เปลว สีเงิน
เมื่อวาน คุยผลเลือกตั้งซ่อม เขต ๙ “หลักสี่-จตุจักร” ตอนเปิดหีบ
ก็เหมือนคน “ปิดตาตีหม้อ” เปะปะไปหมด!
ตอนนี้ เสร็จสรรพ “คว่ำหีบ” ส่งคืนกลับกกต.ไปหมดแล้ว คือ “เพื่อไทย-ฝ่ายค้าน” ชนะ “พลังประชารัฐ-ฝ่ายรัฐบาล” แพ้
กะจะจาระไนวันนี้…..
แต่สื่อออนไลน์บดย่อยจนเป็นฝุ่นไปหมดแล้ว ไม่เหลือมวลสารให้ “สื่อกระดาษ” อย่างผมได้ทำมาหากินเลย
ฉะนั้น ที่จะคุยกัน ก็ถือซะว่า เป็นการเก็บ “ฝุ่นอัฐิ” ก็แล้วกัน!
เห็นอาการลิงโลดของพรรคเพื่อไทย ที่เลือกซ่อมมา ก็หลายครั้ง แต่ไม่เคยชนะเลยซักครั้ง
เมื่อชนะซักครั้ง แม้ออกอาการ “เวอร์” เกินราคาไปบ้าง ก็เห็นใจเขานะ
เหมือนเด็กไม่เคยเจอ “ไอติมไม้แดง” ประมาณนั้น
เมื่อเจอเข้าอัน……
ตื่นเต้นดีใจ “พรรคกูได้ไม้แดงแล้วโว้ย” ก็เป็นธรรมดา!
ปล่อยให้พวกเขาแบ่งกันเลียๆ ดูดๆ ดุ้นไม้แดงบ้าง อย่าต้องไปหมั่นไส้พวกเขา ซึ่งมีสภาพไม่ต่าง “น้องผู้หิวโหย” มานาน ให้เขาได้ดีใจบ้างเหอะ
เมื่อไม่เหลืออะไรให้คุย เพราะวิพากษ์-วิจารณ์กันในออนไลน์ไปหมดแล้ว ขอเก็บตัวเลข “เชิงสถิติ” มาให้คิด-วิเคราะห์กันเอาเองละกัน
การเมืองเรื่อง “ตัวเลข” ไม่ใช่ตัวชี้ขาดในการเลือกตั้งก็จริง แต่ใช้เป็นฐาน “มองประเมิน” อนาคตภาพรวมได้อยู่
จะดู “แพ้-ชนะ” เมื่อ ๓๐ มค.๖๕ ให้ชัด ก็ต้องเอาตัวเลข “แพ้-ชนะ” เลือกตั้งทั่วไป เมื่อ ๒๔ มีค.๖๒ มาเปรียบเทียบ
ผมจะนำมาให้ดู ดังนี้
-เลือกตั้งใหญ่ ๒๔ มีค.๖๒ เขต ๙ ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง ๑๗๑,๒๕๐ คน มาใช้สิทธิ ๑๒๗,๖๕๐ คิดเป็น ๗๔.๕๔%
-เลือกตั้งซ่อม ๓๐ มค.๖๕ ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง ๑๖๗,๒๘๗ คน มาใช้สิทธิแค่ ๘๘,๑๒๔ คน คือ ๕๒.๖๘%
นั่นคือ แตกต่างกัน ๒๑.๘๖%
แตกเป็นจำนวนคน ตีคร่าวๆ ก็ประมาณ ๓๕,๐๐๐ คนขึ้น ที่ขาดหายไป คือเคยมาแล้วไม่มาใช้สิทธิเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์
แล้วมาดูคะแนนแพ้-ชนะ เขต ๙ “หลักสี่-จตุจัตร” วันอาทิตย์
-เพื่อไทย-สุชาติ เทียนทอง
เลือกซ่อม ๓๐ มค.๖๕ ได้ ๒๙,๔๑๖ คะแนน
เลือกตั้งใหญ่ ๒๔ มีค.๖๒ ได้ ๓๒,๑๑๕ คะแนน
=หายไป ๒,๖๙๙ คะแนน
——————–
-พลังประชารัฐ-สรัลรัศิม์ เจนจาคะ
เลือกตั้งซ่อม ๓๐ มค.๖๕ ได้ ๗,๙๐๖ คะแนน
เลือกตั้งใหญ่ ๒๔ มีค.๖๒ ได้ ๓๔,๙๐๗ คะแนน
=หายไป ๒๗,๐๐๑ คะแนน
………………………
-ก้าวไกล (อนาคตใหม่)-กรุณพล เทียนสุวรรณ
เลือกตั้งซ่อม ๓๐ มค.๖๕ ได้ ๒๐,๓๖๑ คะแนน
เลือกตั้งใหญ่ ๒๔ มค.๖๒ ได้ ๒๕,๗๓๕ คะแนน
=หายไป ๕,๓๗๔ คะแนน
………………………..
ประชาธิปัตย์ ครั้งที่แล้ว ส่งพล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ลงสมัคร ได้ ๑๖,๒๕๕ คะแนน
แต่ครั้งนี้ “ไม่ส่งผู้สมัคร” แต่มีคนประชาธิปัตย์แยกพรรคส่งคนลงสมัคร ๒ พรรค ดังนี้
…………………….
พรรคกล้า “นายกรณ์ จาติกวณิช” หัวหน้าพรรค ส่ง “นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี” สส.เก่าเขตจตุจักร ลงสมัคร
ได้ ๒๐,๐๔๗ คะแนน
พรรคไทยภักดี “นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม” หัวหน้าพรรค ส่ง “นายพันธุ์เทพ ฉัตรนะรัชต์” ลงสมัคร
ได้ ๕,๙๘๗ คะแนน
รวมคะแนน ๒ พรรค อิง “ฐานคะแนน” ประชาธิปัตย์ กับคะแนนพรรคใหม่ทั้งสอง จะเป็น ๒๖,๐๓๔ คะแนน
=เพิ่มขึ้น ๙,๗๗๙ คะแนน
……………………………..
จะเห็นว่า ทั้ง “เพื่อไทย” และ “ก้าวไกล” คุยว่าชนะ แต่ เป็นชนะที่ “คะแนนลดลง” กว่าเดิม
แต่ “ลดน้อย” จนไม่เป็นนัยยะสำคัญในทางประเมินผลเลือกตั้งในอนาคต
ซึ่งต้องยอมรับ ว่าตัวเลขบ่งชัด “เพื่อไทย-ก้าวไกล-ประชาธิปัตย์” ฐานคะแนนจัดตั้ง ในพื้นที่ ค่อนข้างเสถียร
ครั้งนี้ เลือกซ่อม ไม่มีผลด้าน “เปลี่ยนแปลงสถานะ” ทางการเมือง การที่แฟนประจำระดับพันต้นๆ หายไป ถือว่าปกติ
สรุป “เพื่อไทย” มีคะแนนฐานในพื้นที่ตุนในกระเป๋าแน่ๆระดับ ๒๕,๐๐๐-๓๐,๐๐๐ คน
ก้าวไกล มีคะแนนฐานในระดับ ๒๐,๐๐๐-๒๕,๐๐๐ นับว่า “เป็นต่อ” มาก มีโอกาสแซงเพื่อไทยได้ไม่ยาก
สำหรับประชาธิปัตย์ คะแนนฐานในพื้นที่ จะมีอยู่ในเกณฑ์ ๑๕,๐๐๐-๒๐,๐๐๐ คน
แต่ไม่เสถียรเหมือนเพื่อไทยและก้าวไกล!
“พลังประชารัฐ” ต้องยอมรับว่า ยังไม่มี “ฐานคะแนน” ที่แน่นอนเหมือนของเพื่อไทย-ก้าวไกล
ในความเป็นพรรคใหม่ ชนะครั้งที่แล้ว จึงไม่ได้มาจากฐานคะแนนจัดตั้ง
ก็ชัดเจนว่า ๓ หมื่น ๔ คะแนนที่ชนะนั้น เป็นคะแนนมาจากกระแส “เอาลุงตู่” เป็นนายกฯ!
จาก ๓ หมื่น ๔ ฮวบเดียว รูดเหลือแค่ ๗ พัน
เป็น “สัญญานอันตราย” ขั้นสูงสุดของพรรคพลังประชารัฐเลยทีเดียว!
แสดงว่า ในพื้นที่เขต ๙ ผ่านไป ๒ ปีกว่า ทางพรรคและสส.พื้นที่ ไม่ได้สร้างผลงานให้คน “หลักสี่-จตุจักร” ศรัทธา จนสามารถยึดเป็นฐานคะแนนพรรคได้เลย
ทั้งหมด + และ – ขึ้นอยู่ที่นายกฯ คนเดียว!
ทั้งที่อนาคตพรรคฝากไว้ที่นายกฯ แต่พอได้ดี-มีวาสนากัน แทนที่จะรักษานายกฯไว้ กลับทุบทำลายแบบไม่เห็นหัวนายกฯ
บางครั้ง ถึงขั้นเห็นนายกฯ “เป็นส่วนเกิน” ทวงบุญ-ทวงคุณ ด้วยซ้ำ ถ้าพรรคไม่เอา นายกฯก็ตีนลอย ตกเก้าอี้ ประมาณนั้น
ผลจึงเป็นอย่างที่เห็นวันนี้!
ก็อย่าลืมว่า ผลเลือกตั้งในกทม.ยึดเป็น”ทิศทางหยั่งกระแส”การเมืองเรื่องเลือกตั้งในอนาคตได้ในภาพใหญ่
นายกฯน่ะ เสื่อม-ไม่เสื่อม ก็ว่ากันไป
แต่ที่ทุกคนเห็น ท่านทำงานแก้ปัญหาบ้านเมืองและสร้างอนาคตให้ประเทชนิด “หัวไม่วาง-หางไม่เว้น”
ท่ามกลาง “คนในพรรค-คนในรัฐบาล” บางส่วน เอาตีนราน้ำบ้าง เจาะท้องเรือบ้าง เอาไม้พาดให้โจรเข้าย่องเบาบ้าง
กิน-ขี้-ปี้-นอน จมปลักอยู่ในลาภอันควรได้และไม่ควรได้ สุขสำราญกันบ้าง
ไม่ใช่เวรกรรมของนายกฯหรอก
แต่มันเป็นความริยำของบางคน-บางพวกที่หลงตัว-ลืมตน ลงท้าย “หนอนก็บ่อนไส้” พรรคตัวเอง
“ฝ่ายค้าน” จะโทษเขาได้ไง เพราะรู้อยู่-เห็นอยู่ ว่าเขา “ค้านแบบแค้น” ฉะนั้น งานหลักเขาคือ “ล้มรัฐบาล-ไล่ประยุทธ์”
มองอีกด้าน การแพ้เลือกตั้่งซ่อมชนิดหมดราคา นั่นมีค่าเพชรทอง อย่างน้อย ในภาวะ “เรือผุ” จะได้ทดสอบใจกันว่า มีใครมั้ย หันหน้าสามัคคี “ตัดผุ” กอบกู้กันใหม่
หรือใคร ตูดไม่ติดท้องเรือ…..
นั่งยองๆจ้องซ้าย-จ้องขวา มองหาขอน “ที่หมายใหม่” พร้อมโจนจากเรือผุ ว่ายน้ำหนีไปขึ้นเรือใหม่ “เอาตัวรอด” ดีกว่า!?
พลังประชารัฐ ไม่มีฐานคะแนนจัดตั้งในพื้นที่ก็จริง แต่อย่าลืมว่า “ขุมทอง” ยังมีอยู่
๒๑% ที่หายไป มากกว่าคะแนนที่เพื่อไทยชนะไปครั้งนี้ด้วยซ้้ำ ทึกทักส่วนหนึ่งได้เลยว่า คือ “คะแนนศรัทธาลุงตู่”
เขาไม่ออกมาเลือกตั้ง ไม่ใช่เบื่อลุงตู่โดยตรง
แต่เบื่อ-รังเกียจ พฤติกรรมคนพลังประชารัฐ ที่แฟนคลับลุงตู่ตีราคาว่า “เหมือนคางคก” ยางหัวไม่ตก มันก็ไม่สำนึก เขาจึงทำให้สำนึก
ลุงป้อม นับโดยวัย ก็ไม่เกินผม แต่โดยสังขาร ผมปึ๋งปั๋งกว่าชนิดกินขาด ฉะนั้น ท่านต้องเข้าใจ อย่างน้อย หูก็ต้องผ่านภาษิตไทย “กินอยู่กับปาก อยากอยู่กับท้อง” แน่ๆ
ดังนั้น ในเวลา “ทดบาดเจ็บ”
ท่านต้องแก้เกม หลักการทหารมีมิใช่หรือ “ใครทำ คนนั้นต้องรับผิดชอบ”
ท่านต้องแก้ เพื่อเอา ๒๑.๘๖% กลับคืนมา การแก้นั้น แก้ที่พรรค หรือแก้ที่ตัวท่าน
มีท่านคนเดียวรู้!
ที่จริงแล้ว แค่ผลเลือกซ่อม จะทึกทักเป็นมั่น-เป็นเหมาะว่า “คนไม่เอา-คนเอานายกฯ” กันวันนี้ ยังไม่ได้หรอก
ที่ปาวๆ กัน ก็ประเภท “พวกไพร่ตื่นดก ยากจกตื่นมี” ได้ไม้แดงไปแท่ง แค่เขาให้เอาไปอมๆ ดูดๆ กัน ดันเอาไปเป็นไม้ติ้วเสี่ยงทาย
“โทนาฟ” จะได้กลับบ้านแน่ งั้นละซีท่า!?