วันที่ 3 ธันวาคม 2564 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการทุกหน่วยงานเตรียมแผนรับมือโควิดสายพันธุ์โอไมครอน เฝ้าระวัง พร้อมได้กำชับให้ดำเนินมาตรการป้องกันที่เข้มข้นขึ้น ศึกษาเตรียมความพร้อมด้านวัคซีนป้องกันสายพันธุ์โอไมครอน ควบคู่กับการคำนึงถึงด้านเศรษฐกิจ และเตรียมพร้อมเพื่อการเยียวยาประชาชน หากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์โอไมครอน
โดยทุกหน่วยงานรับลูกการสั่งการของนายกรัฐมนตรี ได้เตรียมแผนรับมือโควิดสายพันธุ์โอไมครอน โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ปรับมาตรการคัดกรองป้องกันให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกับประเทศต่าง ๆ รวมถึงองค์การอนามัยโลก โดยได้ศึกษา และเตรียมความพร้อมด้านวัคซีนให้ครอบคลุมให้ได้สูงสุด เพื่อป้องกันความรุนแรง หากสถานการณ์การแพร่ระบาดรุนแรง ซึ่งวัคซีนในประเทศไทยขณะนี้มีจำนวนมากเพียงพอ สำหรับทุกคน และเตรียมพร้อมที่จะกระตุ้นในเข็มที่ 3
นอกจากนี้ ให้กระทรวงการคลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพิจารณาหากเกิดผลกระทบขึ้น อย่างไรก็ดี ยังคาดว่าเศรษฐกิจจะสามารถขยายตัวได้ โดยมาจากการขับเคลื่อนของภาคการส่งออก และการท่องเที่ยวที่เริ่มฟื้นตัว
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลดำเนินมาตรการด้วยคำนึงถึงหลักเกณฑ์ต่าง ๆ อย่างรอบด้าน รวมถึงคำแนะนำของ WHO ที่ให้ประเทศต่าง ๆ คำนึงถึงระดับภูมิคุ้มกันที่ได้จากการฉีดวัคซีนและภูมิคุ้มกันที่ได้จากการติดเชื้อตามธรรมชาติ การแพร่กระจายของแต่ละสายพันธุ์ และประสิทธิภาพในด้านการตรวจและกักกันเชื้อ เมื่อจะต้องตัดสินใจในการออกมาตรการจำกัดการเดินทาง ทั้งนี้ WHO ยังระบุว่า ประเทศที่มีความกังวลว่าจะมีความเสี่ยง สามารถที่จะใช้มาตรการด้านการจำกัดเวลา และมาตรการจำกัดเรื่องการเดินทางที่เข้มงวดมากขึ้นได้
“นายกรัฐมนตรี ตระหนักถึงผลกระทบจากการออกมาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาล ที่จะส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนเป็นอย่างยิ่ง รัฐบาลจะทำงานอย่างเต็มศักยภาพ เพื่อศึกษา ประเมินผลกระทบ และวางมาตรการภายในประเทศต่าง ๆ อย่างรอบคอบ เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ขอให้ประชาชนมั่นใจในระบบเฝ้าระวัง และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด” นายธนกรฯ กล่าว
