ผสมโรง
สันต์ สะตอแมน
นอนดูช่องยูทูบแล้วชักติดใจ
โดยเฉพาะรายการ “สะแตกแดกตับ” ของคุณอี๊ด โปงลาง นั้น ดูแล้วก็ให้รู้สึกสบายอกสบายใจ เรียกว่าพลอยสนุกสนานครื้นเครงกับพิธีกรและแขกร่วมรายการไปด้วยเสียทุกคราว
แม้ทุกครั้งที่ดูจะต้องเห็นแขกรับเชิญถูกพิธีกรบังคับให้ซดดีวัว กับชิม “ซอยจุ๊” อาหารอีสาน ที่คุณอี๊ดได้อธิบายให้คนกรุงเตบอย่างผมเข้าใจว่า ซอยหมายถึงหั่น ส่วนจุ๊แปลว่าจิ้ม
คือ..นำเนื้อกับเครื่องในวัว ทั้งตับ ขอบกระด้ง ผ้าขี้ริ้ว สไบนาง ไส้อ่อน ไส้แก่ มาหั่นเป็นชิ้นขนาดพอดีคำโดยไม่ต้องปรุงรส-ปรุงสุก แล้วจิ้มกับแจ่วขม หรือพูดให้ตรง..
ก็ “ดีวัว” ที่หมายถึงน้ำเขียวเข้มในถุงน้ำดีของวัวนั่นแหละ!
ซึ่งแขกรับเชิญ ส่วนใหญ่เป็นศิลปินตลก ดารา นักร้อง บางคนที่ไม่เคยได้ลิ้มชิมรสมาก่อนถึงกับหน้าแหยะ..
บ้างก็ต้องอ๊วกทิ้ง บ้างก็ฝืนกลืนเพื่อไม่ให้เจ้าของรายการน้อยใจ อยู่ทุกEp.
แต่ด้วยบุคลิก-อารมณ์ดีของคุณอี๊ด ประกอบกับผู้ร่วมรายการก็เป็นธรรมชาติ ไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำ (กิน) ให้ดูขำ-เอาฮา ผมเลยไม่รู้สึกขัดตา-ขัดใจแต่อย่างใด
และที่เห็นจะต้องขอชื่นชม ก็ตรงที่คุณอี๊ดไม่เคยจะแสดงพฤติกรรมหยาบคาย ดิบ เถื่อน หรือใช้คำพูดคำจาสารพัดสัตว์ให้ได้เห็น-ให้ได้ยิน!
เสน่ห์ของ “สะแตกแดกตับ” จึงอยู่ที่การนำวัฒนธรรมการกินอาหารแบบดั้งเดิมของคนอีสานมานำเสนอไปพร้อมๆกับความบันเทิง..
ที่เกิดจากผู้ร่วมรายการ ให้ชวนดู-ชวนติดตามแบบสะอาดหู-สบายตา-ชื่นอารมณ์โดยแท้!
กระนั้น ก็มีความเป็นห่วงในตัวคุณอี๊ดอยู่เหมือนกัน เพราะการกินของดิบโดยเฉพาะเนื้อวัว เครื่องในวัวอย่างบ้าคลั่งอย่างแซ่บ-เอร็ดอร่อยนั้น..
จะเป็นแบบ “อร่อยปาก แต่ลำบากท้อง” ไปไหม นัยว่าเนื้อวัวดิบมี “พยาธิตืดวัว” อยู่มิใช่หรือ?
ที่ห่วง..เกรงว่าได้เงินมาจากการทำรายลงยูทูบ จะไม่พอค่ารักษาตัวในภายภาคหน้าน่ะ!
นี่..พูดถึงช่องยูทูบ ก็ได้ยินคนในแวดวงโทรทัศน์เขาพูด-ปรารภอยู่บ่อยครั้ง ถ้า กสทช.ยังคอยแต่จะเข้มงวดกวดขัน ควบคุมอยู่แต่กับโทรทัศน์อยู่เช่นนี้
เห็นทีอนาคตข้างหน้า คนทำรายการทีวี.จะหันไปทำรายการลงในยูทูบกันหมด เพราะหนึ่งนอกจากการผลิตคอนเทนต์ต้นทุนจะถูกกว่าแล้ว..
สอง..ทำรายการยูทูบจะพูดจะคุยจะแสดงพฤติกรรมความถ่อย เถื่อน หยาบ หรือลามกจกเปรตเอาตามใจอย่างไรก็ได้เสรี เพราะไม่มีหน่วยงานไหนควบคุมดูแลอย่างเข้มงวด!
และด้วยพฤติกรรม-คำพูดที่เข้ากับรสนิยมของคนดูยุค5G จึงทำให้มีผู้เข้าติดตามชมเป็นแสนเป็นล้าน สปอนเซอร์-โฆษณาก็ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี
แล้วอย่างงี้ คนทำรายการทีวี.จะมัวเอาแต่สงบเสงี่ยม ยอมทนอยู่ใต้กฏเหล็กของกสทช.ไปทำไม ในเมื่อช่องยูทูบสามารถทำคอนเทนต์ได้อย่างอิสระ แถมต้นทุนถูกกว่า!
จึงไม่แปลกใจ ที่เห็นดารา นักร้อง นักแสดง หันไปเป็นเจ้าของ-พิธีกรรายการในช่องยูทูบกันอย่างแพร่หลาย และไม่ได้จะยุ แต่ถ้าใครมีฝีมือ-มีพรสวรรค์ กล้าทำบ้าๆบอๆ และดิบเถื่อนได้..
ทำช่องยูทูบไปเลย..รวยเร็ว-ดังกว่า!