เอ่ยชื่อ “ดร๊าฟ-ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง” บนถนนการเมืองยามนี้ ต้องบอกว่า ความรู้ ความสามารถ ไม่ธรรมดา แค่เพียงระยะเวลาไม่กี่ปี สามารถไต่เต้าทำงานทางการเมืองมาแล้วหลายบทบาทและหน้าที่ ซึ่งแต่ละงานที่ได้รับมอบหมาย ก็มีผลงานเป็นที่ประจักษ์
“ดร๊าฟ”แรกเริ่มชิมลางการเมืองด้วยการเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 25 พรรคประชาธิปัตย์ ก่อนจะย้ายเข้าสังกัดพรรครวมพลังประชาชาติไทย พ่วงตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน ลุยงานเป็นที่ยอมรับ ทั้งจากผู้ใช้แรงงาน และแวดวงราชการ
เพราะคือผู้อยู่เบื้องหลัง การผลักดันมาตรการเยียวยาผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ตั้งแต่การระบาดระลอกแรก ด้วยการจ่ายชดเชยที่ 62% จนสำเร็จ
ก่อนจะได้รับเสียงสนับสนุนขึ้นชั้นเป็นเลขาธิการพรรครวมพลังประชาชาติไทย พร้อมกินตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีและโฆษกกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
มาถึงตรงนี้ “ดร๊าฟ”เหมือนเสือติดปีกทำงานพุ่งทะยาน ทะลุเป้า องศาแตก เนื่องจากกลายเป็นนักบริหารการศึกษาตัวยง โชว์ผลงาน 12 เดือน 12 ของดี กระทรวง อว. โดยเฉพาะการจ้างงานนักศึกษาและรากหญ้าลงสู่ชุมชน หรือ u2t และดึงนักศึกษาเข้าแคมป์ เป็นส่วนหนึ่งของกระบอกเสียงในการช่วยชาติอย่างโดดเด่น
อย่างนี้แล้ว แปลกอะไร ถ้ามีข่าวแว่วว่า นายกลุงตู่ จะวางใจส่งซิกให้มีการทาบทาม “ดร๊าฟ” ย้ายเข้าสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อเป็นขุนพลการเมือง ช่วยทำงานให้ประเทศไทยและประชาชนต่อไป
31 มีนาคม นี้ จึงอย่ากระพริบตา งานเปิดตัวพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นอันขาด