2 นักกายภาพบำบัดชายแดน ที่ได้รับทุนสุขภาพชายแดนเพื่อคนชายขอบ หรือ ทุนคนไทยพลัดถิ่น จากมหาวิทยาลัยรังสิต สำเร็จการศึกษาและเข้ารับปริญญา ในพิธีประสาทปริญญา ประจำปี 2564 ปัจจุบันบัณฑิตทั้ง 2 กลับไปทำงานรับใช้ชุมชนและบ้านเกิดที่ตนเติบโตมา
กภ.หทัย สืบบุญตะวัน นักกายภาพบำบัดชาวกะเหรื่ยงคนแรกของ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ดูแลผู้ป่วยชาวกระเหรื่ยงและพม่าบริเวณชายแดนไทยพม่า เพื่อเป็นการสร้างโอกาสในการเข้าถึงบริการทางกายภาพบำบัดและช่วยลดความเหลื่อมล้ำในระบบสุขภาพไทย เปิดเผยถึงความรู้สึกหลังสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะกายภาพบำบัดและเวชศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยรังสิต ในครั้งนี้ว่า
รู้สึกตื่นเต้นและมีความภูมิใจที่ได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยรังสิตจนจบการศึกษา ซึ่งเป็นความหวังของหมู่บ้านที่ได้มีโอกาสศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ในโอกาสนี้ขอกราบขอบพระคุณท่านดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต ที่ท่านได้มอบทุนการศึกษา อาหาร และที่พักอาศัย รวมถึงได้รับความช่วยเหลืออีกหลายอย่างในการศึกษาต่อครั้งนี้ และอยากขอบคุณอาจารย์และคณะกายภาพบำบัดฯ ที่เปิดโอกาสให้ได้ศึกษาต่อ เพื่อให้รู้ว่ามีนักกายภาพบำบัดที่สามารถช่วยเหลือในเรื่องของสุขภาพของประชาชนแถวขอบชายแดนได้จริง
“หลังจากที่สำเร็จการศึกษาได้ประมาณ 6 เดือน หทัย ได้กลับมาทำงานในตำแหน่ง นักกายภาพบำบัด ที่โรงพยาบาลท่าสองยาง จ.ตาก ซึ่งถือเป็นเรื่องดีที่ได้กลับมาทำงานที่นี่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภาษา การสื่อสาร ประมาณ 70% จะเป็นชนเผ่ากะเหรี่ยง ปกาเกอญอ ที่พูดภาษาไทยไม่ค่อยได้ ดังนั้น การที่เรามาเรียนทางด้านกายภาพบำบัด และกลับไปทำงาน การสื่อสารกับเขาก็จะมีความลึกซึ้งมากขึ้น ทำให้เข้าใจคนไข้มากขึ้น เขาจะรู้สึกอุ่นใจสามารถพูดคุยกับเราแบบเปิดใจได้ ในขณะที่เราก็ได้กลับมาช่วยทำงานให้กับโรงพยาบาลในพื้นที่ที่เราเกิดและเติบโตมา ส่วนตัวรู้สึกดีใจที่ได้นำความรู้ที่เรียนมากลับไปใช้ได้อย่างเต็มที่” กภ.หทัย กล่าว
ด้าน กภ.บูผ่า มาเยอะ นักกายภาพบำบัดที่เติบโตจากสถานเลี้ยงเด็กมูลนิธิบ้านครูน้ำ จ.เชียงราย ต่อสู้เรื่องสิทธิของเด็กเร่ร่อนชายขอบไร้สัญชาติ ปัจจุบันทำงานดูแลเด็กพิเศษ เด็กพิการที่ถูกทิ้ง เปิดเผยว่า วันนี้ได้สำเร็จการศึกษาแล้วจากที่ท่านอธิการบดีฯ ได้มอบทุนการศึกษา อาหาร และที่พัก ในวันแรกที่บูผ่าได้เขียนจดหมายขอทุนการศึกษาไปวันนั้นในใจก็มีความหวังว่าจะได้รับโอกาสจากมหาวิทยาลัยรังสิต เพราะว่าด้วยสถานะทางทะเบียนของเราที่ยังไม่ได้สัญชาติไทย ซึ่งโอกาสที่จะได้รับการศึกษาระดับปริญญาตรีนั้นเป็นไปได้ยากมาก แต่ที่นี่ท่านได้เมตตาและให้โอกาสมอบทุนการศึกษานี้ มองเห็นในสิ่งที่ได้เขียนจดหมายขอท่านไป
“ขอขอบคุณที่ท่านไม่ละเลยในคุณค่าของเด็กด้อยโอกาสคนหนึ่ง ซึ่งทำให้มีการศึกษาที่ดี วันนี้บูผ่าได้ทำหน้าที่สำเร็จแล้ว ได้กลับไปทำงานช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสที่ตะเข็บชายแดนทางภาคเหนือที่มูลนิธิบ้านครูน้ำ โดยกลับไปทำหน้าที่ของนักกายภาพบำบัดที่ได้ไปดูแลบำบัดทั้งร่างกายและจิตใจน้องๆ ที่มีความผิดปกติทางด้านร่างกายและจิตใจ รวมถึงได้ดูแลในส่วนของระบบสุขภาพของน้องๆ ที่ด้อยโอกาส สุดท้ายขอกราบขอบพระคุณท่าน ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ที่ได้มอบโอกาสนี้ส่วนตัวไม่มีอะไรจะตอบแทนท่านฯ นอกจากการเป็นคนดีของสังคม และทำหน้าที่ตรงนี้ตอบแทนสังคมเหมือนที่ท่านได้มอบให้กับเราในวันนั้นค่ะ” กภ.บูผ่า กล่าวเสริม