติของบุคคล จะเป็นตัวชี้วัดได้ระดับหนึ่งว่า ข้อเท็จจริงคืออะไร
เป็นเรื่องดีครับที่ “ปริญญ์ พานิชภักดิ์” ยินดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพราะเป็นวิธีเดียวที่จะพิสูจน์ได้ว่า จริงๆ แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
อีกเรื่องไม่ต้องช็อก แต่ก็ชักจะเลยเถิดขึ้นทุกวัน
การหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ของผู้สมัครจากพรรคก้าวไกล ไม่แน่ใจว่าต้องการชนะการเลือกตั้ง หรือมีจุดประสงค์อย่างอื่น
เพราะเห็นโพลล่าสุดยังมาลำดับท้าย
ก็ตามที่รู้กันคราวที่แล้ว นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ประกาศนโยบายยึดคืนสนามหลวง ตั้งใจเล่นกับกระแสต่อต้านสถาบัน
ล่าสุดนี้ ป้ายหาเสียง ขีดฆ่าชื่อเต็ม กทม. ให้เหลือแค่ กรุงเทพมหานคร เท่านั้น
เจตนาคืออะไร?
โพสต์ในเฟซบุ๊ก Arnond Sakworawich ของ ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อธิบายเอาไว้ชัดเจนครับ
————–
…พรรคก้าวไกล ทำป้าย/banner หาเสียงผู้ว่ากทม. โดยนายวิโรจน์ นำชื่อเต็มของกรุงเทพมหานคร ที่รัชกาลที่ ๔ ทรงผูกไว้อย่างงดงาม เอามาขีดฆ่าออก ตั้งแต่หลังคำว่ากรุงเทพมหานคร เป็นต้นไป
ลองมาดูคำแปล ชื่อกรุงเทพมหานครกันนะครับ จะได้เข้าใจว่าสิ่งที่พรรคก้าวไกลและนายวิโรจน์ใช้หาเสียง เลวร้ายแค่ไหน
กรุงเทพมหานคร : พระนครอันกว้างใหญ่ดุจเทพนคร
อมรรัตนโกสินทร์ : เป็นที่สถิตของพระแก้วมรกต
มหินทรายุธยา : เป็นนครที่ไม่มีใครรบชนะ
มหาดิลกภพ : มีความงามอันมั่งคงและเจริญยิ่ง
นพรัตน์ราชธานีบูรีรมย์ : เป็นเมืองหลวงที่บริบูรณ์ด้วยแก้วเก้าประการน่ารื่นรมย์ยิ่ง
อุดมราชนิเวศมหาสถาน : มีพระราชนิเวศใหญ่โตมากมาย
อมรพิมานอวตารสถิต : เป็นวิมานเทพที่ประทับของพระราชาผู้อวตารลงมา
สักกทัตติยวิษณุกรรมประสิทธิ์ : ซึ่งท้าวสักกเทวราชพระราชทานให้ พระวิษณุกรรมลงมาเนรมิตไว้
ต้นเรื่อง : นิตยสารสารคดี มกราคม ๒๕๔๐
การขีดฆ่าออก แปลว่าต้องการทำลาย หรือล้มล้างไม่ให้มี
ดังนั้น ป้ายหาเสียงผู้ว่าฯ กทม. ที่นายวิโรจน์และพรรคก้าวไกล เอามาใช้ จึงแปลได้ว่า
หนึ่ง นายวิโรจน์และพรรคก้าวไกล ไม่ต้องการให้กรุงเทพเป็นที่สถิตของพระแก้วมรกต มีความต้องการจะกำจัด เคลื่อนย้าย หรือทำลายพระแก้วมรกตที่คนไทยเคารพศรัทธา ออกไปหรือไม่ เพราะขีดฆ่าคำว่า อมรรัตนโกสินทร์
สอง นายวิโรจน์และพรรคก้าวไกล ต้องการให้เป็นประเทศที่พ่ายแพ้ตลอดหรือไม่ นี่เป็นไส้ศึกให้ต่างชาติหรืออย่างไร เพราะไปขีดฆ่าคำว่า มหินทรายุธยา
สาม นายวิโรจน์และพรรคก้าวไกล ต้องการทำลายล้างกรุงเทพ ให้เสื่อมทรามลง ไม่ได้เจริญ ไม่ให้มั่นคง ไม่ให้งดงาม ใช่หรือไม่ เพราะไปขีดฆ่าคำว่า มหาดิลกภพ ออกไป
สี่ นายวิโรจน์และพรรคก้าวไกล ต้องการทำลายให้กรุงเทพมหานคร เป็นนครที่ไม่บริบูรณ์ด้วยมงคล อันกอปรด้วยแก้วเก้าประการ ไม่รื่นรมย์ คือต้องการทำให้กรุงเทพเสื่อมทราม ไร้สิริมงคล เพราะได้ขีดฆ่าคำว่า นพรัตน์ราชธานีบูรีรมย์ ออกไป
ห้า นายวิโรจน์ และพรรคก้าวไกล ต้องการทำลายล้างพระราชนิเวศ พระราชวังอันใหญ่โตมากมายทั้งหมดในกรุงเทพหรือไม่ เพราะไปขีดฆ่าคำว่า อุดมราชนิเวศมหาสถาน ออกไป นี่ความคิดของคนอยากเป็นผู้ว่าฯ กทม. ต้องการทำลายโบราณสถานของชาติที่นอกจากจะเป็นศักดิ์ศรีความภาคภูมิใจแล้ว ยังเป็นทรัพยากรทางวัฒนธรรมที่นำรายได้เข้าประเทศไทยมหาศาลในแต่ละปี
หก นายวิโรจน์และพรรคก้าวไกล ต้องการทำลายพระราชวังที่ประทับของพระราชาผู้ทรงอวตารลงมาหรือไม่ เพราะได้ขีดฆ่าคำว่า อมรพิมานอวตารสถิต นี่เป็นการกระทำที่ผิดมาตรา ๖ รัฐธรรมนูญ และผิด ป.อาญามาตรา ๑๑๒ ด้วย
เจ็ด นายวิโรจน์และพรรคก้าวไกล ต้องการทำลายมหานครที่พระอินทร์หรือท้าวสักกเทวราช พระราชทานให้พระวิษณุกรรมลงมาสร้างไว้ หรืออีกนัยหนึ่งแปลความได้ว่า นายวิโรจน์และพรรคก้าวไกล ต้องการทำลายกรุงเทพมหานครที่บรรดาศิลปิน รวมถึงพระเจ้าแผ่นดินทุกพระองค์ที่ทรงสร้าง บูรณะกรุงเทพ และบางพระองค์ทรงเป็นศิลปินชั้นยอดเอง เช่น รัชกาลที่ ๒ ทรงสลักบานประตูพระอุโบสถวัดสุทัศน์ได้อย่างงดงามหาใดเทียมเทียบได้ยาก ได้ทรงสร้างไว้ ได้ร่วมกันสร้างไว้ ต้องการทำลายฝีมือของบรรพชน หรือไม่ เพราะได้ขีดฆ่าคำว่า สักกทัตติยวิษณุกรรมประสิทธิ์ ออกไป
ตกลงการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ของนายวิโรจน์และพรรคก้าวไกล มีแต่ความต้องการทำลายล้างกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย และสถาบันพระมหากษัตริย์ใช่หรือไม่….
———–
ครับ…เพราะมันเป็นแบบนี้ พรรคก้าวไกล คณะก้าวหน้า ถึงถูกวิจารณ์บ่อยๆ ว่ามีทัศนคติล้มเจ้า ทำลายล้างของเดิมที่มีอยู่
ว่ากันตามตรง คนในเครือข่ายของ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” มีปัญหาเรื่องท่าทีมาตลอด
ตัว “ธนาธร” เองก็มีปัญหาจนถูกดำเนินคดี ม.๑๑๒
นโยบายการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ของนายวิโรจน์ ๑๒ ข้อ ก็ไม่มีอะไรแปลกใหม่ครับ ออกแนวประชานิยมด้วยซ้ำ แต่ต้องการความหวือหวา หรือตั้งใจให้เป็นอย่างอื่น ถึงได้ไปตัดชื่อ กทม. แล้วบอกว่าเพื่อให้คนเท่ากัน
ก็อย่าร้องนะครับ หากหลังจากนี้มีคนบอกว่า หาเสียงแบบนี้อย่ามี “วิโรจน์” เลย
อย่ามีกาวไกล
อย่ามีก้าวหน้า
อย่ามีปิยบุตร
อย่ามีธนาธรเลย
ต้องขีดฆ่าทิ้งออกไปเช่นกัน
บทความ : https://www.thaipost.net/columnist-people/123734/
ภาพจากเฟซบุ๊ก : Wiroj Lakkhanaadisorn – วิโรจน์ ลักขณาอดิศร