“เพื่อไทย” ห่วง สงครามรัสเซียยูเครน ส่งผลกระทบภาพใหญ่ ทำท่องเที่ยววูบ เศรษฐกิจไทยกระทบหนัก ทวง “ประยุทธ์” ตอบแนวทางแก้ปัญหาท่องเที่ยว เร่งยกเลิกค่าเหยียบแผ่นดิน 300 บาท

นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ รองเลขาธิการ คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย และโฆษกคณะกรรมาธิการต่างประเทศ กล่าวว่า สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนมีแนวโน้มที่จะยืดเยื้อ โดยล่าสุดประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียยังได้ขู่ไปยังสวีเดนและฟินแลนด์ว่าหากสองประเทศนี้จะเข้าร่วมสนธิสัญญานาโต้ รัสเซียจะบุกสวีเดนและฟินแลนด์ด้วย จึงทำให้สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้น และหวังว่าจะไม่เกิดขึ้นจริงเพราะจะยิ่งทำให้ปัญหาเพิ่มมากขึ้นและอาจลุกลามไปเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 ได้

ผลกระทบจากสงครามดังกล่าวนอกจากจะทำให้ราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติพุ่งขึ้นสูงแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อการส่งออกของประเทศไทยและการท่องเที่ยวของไทยด้วย เพราะนักท่องเที่ยวน่าจะเดินทางน้อยลงเพราะต้องคอยตามดูสถานการณ์ อีกทั้งการระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอนที่กลับมารุนแรงอีกครั้ง โดยมีผู้ติดเชื้อล่าสุดที่รวมถึงผู้ติดเชื้อที่ทดสอบโดย ATK พุ่งสูงถึงวันละกว่า 4 หมื่นรายและยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งอาจทำให้นักท่องเที่ยวที่ห่วงว่าจะติดไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอนไม่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย

ดังนั้น ตามที่ตนได้อภิปรายไม่ไว้วางใจ ม. 152 ในสภาเรื่องปัญหาของการท่องเที่ยวแต่พลเอกประยุทธ์ ยังไม่ได้ชี้แจงใดๆ เลย จึงอยากให้พลเอกประยุทธ์ ได้ตอบว่ามีแนวทางและแผนงานจะฟื้นฟูการท่องเที่ยวของไทยอย่างไร จากสภาวะที่เป็นอยู่ ซึ่งดูเหมือนจะยังดูไม่สดใสเลย ปริมาณนักท่องเที่ยวก็ไม่ได้มาตามที่คาดไว้ จะมีการปรับเปลี่ยนแผนการตลาดสำหรับการท่องเที่ยวอย่างไร และควรจะต้องยกเลิกค่าเหยียบแผ่นดินคนละ 300 บาท และเพิ่มเสริมมาตรการต่างๆ ที่ตนได้เรียกร้องมาตลอดได้แล้ว โดยอย่าได้คิดทำอะไรที่จะเป็นอุปสรรคสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะมาประเทศไทยในภาวะเช่นนี้ และดีใจที่รัฐบาลยอมเปลี่ยนเงื่อนไข Test & Go ไม่ต้องมากักตัวเพื่อตรวจ PCR-Test อีกครั้งในวันที่ 5 หลังจากตรวจวันแรก แต่ให้ตรวจ ATK และส่งผลมาเอง ซึ่งน่าจะสะดวกและสมเหตุสมผลมากกว่า

ในภาวะวิกฤตซ้อนวิกฤต ทั้งวิกฤตการณ์สงคราม วิกฤตการณ์ไวรัสโควิด วิกฤตเศรษฐกิจ พลเอกประยุทธ์ จะต้องเตรียมรับมือราคาน้ำมัน ราคาก๊าซ ราคาปุ๋ยที่สูงขึ้น ซึ่งจะเป็นต้นทุนของสินค้า และ เป็นต้นทุนของภาคธุรกิจและเป็นค่าใช้จ่ายของประชาชนที่เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งประเทศไทยจะต้องจ่ายเงินสูงมากขึ้นเพื่อนำเข้าน้ำมันและก๊าซ นักท่องเที่ยวก็จะเดินทางเข้ามาต่ำกว่าที่คาดเพราะไม่มั่นใจในสถานการณ์ การส่งออกของไทยก็จะลดลงจากปัญหาที่เกิดขึ้น หากพลเอกประยุทธ์ ไม่ทำความเข้าใจเรื่องเหล่านี้ให้ดี พลเอกประยุทธ์ จะไม่สามารถแก้ไขและฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยได้เลย ประชาชนจะลำบากกันอีกนาน หากพลเอกประยุทธ์ จะลองประเมินความรู้ความสามารถของตนเองที่ผ่านมาอย่างเป็นธรรม พลเอกประยุทธ์ น่าจะสำนึกเองได้แล้วว่าไม่น่าจะรับมือไหว และไม่ควรจะถ่วงเวลาการแก้ไขปัญหาของประเทศอีกต่อไปอีกเลย ให้คนที่เขามีความรู้ความสามารถจริงๆ เข้ามาแก้ไขปัญหาจะดีกว่า อย่าให้ประชาชนต้องเบื่อหน่าย เจ็บช้ำ ทรมาน และโกรธแค้นมากไปกว่านี้เลย