โนโว นอร์ดิสค์ ประเทศไทย บริษัทในเครือธุรกิจด้านการดูแลสุขภาพระดับโลกที่มีนวัตกรรมและเป็นผู้นำด้านการดูแลรักษาโรคเบาหวานมานานกว่า 95 ปี ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในองค์กรที่น่าทำงานมากที่สุดในประเทศไทยเป็นเวลาต่อเนื่อง 2 ปีซ้อนในปี 2563 และปี 2564 และยังเป็นอันดับ 1 ในทุกภาคส่วนและทุกขนาดขององค์กรในปี 2564 สะท้อนวัฒนธรรมองค์กรที่โดดเด่นการันตีด้วยรางวัลคุณภาพ
พร้อมทั้งโอกาสความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน การจัดฝึกอบรมและการพัฒนาเส้นทางอาชีพ การให้คำปรึกษาและแนะแนวระดับสูง การดูแลความเป็นอยู่และสุขภาพของพนักงานที่ดีทั้งด้านร่างกายและจิตใจ การดูแลรับผิดต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการมีสวัสดิการที่น่าดึงดูด ส่งผลให้ โนโว นอร์ดิสค์ ประเทศไทย กลายเป็นหนึ่งในสุดยอดนายจ้างดีเด่นแห่งชาติ อ้างอิงจากผลสำรวจ พบว่า ร้อยละ 99 ของพนักงานมองว่า โนโว นอร์ดิสค์ ประเทศไทย เป็นบริษัทที่ดีและน่าร่วมงาน ซึ่งการประเมินดังกล่าวมีคะแนนสูงกว่าเมื่อเทียบกับองค์กรไทยทั่วไปที่ได้คะแนนอยู่ที่ร้อยละ 82
หนึ่งในพนักงานของ โนโว นอร์ดิสค์ ประเทศไทย ได้เปิดเผยในบทสัมภาษณ์ว่า “โนโว นอร์ดิสค์ ประเทศไทย ให้ความสำคัญกับพนักงานทุกคนและครอบครัวท่ามกลางสภาวะการระบาดของโควิด-19 ที่ยังไม่สิ้นสุด ผ่านการสื่อสารที่ชัดเจนทั้งในด้านสุขภาพ ความปลอดภัยและสภาพแวดล้อม เปิดโอกาสให้พนักงานมีส่วนร่วมแม้อยู่ในช่วงที่ต้องทำงานจากบ้านการที่บริษัทมุ่งเน้นความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานนับเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมและน่ายกย่องในช่วงเวลาเช่นนี้ นอกจากนี้ จิตวิญญาณการทำงานเป็นทีมยังคงเหนียวแน่น ทำให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆ ร่วมทุกข์ร่วมสุขไปได้ด้วยกันตลอดทั้งปี”
“พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในองค์กรที่น่าทำงานมากที่สุดในประเทศไทยเป็นเวลา 2 ปีซ้อน” นายจอห์น ดอว์เบอร์ ผู้จัดการทั่วไปแห่งโนโว นอร์ดิสค์ ประเทศไทย กล่าว “ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่องค์กรของเราได้รับคัดเลือกให้เป็นองค์กรที่น่าทำงานที่สุดในประเทศไทยต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 พวกเราทุกคนล้วนทำงานหนัก ควบคู่ไปกับการปฏิบัติตามแนวทางอย่างเป็นระบบตามข้อเสนอแนะที่ได้รับเพื่อให้มั่นใจได้ว่าองค์กรของเรามีสภาพแวดล้อมการทำงานที่ทุกคนสามารถเพลิดเพลิน รู้สึกปลอดภัย มีส่วนร่วม และประสบความสำเร็จได้ แม้จะเป็นเวลาในช่วง Work From Home พวกเรายังคงติดตามความเป็นอยู่ของพนักงานในทีมอย่างใกล้ชิด รวมถึงยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีที่สุดสำหรับพนักงานของเราในช่วงสถาณการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้
เวร่า บาคิโรว่า ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลแห่ง โนโว นอร์ดิสค์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า“ข้อเสนอแนะต่างๆ จากการได้รับรางวัล Best Place to Work เมื่อปีที่แล้วได้ถูกนำมาต่อยอดเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของพนักงานของเราได้ดียิ่งขึ้น พวกเรารู้สึกยินดีที่องค์กรของเราได้รับคะแนนการประเมินเพิ่มขึ้นทั้ง 8 มิติของผลสำรวจเมื่อเทียบกับปี 2563 โดยกุญแจแห่งความสำเร็จครั้งนี้มาจากบุคลากรในองค์กรของเรา พวกเราอยากจะขอขอบคุณพนักงานของเราทุกคนที่เข้ามามีส่วนร่วมในวัฒนธรรมองค์กรของเราอย่างเต็มที่ ขอขอบคุณสำหรับความไว้วางใจในภารกิจขององค์กร รวมไปถึงการให้ข้อวิจารณ์และคำแนะนำที่จริงใจแก่องค์กร”
“แม้จะเผชิญความท้าทายจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 โนโว นอร์ดิสค์ ประเทศไทย ไม่เพียงแต่จะมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับการรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม แต่รวมไปถึงการได้รับความเชื่อใจจากพนักงาน ให้ยังคงหนึ่งในสุดยอดองค์กรที่น่าทำงานมากที่สุดในประเทศไทยต่อไป”
ทั้งนี้ รางวัล Best Place To Work เป็นรางวัลที่เชิดชูองค์กรชั้นนำทั่วโลกด้านความเป็นเลิศในการบริหารทรัพยากรบุคคลด้วยเกณฑ์การประเมินที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล ผ่านวิเคราะห์และประเมินความน่าสนใจของบริษัทด้วยกระบวนการ 2 ขั้นตอน โดยเน้นพิจารณาจากปัจจัยองค์กร 8 ประการ เช่น วัฒนธรรมองค์กร ภาวะผู้นำ โอกาสความก้าวหน้าในอาชีพ และการบริหารจัดการบุคคลากร ซึ่งนอกจากการสำรวจความพึงพอใจของพนักงานในองค์กรแล้ว ทางองค์กรยังต้องได้รับการประเมินความสามารถในการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลในองค์กรตามกรอบมาตรฐานด้านทรัพยากรบุคคลที่ได้รับการรับรองว่าสามารถเพิ่มรายได้แก่องค์กรให้อยู่ในระดับผู้นำตลาดและก่อให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมเพิ่มขึ้นต่อไป