“ทิพานัน” ยันนายกฯ ส่งสัญญาณเปิดประเทศห่วงปากท้องประชาชน ตอกเพื่อไทยค้านทุกเรื่องฉุดรั้งการฟื้นตัวเศรษฐกิจ ยกตัวเลขนักท่องเที่ยวภูเก็ตแซนด์บอกซ์ซัดกลับ ต่างชาติเชื่อมั่นไทย ยันรัฐบาลให้ความสำคัญการศึกษาเปิดโรงเรียนก่อนเปิดสถานบันเทิง
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตผู้สมัครส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีที่คณะทำงานด้านต่างประเทศ พรรคเพื่อไทย วิจารณ์แผนเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ว่าคนไทยอยู่ในภาวะจำยอมทั้งที่ไม่มีความพร้อม เลื่อนลอยไร้แผนจัดการและต่างชาติไม่มีความเชื่อมั่นว่า
การออกแถลงการณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สะท้อนถึงการให้ความสำคัญกับปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน ไปพร้อมๆ กับความปลอดภัยในชีวิตของพี่น้องประชาชน ต้องช่วงชิงสร้างโอกาสการท่องเที่ยวให้กับประเทศไทย
โดยมีแผนบริหารจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสมรองรับ เพื่อให้เปิดประเทศอย่างปลอดภัย ในขณะที่ได้เตรียมความพร้อมในทุกด้านทั้งระบบสาธารณสุขที่เริ่มกลับมาอยู่ในสภาพปกติ ซึ่งขณะนี้ตัวเลขการฉีดวัคซีนโควิดเข็มแรกครอบคลุม 53% ทั่วประเทศแล้ว
อีกทั้งมีมีเงื่อนไขและขั้นตอนของการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวที่รัดกุม โดยกลุ่มที่จะเดินทางเข้ามาโดยไม่ต้องกักตัว จะต้องเป็นผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วเท่านั้น และต้องเดินทางเข้าประเทศไทยโดยทางอากาศ จากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำตามที่ไทยกำหนดอย่างน้อย 10 ประเทศ
เช่น สหรัฐอเมริกา จีน อังกฤษ สิงคโปร์ เยอรมนี เป็นต้น โดยจะต้องมีหลักฐานผ่านกระบวนการคัดกรองโควิดด้วยวิธี RT-PCR จากประเทศต้นทาง และตรวจหาเชื้ออีกครั้งเมื่อเดินทางถึงประเทศไทย หลังจากนั้นจึงจะสามารถเดินทางไปยังพื้นที่ต่างๆ
ซึ่งคาดว่าเปิดประเทศในเดือนพ.ย.จะมีนักท่องเที่ยวเข้าไทย 1 แสนคนต่อเดือนภายในสิ้นปีจะมีนักท่องเที่ยวเข้าไทย 2-3 แสนคน สร้างเม็ดเงินเข้าระบบ 1.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ส่วนที่คณะทำงานด้านต่างประเทศ พรรคเพื่อไทย อ้างว่าต่างประเทศไม่เชื่อมั่นโดยเฉพาะสหรัฐฯยังจัดไทยให้อยู่ในประเทศสีแดง ระดับความเสี่ยงสูงหลีกเลี่ยงการเดินทางนั้น น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า จากตัวเลขของการเปิดโครงการ ภูเก็ตแซนด์บอกซ์ตั้งแต่วันที่ 1กรกฎาคม-31 สิงหาคมที่ผ่านมา
มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้ามา 26,400คน นักท่องเที่ยวจากสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มาเที่ยวในโครงการภูเก็ตแซนด์บอกซ์มากที่สุด รองลงมาคือ สหราชอาณาจักร อิสราเอล เยอรมนี และฝรั่งเศส สะท้อนความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวที่มีต่อมาตรการดูแลความปลอดภัยและบริหารจัดการของไทย
“พรรคเพื่อไทยจะค้านทุกเรื่องโดยไม่มองประโยชน์ของประชาชนไม่ได้ เป็นความหวังดีประสงค์ร้าย ไม่อยากให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวหรืออย่างไร เพราะการท่องเที่ยวนั้นนำรายได้เข้าประเทศได้อย่างรวดเร็วและสร้างโอกาสทางการค้า และสร้างงาน สร้างอาชีพ ดังนั้นจึงไม่ควรฉุดรั้งการฟื้นตัวเศรษฐกิจ”น.ส.ทิพานัน กล่าว
ส่วนที่โลกโซเชียลวิจารณ์ว่า รัฐบาลไม่ให้ความสำคัญกับการศึกษา โดยให้เปิดสถานบันเทิงก่อนสถานศึกษานั้น น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง รัฐบาลกำหนดให้สถานศึกษาเปิดเทอมเต็มรูปแบบในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 แต่ขึ้นอยู่กับความพร้อมของสถานศึกษา ซึ่งไม่ได้บังคับ
โดยขณะนี้ได้เร่งฉีดวัคซีนให้กับนักเรียนอายุ 12-17 ปี ซึ่งขึ้นอยู่กับความยินของของผู้ปกครองและนักเรียนด้วย ซึ่งยืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการศึกษาของเด็กและเยาวชน ควบคู่ไปกับการเสริมภูมิต้านทานให้มีความปลอดภัย ในขณะที่จากแถลงการณ์ของนายกรัฐมนตรี ระบุชัดเจนว่าเป็นการพิจารณา ให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารได้
และจะพิจารณาอนุญาตให้สถานที่พักผ่อนหย่อนใจและสถานบันเทิงเปิดให้บริการได้ภายในวันที่ 1 ธันวาคม ภายใต้มาตรการด้านสาธารณสุขที่เหมาะสม เพื่อสนับสนุนและกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว ที่ใกล้จะเข้าสู่ช่วงของเทศกาลปีใหม่ ดังนั้นข้อมูลตรงนี้คือความจริงที่ไม่บิดเบือน โดยส่วนตัวเชื่อว่าพี่น้องประชาชนรู้เท่าทันการชี้นำประเด็นในโลกโซเชียลที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้