2 ต.ค.64 เวลา 13.30 น. นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยและมอบถุงยังชีพให้ประชาชนผู้ประสบภัย จำนวน 6,500 ชุด โดยมีนายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายรังสรร ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท นายอนุสรณ์ นาคาศัย นายกองค์การบริหารจังหวัดชัยนาท และผู้บริหารในพื้นที่ร่วมคณะ
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและคณะได้เดินทางไปยังวัดมะปราง ต.โพนางดำออก อ.สรรพยา พบปะให้กำลังใจประชาชนและมอบถุงยังชีพ จำนวน 1,448 ครัวเรือน จากนั้นคณะเดินทางต่อไปยังศูนย์เด็กเล็กเทศบาลตำบลหาดอาษา เพื่อตรวจเยี่ยมและมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัย จำนวน 1,148 ครัวเรือน และเดินทางต่อไปยังวัดอินทาราม มอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัย จำนวน 649 ครัวเรือน พร้อมกันนี้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ร่วมบรรจุถุงกระสอบทรายกั้นน้ำเพื่อนำไปใช้ในพื้นที่ด้วย
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยความเป็นอยู่ของประชาชนที่กำลังประสบปัญหาอุทกภัยทั่วประเทศ โดยได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด สั่งการให้ข้าราชการทุกหน่วย รวมถึงเหล่าทัพเสริมกำลังคนและเครื่องมือในการช่วยเหลือเคลื่อนย้ายประชาชนไปพื้นที่ปลอดภัยเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน กำชับให้เร่งลงพื้นที่ลดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินให้น้อยที่สุด พร้อมสำรวจความเสียหายหลังสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติเพื่อจ่ายเงินเยียวยาให้กับประชาชนอย่างเร็วที่สุด
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่าพื้นที่ อ.สรรพยา เป็นพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา สภาพพื้นที่เป็นที่ลุ่มต่ำ โดยเมื่อมีปริมาณฝนมากจะเป็นจุดแรกๆ ที่ได้รับผลกระทบทุกปี โดยปีนี้มีฝนตกอย่างต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้เขื่อนเจ้าพระยามีการระบายน้ำเพิ่มขึ้น จนเกิดเหตุน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนดังกล่าว แม้ปัจจุบันปริมาณน้ำจะเพิ่มมากขึ้น แต่ยังไม่ถึงขั้นวิกฤติเท่าปี 2554 ประกอบกับปริมาณน้ำสะสมมีไม่มาก และเป็นปกติของฤดูน้ำหลาก จึงคาดการณ์ได้ว่าหากไม่มีปริมาณฝนหรือมวลน้ำจากที่อื่นมาเพิ่มเติม จะกลับสู่ภาวะปกติในระยะเวลาครึ่งเดือนถึงหนึ่งเดือนนี้แน่นอน