วันนี้ (25 พ.ย.64) เวลา 09.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีมอบโล่รางวัลเชิดชูเกียรติให้แก่ 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” และผู้ว่าราชการจังหวัดที่สนับสนุนการขับเคลื่อน จำนวน 10 จังหวัด โดยคัดเลือกจากชุมชนคุณธรรมฯ ทั่วประเทศ 228 ชุมชน ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรมจัดขึ้นเพื่อเชิดชูเกียรติและสร้างขวัญกำลังให้แก่ชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและนำหลักการบวร (บ้าน วัด โรงเรียน/ราชการ) มาขับเคลื่อนสังคมไทยให้เป็นสังคมคุณธรรมตามนโยบายนายกรัฐมนตรี
โดยมี นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม ผู้นำชุมชน ผู้ว่าราชการจังหวัดที่ได้รับรางวัล และสื่อมวลชน เข้าร่วมงาน
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี มอบโล่รางวัลเชิดชูเกียรติให้แก่สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ที่มีผลการดำเนินงานดีเด่นเป็นที่ประจักษ์ จำนวน 10 ชุมชน ได้แก่
1) ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านโนนบุรี จังหวัดกาฬสินธุ์
2) ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านศรีดอนชัย จังหวัดเชียงราย
3) ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านโคกเมือง จังหวัดบุรีรัมย์
4) ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านสามช่องเหนือ จังหวัดพังงาน
5) ชุมชนคุณธรรมฯ วัดศรีดอนคำ จังหวัดแพร่
6) ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านผาบ่อง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
7) ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านเก่าริมน้ำประแส จังหวัดระยอง
8) ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านท่ามะโอ จังหวัดลำปาง
9) ชุมชนคุณธรรมฯ วัดบางใบไม้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี และ
10) ชุมชนคุณธรรมฯ เมืองลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์
และผู้ว่าราชการจังหวัดที่สนับสนุนการขับเคลื่อน 10 จังหวัดดังกล่าว โดยนายกรัฐมนตรีได้อนุญาตให้กระทรวงวัฒนธรรมนำลายมือชื่อนายกรัฐมนตรีจารึกบนโล่รางวัลเชิดชูดเกียรติ 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ครั้งนี้ด้วย
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี แสดงความยินดีและชื่นชมการดำเนินงาน 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” รางวัลที่ได้รับนี้แสดงให้เห็นถึงการได้อุทิศตน ทุ่มเทและเสียสละแรงกาย แรงใจขับเคลื่อนการพัฒนาชุมชนให้มีความเข้มแข็ง ตลอดจนผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้ง 10 จังหวัด ที่ให้การส่งเสริมและสนับสนุน ในการนำทุนทางวัฒนธรรม เอกลักษณ์ และอัตลักษณ์ที่มีอยู่ในชุมซน ท้องถิ่นมาพัฒนาต่อยอดอย่างสร้างสรรค์ เชื่อมโยงไปสู่การท่องเที่ยววิถีชุมชน สร้างอาชีพสร้างรายได้ให้แก่คนในชุมชน ซึ่งจะเป็นกลไกขับเคลื่อนสำคัญในการพัฒนาประเทศ เพื่อร่วม “พลิกโฉมประเทศไทยสู่สังคมก้าวหน้า เศรษฐกิจสร้างมูลค่าอย่างยั่งยืน”
นายกรัฐมนตรี ยังย้ำว่า รัฐบาลได้กำหนดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อมุ่งหวังให้ ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้วตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สอดคล้องกับแผนแม่บทเฉพาะกิจภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติซึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด-19 พ.ศ. 2564 – 2565 ที่กำหนดทิศทางการพัฒนาประเทศให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงภายใต้ 3 มิติ คือ
การพร้อมรับ การปรับตัว และการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไทย ที่จะพลิกโฉมประเทศไทยให้สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยอาศัยฐานความเข้มแข็งทั้งความหลากหลายทางชีวภาพ และความหลากหลายทางวัฒนธรรม ในการเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากภายในประเทศ เพื่อให้ชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ รัฐบาลตั้งเป้าหมายประเทศไทยให้มีรายได้มากกว่าร้อยละ 40 ของ GDP เพื่อให้พ้นจากประเทศกับดักรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูง ด้วยการส่งเสริมการลงทุนและเศรษฐกิจอุตสาหกรรมใหม่ ควบคู่ด้านการท่องเที่ยวซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศไทย ด้านเกษตรกรรมที่ต้องมีการวิจัยและนำนวัตกรรมรวมทั้งการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มมูลค่ามากขึ้น
ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลมุ่งเน้นการลงทุนที่รักษาสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น พร้อมร่วมมือขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG เพื่อลดโลกร้อนและก๊าซเรือนกระจกที่ส่งผลต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ตามนโยบายรัฐบาลและและทั่วโลก ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ยังคงอยู่ ก็ขอให้ทุกคนการปฏิบัติตามมาตรการปฏิบัติตัวป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 แบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) อย่างเคร่งครัด ปรับเปลี่ยนการดำเนินชีวิตวิถีใหม่ New Normal รัฐบาลกำลังเร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชาชนให้มากขึ้นและได้ตามเป้าหมาย
นายกรัฐมนตรีย้ำหลักการ “บวร” สอดคล้องตามหลักปรัชญาเศรฐกิจพอเพียง เพื่อสร้างรายได้ให้ชุมชนและท้องถิ่นอย่างยั่งยืนและช่วยกันขับเคลื่อนประเทศ ร่วมกันรักษาอัตลักษณ์ความหลากหลายทางวัฒนธรรมและสถานที่ท่องเที่ยวสวยงาม ด้วยความรัก ความสามัคคีของคนในชาติ ให้เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันและช่วยกันรักษาพัฒนาชุมชนของตนเอง
รวมทั้งขอให้ใช้ชีวิตอย่างพอประมาณเหมาะสมตามศักยภาพรายได้ของแต่ละคน และเด็ก เยาวชน ให้ศึกษาเรียนรู้สิ่งที่สอดคล้องกับความสามารถที่ตนเองถนัดและความต้องการของตลาดแรงงานและการพัฒนาประเทศ เพราะทุกอย่างจะต้องเดินหน้าไปพร้อมกัน ทั้งภาคเอกชน ภาคธุรกิจ และประชาชน และร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในการ “พลิกโฉมประเทศไทยไปด้วยกัน”
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมนิทรรศการที่เกี่ยวกับ 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ที่จัดแสดงไว้ ณ บริเวณโถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีได้ให้ความสนใจผลิตภัณฑ์ที่แต่ละชุมชนได้นำมาจัดแสดง อาทิ กระเป๋าย่าม ผ้าไหม ของที่ระลึกต่าง ๆ พร้อมสอบถามถึงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ๆ ในพื้นที่อีกด้วย