อนาคต HealthTech ไทย เมื่อบริการสุขภาพไม่จำกัดแค่ภายในโรงพยาบาล

เมื่อความน่าสนใจของบริการทางด้านสุขภาพในอนาคตจะไม่ได้จำกัดอยู่แค่ภายในโรงพยาบาลอีกต่อไป การพูดคุยในหัวข้อ ‘The Rise of HealthTech’ จึงเป็นอีกหนึ่ง Session ที่น่าสนใจจากงาน ‘LINE Hospitality Tech 2021: Next in the new era ท่องเที่ยว สุขภาพ พลิกฟื้นประเทศไทย’ เพราะด้วยเทรนด์ และความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ประกอบกับเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยขับเคลื่อน ทำให้ HealthTech กำลังถูกจับตามองต่ออนาคตของบริการด้านการแพทย์และสุขภาพไทยต่อจากนี้ ยิ่งในสภาวะหลังเปิดประเทศ ที่ความปลอดภัยด้านสาธารณสุขจะกลายเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการท่องเที่ยว

ที่ผ่านมาธุรกิจ HealthTech ในประเทศไทยเกิดขึ้นมาประมาณ 5 ปีแล้ว และภาคสาธารณสุขหลายแห่งเริ่มให้ความสนใจ โดยเฉพาะการที่ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ สังคมสูงอายุ (Aging Society) ทำให้มองหาโซลูชัน หรือเทคโนโลยีมาช่วยให้บริการ ลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ประกอบกับในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาโควิด-19 ได้เข้ามาเร่งให้ผู้บริโภคเข้าถึงโซลูชันเกี่ยวกับ HealthTech มากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของบริการรักษาทางไกล (Telemedicine) ที่เติบโตแบบก้าวกระโดด

เร่งสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่แน่น พัฒนาสู่ HealthTech 2.0

จักร โกศัลยวัตร President Thai HealthTech Association และ CEO PharmaSafe เผยความท้าทายของอุตสาหกรรม HealthTech ว่า เราควรก้าวสู่ยุค HealthTech 2.0 โดยจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องแค่ภายในโรงพยาบาลหรือเป็นแค่การรักษาอีกต่อไป แต่ยังรวมถึงการดูแลสุขภาพ การดูแลเชิงพฤติกรรม ไปจนถึงเรื่องของ Wellness และไลฟ์สไตล์ด้วย

โดยปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ HealthTech ไทยพัฒนาก้าวหน้าต่อไปได้ คือในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน ที่หลายภาคส่วนจะต้องร่วมมือกัน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ธุรกิจที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในการเชื่อมต่อข้อมูลซึ่งกันและกันเป็นในระดับหรือรูปแบบแพลตฟอร์ม ไม่ใช่เป็นโซลูชันแยกย่อยต่างกันไปเหมือนในปัจจุบัน เพื่อสร้างมาตรฐานข้อมูลสุขภาพที่ตรงกันเพื่อให้สามารถใช้งานร่วมกันได้ เพื่อการวินิจฉัย การรักษา รวมถึงการบริหาร พัฒนา HealthTech ในระยะยาวที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม ทั้งในเชิงการออกแบบการรักษา ออกแบบชุดยา รวมไปถึงออกแบบข้อแนะนำด้านสุขภาพให้แต่ละคนได้อย่างตรงจุด

หากมีการปรับสร้างโครงสร้างพื้นฐานในโลก HealhTech ให้เชื่อมต่อกันแล้ว หมอก็จะสามารถเข้าถึงข้อมูลสุขภาพของผู้ป่วยได้โดยละเอียดจากฐานข้อมูลที่ครอบคลุม ชัดเจน รวมไปถึงระบบการรักษาทางไกล ที่หมอสามารถติดตามอาการคนไข้พร้อมแบบ 24 ชั่วโมงในทุกวันได้ด้วยเทคโนโลยี จึงจำเป็นที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานของระบบสาธารณสุขไทย ให้ทันกับยุคสมัย ที่สุดท้ายข้อมูลสุขภาพต่างๆ ควรจะเชื่อมเข้าหากันอย่างไร้รอยต่อ (Seamless)

เมื่อเป็นเช่นนั้น เราน่าจะได้เห็นเทคโนโลยีต่างๆ ในด้าน Health เข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของผู้คนมากขึ้น จนผู้คนแยกไม่ออกว่าคือการรักษาอยู่ อาจจะมีหมอที่รู้ข้อมูลทุกอย่างแต่คนไข้ไม่เคยเจอหมอเลย รวมถึงในอนาคต หมออาจจะมาในรูปแบบของอุปกรณ์เครื่องใช้ที่อยู่ในบ้าน เช่น พรมเช็ดเท้าที่สามารถชั่งน้ำหนักได้ หรือเตียงที่สามารถวัดสัญญาณชีพ ทั้งความดันโลหิต อุณหภูมิ ชีพจน และการหายใจในขณะที่นอนหลับอยู่ เป็นต้น

น.พ.คณพล ภูมิรัตนประพิณ CEO Health at Home ให้มุมมองอีกด้านของความท้าทายคือ 1) การออกข้อกำหนด หรือข้อบังคับของหน่วยงานกำกับดูแล ซึ่งถ้ามีความชัดเจน จะช่วยผลักดันให้ HealhTech เกิดการเติบโต 2) ผู้ประกอบการต้องเข้าใจในหลากหลายด้าน ทั้งในเรื่องศาสตร์การรักษา เรื่องธุรกิจ และเรื่องเทคโนโลยีเพื่อมาขับเคลื่อนสิ่งนี้ให้เดินหน้าไปได้ 3) เงินทุน ทั้งจากภาครัฐ หรือ Venture Capital ที่จะทำให้หน่วยงานเล็กใหญ่ที่เกี่ยวข้องสามารถยืนระยะได้ ถ้ามีองค์ประกอบเหล่านี้ครบ เชื่อว่า HealthTech ในไทยจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง

พญ.พิรญาณ์ ธำรงธีระกุล CEO & Co-Founder CHIIWII กล่าวเสริมถึงอีกหนึ่งปัจจัยความท้าทายคือ การขาดแคลนบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละสาขา โดยเฉพาะแพทย์เฉพาะทาง และทีมงานที่มองเห็นเป้าหมายเดียวกัน จนไปถึงความท้าทายในการให้ความรู้ สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ใช้ได้เข้ามาลองใช้เทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ เพื่อการรักษาอย่างเต็มตัว โดยพบว่ากลุ่มคนไข้ที่เข้ามาใช้งาน CHIIWII ส่วนใหญ่จะเป็น Early Adopter ในช่วงอายุ 25-35 ปี ที่เลือกใช้บริการส่งอาหารออนไลน์ หรือสั่งซื้อสินค้าผ่านอีคอมเมิร์ซเป็นปกติอยู่แล้ว เพราะมีความคุ้นเคยกับบริการออนไลน์แล้ว จึงนับเป็นพื้นฐานที่ดีในการให้คนไทยมาเริ่มใช้เทคโนโลยีเพื่อสุขภาพกันอย่างจริงจังมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังพบว่าคนไข้กลับมาใช้บริการซ้ำ โดยเฉพาะช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา มีการเข้าใช้งานเพิ่มมากขึ้น หลังจาก CHIIWII ได้เป็นพันธมิตรกับบริษัทประกัน ทำให้ผู้ใช้สามารถพบหมอ สั่งยา และเคลมประกันผ่านช่องทางออนไลน์ได้ทันที สร้างความสะดวกให้ลูกค้า และไม่ต้องเสี่ยงกับการติดเชื้อ และเสียเวลาไปโรงพยาบาลด้วย

สู่เทรนด์การรักษาแบบเฉพาะบุคคล

จักร ยังเปิดเผยถึงเทรนด์ของ HealthTech ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต นั่นคือการทำ Personalization เพราะผู้ป่วยแต่ละคนล้วนมีปัจจัยแตกต่างกันทางด้านสุขภาพ จากข้อมูลต่างๆ ที่ได้เพิ่มขึ้นจากยุคดิจิทัล การออกแบบการรักษาจึงต้องปรับให้เฉพาะบุคคลมากขึ้น รวมถึงการออกแบบประสบการณ์ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงอุปกรณ์ที่เก็บข้อมูลทางการแพทย์ได้เอง อย่างเซ็นเซอร์หรือสมาร์ทวอทช์ที่จะคอยเก็บข้อมูลสุขภาพ และในอนาคตก็จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

อีกเทคโนโลยีที่ถูกนำมาใช้งานมากขึ้นคือ บรรดา Automation และ Robotics ต่างๆ เพราะเมื่อมีดาต้า มี AI มาช่วยทำงาน การบริหารจัดการข้อมูลเอกสาร การให้คำแนะนำ การจัดยา จะเริ่มเห็นว่าปัจจุบันหลายๆ โรงพยาบาลเริ่มมีการนำมีหุ่นยนต์มาช่วยในการไปจัดส่งเวชภัณฑ์ตามห้องผู้ป่วยแล้ว และในอนาคตก็จะมีความหลากหลายมากขึ้นอีก

สุดท้าย คือเทคโนโลยีสำหรับการคาดการณ์ (Predictive) อย่างการรักษาจาก Genomics หรือข้อมูลพันธุกรรมเฉพาะบุคคล ร่วมกับข้อมูลสุขภาพอื่นๆ ที่กำลังอยู่ในช่วงของการวิจัยและพัฒนา ซึ่งจะกลายเป็นอนาคตของบริการสุขภาพที่สามารถป้องกันได้ก่อนเกิดโรค

“การจะพัฒนา HealthTech ให้เติบโตก้าวหน้าได้ ต้องอาศัยแรงผลักดันทั้งจากภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแล องค์กรธุรกิจที่มีเทคโนโลยี และโซลูชันต่างๆ มาทำงานร่วมกัน ภายใต้เป้าหมายเดียวกัน เพื่อประหยัดเวลาในเรื่องของการพัฒนา ที่สำคัญคือ HeathTech เป็นอุตสาหกรรมระดับสากล ถ้าไทยยังไม่เริ่มพัฒนาให้แข็งแกร่งอย่างจริงจังจนแข็งแกร่งพอ จนมีผู้เล่นจากต่างประเทศเข้ามาให้บริการแล้วนั้น ไทยก็จะไม่สามารถแข่งขันได้ โดยเฉพาะการเสียอิสระภาพทางด้านข้อมูลสุขภาพของคนไทย”

การมีสุขภาพที่ดีไม่ต้องรอป่วยและไปรักษา เพราะถ้ามีการเก็บข้อมูลสุขภาพต่อเนื่องจะสามารถนำไปวิเคราะห์เพื่อออกแบบและวางแผนการดูแลสุขภาพในอนาคตจากเครื่องมือต่างๆ เหล่านี้ได้ทันที ทั้งการพักผ่อน การออกกำลัง การรับประทานอาหาร สิ่งต่างๆ เหล่านี้ถือเป็น HealthTech ทั้งหมด

ประเด็นเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของงาน LINE Hospitality Tech 2021: Next in the new era  ผู้ที่สนใจ ต้องการติดตามเนื้อหาทั้งหมดของงาน หรือรอัพเดทความเคลื่อนไหวดิจิทัลเทรนด์ที่จะเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจ Hospitality ไทย สามารถติดตามเลือกชมหัวข้อต่างๆ ย้อนหลังได้ที่ Youtube: LINE for Business หรือคลิก https://lin.ee/eYO0g97/wcvn


Written By
More from pp
แพลทินัม ชวนมาโชว์ Fresh Idea กับ Fresh Fashion แล้วมา Shop ให้แพรว Match ให้ PROUD ชิงเงินรางวัล พร้อมรุกแผนดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ ปักหมุดชู Soft Power ศูนย์กลางแฟชั่นไทย เผยโฉม SAWASDEE FOODIE HUB แนวคิด “ตลาดน้ำ งานวัด เสน่ห์อาหารไทย” ในไตรมาส 3/2567
นางสุฐิตา ภิรมย์ภักดี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ด้วยจุดแข็งของศูนย์การค้าแพลทินัม ที่มีความโดดเด่นในเรื่องศูนย์การค้าแฟชั่นค้าส่งค้าปลีกชั้นนำของอาเซียน...
Read More
0 replies on “อนาคต HealthTech ไทย เมื่อบริการสุขภาพไม่จำกัดแค่ภายในโรงพยาบาล”