เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กระทรวงยุติธรรม มีการประชุมผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วย รมว.ยุติธรรม นายธนวัชร นิติกาญจนา ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม อธิบดีกรมต่างๆ และผู้บริหารกระทรวงเข้าร่วมประชุม
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนได้รับรายงานต้นฟ้าทะลายโจรที่ปลูกในเรือนจำได้รับความเสียหายจากอุทกภัยระหว่างเดือน ก.ย.-ต.ค. 2564 เสียหายทั้งหมด 29 แห่ง คิดเป็น 26 ไร่ หรือประมาณ 154,329 ต้น ซึ่งจะสามารถผลิตเป็นแคปซูลได้ประมาณ 7,716,450 เม็ด โดยมีพื้นที่เสียหายทั้งหมด 3 แห่ง จำนวน 2 ไร่ คือ
เรือนจำจังหวัดชัยภูมิ เรือนจำอำเภอนางรอง และเรือนจำกลางนครสวรรค์ คิดเป็น 11,100 ต้น และในส่วนที่เสียหายบางส่วน 26 แห่ง รวม 24 ไร่ คิดเป็น 143,229 ต้น ซึ่งมีการดำเนินการแผนฟื้นฟูเพื่อให้การบริหารจัดการฟ้าทะลายโจรเป็นไปตามแผนที่วางไว้
โดยในระยะสั้น คือ 1. ขุดร่องระบายน้ำ เสริมคันดินกั้นน้ำ 2. ปลูกทดแทนต้นที่เสียหาย และ 3. ปรับปรุงบำรุงดิน ส่วนแผนการฟื้นฟูระยะยาว คือ 1. ปรับหรือเปลี่ยนแปลงพื้นที่ปลูก 2. วางแผนการเพาะปลูก และ 3. เตรียมความพร้อมต้นกล้า
“ผมขอกำชับให้กรมราชทัณฑ์ต้องจัดหายาฟ้าทะลายโจรให้เพียงพอต่อผู้ต้องขัง แม้ว่าวันนี้สถานการณ์โควิด-19 จะดีขึ้น รวมทั้งได้ฉีดวัคซีนเข็มแรกให้ผู้ต้องขังครบแล้ว แต่เราต้องไม่ประมาท ต้องเตรียมทุกอย่างให้พร้อมที่จะรับมือ
หากต้นฟ้าทะลายโจรได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม ก็ให้วางแผนรับมืออย่าให้กระทบกับการผลิตยา หรือไปจัดหาผง หรือซื้อแคปซูลเตรียมพร้อมเอาไว้ อย่าให้ยาขาดแคลนน้อยกว่าการสำรองยา 50 เม็ดต่อผู้ต้องขัง 1 คน เพราะผู้ต้องขังทุกคนต้องเข้าถึงสิทธิการรักษาพยายามตามหลักสิทธิมนุษยชน ห้ามให้ขาดยาโดยเด็ดขาด” นายสมศักดิ์ กล่าว