ผสมโรง
สันต์ สะตอแมน
ศาลา15 วัดเทพศิรินทร..
ผมได้ไปร่วมฟังสวดพระอภิธรรมศพ “คุณแม่ปรางทิพย์” ผู้บังเกิดเกล้าของคุณบิณฑ์-คุณเอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ แฝดพี่-น้องที่ได้อุทิศตนเพื่อสังคมมาตั้งแต่หนุ่มน้อยยันหนุ่มใหญ่..
และจะตลอดไปจนกว่าร่างกายจะไม่ไหว หรือไม่ก็หมดลมหายใจนู่นเลย!
นี่..ผมไม่ได้พูดเรื่อยเปื่อย หากแต่เคยได้ยินจากปากของคุณบิณฑ์ และด้วยการเป็น “จิตอาสา” ตามนิยาม..ผู้ที่มีจิตใจที่เป็น “ผู้ให้” ให้สิ่งของ ให้เงิน ให้ความช่วยเหลือด้วยกำลังแรงกาย แรงสมอง
ซึ่งเป็นการเสียสละ สิ่งที่ตนเองมี แม้กระทั่งเวลา เพื่อเผื่อแผ่ ให้กับส่วนรวม นี้กระมัง..
ผมจึงได้เห็น ทั้งใน-นอกศาลา 15 ในเย็น-ค่ำวันนั้น แออัด-ล้นไปด้วยแขกเหรื่อ ผู้หลักผู้ใหญ่ คนในวงการบันเทิง กัลยาณมิตร ญาติสนิท มิตรสหาย ตลอดจนประชาชนทั่วไป!
ก็..เห็นจะพูดได้ว่า การประกอบคุณงามความดีของคุณบิณฑ์-คุณเอกพันธ์ตลอดมานั้น ดอกผลจะเป็นอื่นไปไม่ได้ นอกจาก “ทำดีย่อมได้ดี” ตามกฎแห่งกรรม!
ผมนอบน้อมกราบลาคุณแม่ปรางทิพย์ที่หน้าโลงศพ..ด้วยจิตอาสา และความดี ความกตัญญูของลูกๆ ขอดวงวิญญาณท่านจงไปสู่สุคติ สงบ ณสัมปรายภพด้วยเทอญ!
ครับ..ภายในศาลา ผมได้พบเจอคนในวงการบันเทิงอีกมากหน้า แต่ที่ได้คุยกันเป็นเรื่องเป็นราวหน่อย ก็เห็นจะเป็นอดีตพระเอกคนดัง คุณกรุง ศรีวิไล ที่ปัจจุบันเป็นส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ
แต่ก็ไม่ได้คุยเรื่องการมง-การเมืองกันสักเท่าไร เพราะแค่แหย่ถาม.. “ธรรมนัสจะยังเป็นเลขาธิการพรรคอยู่หรือไม่”?
คุณกรุงก็รีบยกมือคล้ายปางห้ามญาติ.. “ไม่รู้ๆ..เป็นเรื่องผู้ใหญ่ในพรรค แต่คิดว่าทุกอย่างคงเรียบร้อยดี” ก่อนที่จะเฉไฉหันไปถามคุณสดใส รุ่งโพธิ์ทอง เจ้าของเพลง “รักน้องพร” ที่นั่งอยู่ใกล้ๆ..
“แล้วคุณล่ะ ยังอยู่กับพรรคเพื่อแผ่นดินอยู่ใช่ไหม”..เงียบ ไร้เสียงตอบรับจากอีกฝ่าย ผมจึงเลยพูดแทรกขึ้นว่า.. “ทำไม จะชวนไปอยู่พลังประชารัฐเหรอ” ทำเอาคุณกรุงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากชอบใจ
“แล้วพี่ล่ะจะกลับมาเล่นหนังเล่นละครอีกไหม” ผมถาม คุณกรุงตอบเสียงค่อย.. “เล่นไม่ได้..อยากเล่นจะตาย คิดถึงกองถ่าย แต่ขี้เกียจมีปัญหา
อีกอย่าง มาทำงานการเมืองแล้ว ก็อยากทุ่มเทงานตรงนี้ให้ดีที่สุด ยอมรับว่าเหนื่อยแต่การได้ทำเพื่อชาวบ้าน-ประชาชนมันก็มีความสุขนะ
พี่ออกจากบ้าน พบปะชาวบ้านในพื้นที่แทบทุกวัน ไปรับฟังปัญหาของเขา ถ้าอะไรที่พี่พอจะช่วยได้ก็จะช่วยทันที แต่หากเกินกำลังก็จะนำปัญหาไปปรึกษาภายในพรรคให้ช่วยผลักดันต่อไป”
ผมถาม.. “แล้ววงการบันเทิงล่ะ พี่จะช่วยอะไรได้บ้าง”?.. “ก็ถ้าเค้าต้องการให้ช่วย พี่ก็พร้อมและยินดี แต่ตั้งแต่เป็นส.ส.ก็ไม่เคยมีใครหรือสมาคม-องค์กรไหนในวงการบันเทิงปรึกษาหารือ..
โดยส่วนตัวพี่ก็ไม่รู้ ว่าปัจจุบันนี้เขามีปัญหาอะไรบ้าง อย่างกระทรวงวัฒนธรรมก็เห็นว่าได้สนับสนุนส่งเสริมอุตสาหกรรมหนังไทยดีอยู่แล้ว
ตอนนี้ก็ได้จับมือกับจีนเพื่อผลักดันอุตสาหกรรมภาพยนตร์ทั้งระบบ ซึ่งน่าจะช่วยวงการบันเทิงไทยได้มาก” คุณกรุงคุยขณะที่พระคุณเจ้าเดินเข้ามาในศาลา ผมจึงเลยรวบรัด..
“เออ..แล้วธรรมนัสยังจะอยู่กับพลังประชารัฐใช่ไหม”? คุณกรุงบอก..
“ฟังพระสวดเถอะ”!