ผสมโรง
สันต์ สะตอแมน
ตำแหน่งเป็นถึง “รองเลขาธิการพรรคไทยศรีวิไลย์” และประธานองค์กรตรวจสอบทุจริตต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ภาคอีสาน
ฉะนั้น ที่นายจำรูญศักดิ์ จันทรมัย อยากรู้ เงินบริจาค 400 กว่าล้านบาท คุณบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ได้เอาไปใช้จ่ายอะไรบ้างนั้น..
ก็..เป็นสิทธิที่ใครก็ไม่อาจตำหนิติติงอะไรได้!
เมื่อระแวง สงสัยว่าคุณบิณฑ์ไม่บริสุทธิ์-คิดคด หรือพูดให้ตรง “โกงเงินบริจาค” นายจรูญศักดิ์ก็สามารถที่จะออกมาร้องแรกเพื่อให้สังคมหูตาตื่นได้-ไม่ผิด
แต่การที่นายจรูญศักดิ์ ได้เข้าไปพบ ให้การกับพนักงานสอบสวนสภ.เมืองอุบลราชธานี เพื่อที่ “อยากทราบ” คุณบิณฑ์เอาเงิน 400 กว่าล้านบาทไปใช้จ่ายอะไรบ้าง และปรากฏเป็นข่าวขึ้นมานั้น
ผม..ขอถามนายจำรูญศักดิ์คำเถอะ..เจตนาลึกๆ จริงๆ ต้องการอะไร?
ถ้านายจรูญศักดิ์แค่ “อยากรู้” แล้วทำไมถึงกับต้องไปพบกับพนักงานสอบสวน และคิดหรือว่าพนักงานสอบสวนเขาจะรู้-ให้คำตอบ..
คุณบิณฑ์เอาเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง?
ซึ่งถ้าต้องการจะทราบด้วยบริสุทธิ์ใจ นายจรูญก็แค่ตั้งโต๊ะนั่งแถลงข่าวในฐานะ “ประธานองค์กรตรวจสอบทุจริตต่อต้านคอร์รัปชั่นฯ” จะไม่ดีกว่า-เท่กว่าหรือ?
การไปพบพนักงานสอบสวน เพื่อที่จะขอความรู้..ตัวเองเข้าข่ายเป็นผู้เสียหายที่สามารถเข้าแจ้งความร้องทุกข์ในกรณีดังกล่าวได้หรือไม่?
นายจรูญศักดิ์ไม่คิด ไม่สำเหนียกสักหน่อยรึว่า..เมื่อปรากฏข่าว คุณบิณฑ์จะมัวหมอง เสียชื่อ เสียหาย!
“การร้องเรียนร้องทุกข์” คนระดับประธานองค์กรตรวจสอบทุจริต ย่อมจะลึกซึ้ง-รู้ดีกว่าคนทั่วไปว่า..
“ควรจะหา หรือมีหลักฐานที่มีความชัดเจน”!
แล้วตอนนี้ นายจรูญศักดิ์มีหลักฐานอะไรอยู่ในมือบ้างล่ะ? ที่ถาม เพราะเกิดพนักงานสอบสวนพิจารณาแล้ว เห็นว่าเข้าข่ายผู้เสียหายที่สามารถเข้าแจ้งความร้องทุกข์ได้..
ก็จะได้ดำเนินการ แจ้งความเอาผิดกับคุณบิณฑ์ให้สาสม และผมก็จะเป็นผู้หนึ่งที่จะคอยสนับสนุนเป็นกำลังใจ!
แต่หากยังไม่มีหลักฐาน (เด็ด) มีเพียงความ “อยาก” ที่ไม่ว่าจะอยากเด่น-อยากดัง หรือ “อยาก” ที่เกิดจาก “อคติ” ผมขอล่ะ..“อย่าเลย”..
อย่าเสียเวลาตัวเอง อย่าเสียเวลาพนักงานสอบสวน อย่าเสียเวลาคุณบิณฑ์ที่ต้องคอยตอบคำถามของสื่อของคนที่รักเป็นห่วงเป็นใย!
นายจรูญศักดิ์ อาจมีเวลา(ว่าง)เนื่องงานในหน้าที่ “รองเลขาธิการพรรค” ไม่น่าจะมากมาย เพราะเห็นแต่ “หัวหน้าพรรค” ที่โดดเด่น-บ้าพลังอยู่คนเดียว!
ส่วนพนักงานสอบสวนน่ะ มีงานล้นมืออยู่ทุกวัน เช่นกันกับคุณบิณฑ์..จบภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบอุกภัยในภาคอีสานแล้ว กลับเข้ากรุงเทพฯ มีทั้งหนัง-ละครให้ต้องทำ หนำซ้ำ..
ยังต้องคอย “แบกศพ” แทบไม่เว้นวัน!
ภาพ:facebook Ubon Connect อุบลคอนเนก