เปลว สีเงิน
เมื่อวาน….
ผมปรารภเรื่อง “มจ.จุลเจิม ยุคล” โพสต์เฟซไว้ วันนี้อยากคุยต่อให้จบ
ตั้งใจจะไม่นำข้อความตามโพสต์มาอ้างอิง แต่คิดดูอีกที ถ้าไม่นำมา บางท่านที่ไม่ได้ติดตามข่าวสารตลอด อาจงงและสับสน
ฉะนั้น ขออนุญาตยกโพสต์เมื่อ ๑๓ กย.๖๔ ของท่าน “มจ.จุลเจิม ยุคล” มาไว้ตรงนี้อีกที ก่อนคุยกัน ดังนี้
“ปัจจุบัน รัฐบาล ทหาร ตำรวจ ใจไม่กล้า conquer fear conquer all ไม่ชนะความกลัว จะไปชนะอะไรได้
ปล่อยให้มันทำแบบนี้ได้ยังไงครับ ท่านนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ถ้าพวกท่านยังปล่อยให้พวกมันย่ำยีสถาบันพระมหากษัตริย์ และทำลายทรัพย์สินของทางราชการซึ่งมาจากเงินภาษีของพวกเรา
แบบนี้ พวกท่านลาออกเถอะครับ
ให้คนที่กล้าหาญมากกว่าพวกท่านทำหน้าที่แทนดีกว่า หรือท่านผู้บัญชาการทหารสูงสุด หดหัวอยู่แต่ในกระดอง ประกาศกฎอัยการศึกเลยซิครับ
ผมว่าประชาชนส่วนใหญ่ ที่ไม่ใช่ประชาชนส่วนน้อยที่พวกมันอ้าง น่าจะดีใจมากกว่า บ้านเมืองจะได้สงบสุขกันซะที เอาไอ้พวกหนักแผ่นดิน ขึ้นศาลทหาร เข้าคุกทหาร แทนคุกเอกชน หรือส่งไปอบรมที่ค่ายให้หมด.”
กราบฝ่าพระบาท……
กระหม่อมใคร่ครวญตามข้อความที่ฝ่าพระบาทโพสต์อยู่หลายวัน ว่าเหมาะสมหรือไม่ ที่จะหยิบยกขึ้นวิพากษ์-วิจารณ์
ก็ตกผลึกว่า การเหมาะหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับสุทธิ-อสุทธิแห่งเจตนาเป็นหลัก หาใช่เพ่งที่ตัวบุคคล แล้วทำนิ่งเสีย ด้วยภยาคติ
ดังนั้น อยากทูลว่า….
กระหม่อมเข้าใจตามที่ฝ่าพระบาทโพสต์ทุกอย่าง และขัดข้องใจตลอดมาเช่นกัน
แต่กระหม่อมรู้สึกว่า ข้อความที่ฝ่าพระบาทโพสต์ จะหนักหนาไปหน่อย อาจบั่นทอนจิตใจ รัฐบาล, ทหาร, ตำรวจ ในการทำหน้าที่ ก็เป็นได้
เพราะสถานะฝ่าพระบาท “พระบรมวงศานุวงศ์” ระดับสูง คือ “อยู่บนหิ้ง” เพื่อการเคารพบูชา
เมื่อฝ่าพระบาท “ลงจากหิ้ง” โพสต์ถึงเจ้าหน้าที่บ้านเมืองด้วยถ้อยคำตำหนิรุนแรง ถึงขั้นขับไล่ “ทางสาธารณะ” เช่นนั้น
แม้กระหม่อมเข้าใจกุศลเจตนา
แต่ก็นั่นแหละ เมื่อระดับฝ่าพระบาทเอ่ยโอษฐ์ ยากที่จะไม่ให้แต่ละกลุ่มบุคคลและองค์กร ดึงความไปพูด-ดึงไปใช้ สนับสนุนในทิศทางของตน
และในทิศทางต่างๆ นั้น “ทิศทางเดียว” ที่ต้องเป็นไปแน่นอน
ว่านี่คือ……….
“ท่าทีอันเป็นสัญญานจาก “สถาบันกษัตริย์” โดยตรง ถึงรัฐบาล, ทหาร, ตำรวจ”
คำว่า ท่านนายกรัฐมนตรี, ผู้บัญชาการทหารบก, ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
“พวกท่านออกไปเถอะ”
คำว่า “ให้คนที่กล้าหาญมากกว่าพวกท่านทำหน้าที่แทนดีกว่า หรือท่านผู้บัญชาการทหารสูงสุด หดหัวอยู่แต่ในกระดอง”
อะไรเหล่านี้ ……..
ไม่หนักหนา-สาหัส “รานน้ำใจ” กันมากไปหน่อยหรือ กระหม่อม?
จะมีสักกี่คนเล่า ที่จะเข้าใจว่า นี่เป็นความรู้สึกเฉพาะตัวของฝ่าพระบาทโดยเฉพาะ ไม่ใช่สะท้อนจากสถาบันโดยตรง?
เมื่อฝ่าพระบาทกล่าวนำสังคมเช่นนี้
“ฝ่ายดี” ถึงคิดคล้อยตาม แต่ด้วยสำนึกรอบ ก็ “ยั้งทำ” ทางซ้ำเติม
ฝ่ายไม่ดี นั่นแหละ ……
ด้วย “คิดชั่ว-สำนึกชั่ว” ฝังกมล ความที่ฝ่าพระบาทโพสต์นี้ นับว่า “เข้าทาง” ที่พวกเขาจะนำไปจิ๊กซอว์และขยายผล
ประหนึ่งฝ่าพระบาทช่วย “แซะร่อง” เป็นช่องให้สามนิ้ว โหมเข้าตีทาง “ด่านหน้า” ประตูนี้
ไปสู่การ “ล้มสถาบัน” ในด่านสุดท้าย ได้สะดวกดายยิ่งขึ้น?
“ประกาศกฎอัยการศึกเลยซิครับ
เอาไอ้พวกหนักแผ่นดิน ขึ้นศาลทหาร เข้าคุกทหาร แทนคุกเอกชน หรือส่งไปอบรมที่ค่ายให้หมด.”
ถ้าย้อนกลับไปซัก ๒๐๐-๓๐๐ ปีก่อนโน้น ……..
หน้าไหนที่มันกระทำย่ำยีต่อสถาบันชาติบ้านเมืองแบบนี้ ทั้งนายกฯ-ผบ.ทบ.-ผบ.ตร.ไม่ปล่อยให้เหลือเป็นธุลีเปื้อนแผ่นดิน อย่างวันนี้หรอก กระหม่อม
ประกาศกฎอัยการศึก จับขึ้นศาลทหาร เอาเข้าคุก เข้าค่ายอบรมนั้น คิดได้-พูดได้-อยากได้
แต่ทำไม่ได้ ……..!
เพราะในสังคมโลกยุค globalization ไทยก็เหมือนกว่า ๒๐๐ ประเทศของโลก ในกับดักประชาธิปไตย “ระบบทุน”
“สหรัฐ-ยุโรป” ตีนใหญ่ อยู่ในฐานะ “จ้าวโลก” ระบบทุน
เมื่อเป็นจ้าวโลก
เขาจึงออกกฎ-กติกาทั้งด้านเศรษฐกิจ-การค้า-การสังคม-การเมือง เรียกว่าทุกอย่างสนองตอบผลประโยชน์เขาเป็นหลักใหญ่
อุปโลกน์ให้มี “สหประชาชาติ” เป็นองค์การระหว่างรัฐบาลแต่ละประเทศสมาชิก โดยออกแบบให้มีองค์กร-หน่วยงานต่างๆ เป็นแขน-เป็นขา แผ่เข้าไปควบคุม-สอดส่อง อยู่ในแต่ละประเทศสมาชิก
นี่ละ กลไก “รัฐบาลโลก” ที่พูดกันละ
แท้จริง มันก็คือ “เครื่องมือ” จักรวรรดินิยมอำนาจตะวันตก ที่ขบวนการ CFR ออกแบบสู่เป้าหมาย “อำนาจเดียวครองโลก”
โดย “สหรัฐ-ยุโรป” เป็นตัวควบคุมและขับเคลื่อน
องค์กร-กองทุน-มูลนิธิต่างๆ ในหน้ากากนักบุญ เช่น FAO, ILO, UNESCO, UNESCO, UNICEF, WHO และฯลฯ
แตกแขนง ระโยง-ระยาง เป็นหนวดปลาหมึก ยุ่มย่ามเข้าไปในทุกหน่วยงานแต่ละประเทศ
ทั้งการศึกษา การเกษตร การพาณิชย์ การค้า แรงงาน พระ-วัด สตรี เด็ก การเมือง สหภาพฯ กระทั่งการค้ายาเสพติดและของเถื่อน
หน้าฉาก สวมหน้ากาก “นักบุญ”
แต่หลังฉาก ใต้หน้ากากนักบุญคือ “ซาตาน” คอยสอดแนม-ชักใย-แทรกแซง-ปลุกปั่น ผ่านแต่ละหน่วยงานนั้นๆ
เพราะ “จ้าวโลก” แทรกเข้ามา “วางยา” ประเทศดังว่า ผ่านองค์กร-กองทุน-มูลนิธิ ต่างๆ เช่น สิทธิมนุษชน เอ็นจีโอ เป็นมือ-เป็นตีน ทาง “กติกาโลก” เช่นนี้
ไม่ใช่ “รัฐบาล-ทหาร-ตำรวจ” กลัว ขี้ขลาด ไม่กล้าหาญ กระทั่งกับพวกแว้นขี้่ยา ที่ขบวนการสามนิ้วจ้างมากวนเมือง เผาโน่น-เผานี่ อย่างที่ฝ่าพระบาทโพสต์หรอก
หากแต่ในข้อเท็จจริง….
บ้านเมืองเรา ก็อารยประเทศชาติหนึ่งแล้ว มีกฎหมายเป็นขั้นตอน ที่รัฐบาล หาร ตำรวจ ต้องยึดปฏิบัติ เป็นหลักสากล
ดังนั้น การถือว่ามีอำนาจ จะทำอย่างไหนก็ได้ตามใจชอบ นั่นอาจได้ “ตามใจชอบ” แต่มันจะไม่ชอบ “ตามกฎหมาย”
แล้วใครล่ะ รับผิดชอบ?
อีกอย่างหนึ่ง อย่างที่บอก งานล่มชาตินี้ มันมี “เจ้าภาพ”
โดยพวกองค์กร “ซาตาน” คอยเป็นมือ-ตีนให้ “สหรัฐ-ยุโรป” ทำหน้าที่กู่ก้องฟ้องโลก “พิทักษ์” ขบวนการล้มเจ้า!
เพราะระบบทุน “กำไข่ประเทศ” นั่นแหละ
รัฐบาล-ทหาร-ตำรวจ จึงทำอะไรฮวบฮาบ-โครมคราม อย่างที่ฝ่าพระบาทต้องการไม่ได้ ต้องอดทน-อดกลั้น เดินไปตามกรอบและขั้นตอนกฎหมาย
ถ้าจู่ๆ ประกาศกฎอัยการศึก ต้อนหมู-ต้อนหมารกเมืองไปเข้าคุก-เข้าค่าย
เราทำได้ แต่ “ตายทันที” ทางสังคมโลก!
เขาจะ “บีบไข่” ด้วยตั้งแง่ไทย “เผด็จการ-ป่าเถื่อน” ละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรง ใช้กฏทางการค้า-การลงทุนแบบ “หมาป่ากับลูกแกะ”
ปิดตลาด “ห้ามซื้อ-ห้ามขาย” ไทยเรา
ทีนี้แหละไม่เพียงฝ่าพระบาทโพสต์ไล่รัฐบาล ตั้งแต่สภาอุตสาหกรรม ยันแม่ค้าขายหอย โพสต์ไล่กันพรึ่บ จนประเทศไม่เหลือใครจะเป็นช้าง ม้า วัว ควาย ชักลากประเทศไทย ให้ขึ้นจากหล่ม
ถึงเหลือ ก็คงไม่มีใครมา เพื่อให้ถูกชี้หน้าว่า “หดหัวอยู่ในกระดอง” อีก!
การเผารูปเคารพนั้น ไม่มีใครพอใจและนิ่งนอนใจ แต่ที่เกิดเหตุปุ๊บ-จับปั๊บ เป็นไปได้ยากในทางปฏิบัติ แต่เท่าที่เห็นทางตำรวจก็ตามจับได้โดยไม่เนิ่นช้า
ทั้งหมดนี้ กระหม่อมมิได้กล่าวในเชิงไม่เห็นด้วย ด้านว่า รัฐบาล ทหาร ตำรวจ ต้อง “เข้ม” ขึ้นอีก จากที่เป็นอยู่
หากแต่กระหม่อมเห็นว่า…..
ฝ่าพระบาทโพสต์หวังดีด้วยคำรุนแรง เกรงรัฐบาล ทหาร ตำรวจ จะทดท้อ หมดกำลังใจ เท่านั้นแหละ
ทั้งหมดนี้ ก็แล้วแต่จะโปรด
