น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตผู้สมัครส.ส.กทม.เขตจอมทอง –ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณที่ น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมาวิจารณ์รัฐบาลให้ทบทวนกรณีที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเตรียมเปิดประเทศ เตรียมเปิดพื้นที่กรุงเทพฯ รับนักท่องเที่ยวต่างชาติในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ทั้งที่ไม่มีความพร้อมว่า ต้องถามกลับโฆษกพรรคเพื่อไทยว่า ได้อ่านรายละเอียดของแผนการเปิดประเทศหรือไม่ หรืออ่านเพียงแค่ 3 บรรทัดแล้วไปนำเอาความเห็นที่ตรงกันข้ามมาต่อยอดเพื่อโหนกระแส เพียงหวังสร้างพื้นที่ข่าวเพียงเท่านั้น ไม่ได้มีสาระหรือมุ่งเน้นเพื่อประโยชน์อื่นใดกับพี่น้องประชาชนทั้งสิ้น
เพราะแผนการเปิดประเทศนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นากยกรัฐมนตรี กำชับให้ดำเนินการด้วยความรอบคอบและปลอดภัยเป็นสำคัญ ซึ่งจะต้องมีการประเมินความพร้อมทุกด้าน ในกลุ่มจังหวัด อำเภอและเขตที่จะมีการเปิดประเทศ โดยมีแผนรองรับเตรียมความพร้อมในทุกด้าน สำหรับการเตรียมความพร้อมเปิดประเทศในระยะที่ 2 ในเดือน ตุลาคมนี้ ใน 5 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และเชียงใหม่
ซึ่งจะเห็นได้ว่าในส่วนของกทม.เอง ที่เลื่อนออกไปเนวันที่ 15 ตุลาคม ไม่ได้เปิดพร้อมกันจังหวัดอื่นในวันทื่ 1 ตุลาคม เนื่องจากคำนึงถึงเป้าหมายการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม 70% เป็นหลักก่อน ซึ่งคาดว่าจะฉีดได้ครบ 70 % ในเดือนหน้า
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า การจะเปิดประเทศได้นั้นมีรายละเอียดการตัดสินใจมีความละเอียดรอบด้าน มีการประเมินผลเสมอ และต้องเข้าใจว่าเรื่องของการท่องเที่ยวนั้นเกี่ยวพันกับธุรกิจในหลายๆ ภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น โรงแรม ค้าปลีก เศรษฐกิจในชุมชน ต้องพึ่งพาการท่องเที่ยว จะมองเพียงมิติด้านท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียวไม่ได้ ซึ่งต้องยอมรับว่าเมื่อมีแผนการเปิดประเทศออกมา ก็มีกระแสตอบรับจากทั้งนักลงทุนและภาคเอกชนต่างๆ ทำให้บรรยากาศเศรษฐกิจดีขึ้น ดังนั้นไม่ใช่เรื่องของการหารายได้อื่นไม่เป็น แต่เป็นการใช้กลยุทธ์การท่องเที่ยวมาเป็นตัวนำเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นในด้านอื่นๆ ด้วย
“การเป็นฝ่ายค้าน ไม่จำเป็นจะขัดแย้งขัดขารัฐบาลไปเสียทุกเรื่อง บางเรื่องไม่พูดบ้างอาจเป็นประโยชน์กว่าการพูดทุกเรื่อง พี่น้องประชาชนมองเห็นแล้วว่าวันนี้รัฐบาลมีความตั้งใจทำงาน แก้ไขปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน มุ่งเดินหน้าไปสู่ความสำเร็จ แต่มีบางกลุ่มที่ต้องการฉุดรุ้งการแก้ไขปัญหาเพื่อหวังผลทางการเมือง” น.ส.ทิพานัน กล่าว