ดำใน “ถุงดำ” ผู้กำกับโจ้-เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

“ผู้กำกับโจ้” ถูกจับแล้ว เป็นเรื่องธรรมดา ลองตำรวจเอาจริง ไม่มีผู้ร้ายคนไหนหนีรอดหรอก!
แต่ผลสอบผู้กำกับโจ้ที่นำไปสู่การ “ขยายผล” นั่นตะหาก

ถ้าเปิดเผยและเอากันจริง
จะเกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “แผ่นดินไหว” ทางการบ้าน-การเมือง ชนิดไม่คิดและคาดหมายมาก่อน
ได้เค้เก้-ตาค้าง กันบ้างหรอก ในเดือน-สองเดือนข้างหน้านี้!?
โดยเฉพาะ ที่ร่ำร้องปฏิรูปตำรวจ..ล้างบางตำรวจกันมานาน นั้น เลวร้ายจากผู้กำกับ “โจ้คลุมถุง” จะผลักดันให้ตำรวจต้อง “รื้อ-ล้าง” ระบบ ชนิดยินยอมพร้อมใจ ก็จากครั้งนี้แหละ

“พล.ต.ท.อภิชาติ ศิริสิทธิ์” ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค ๖ พ่อตาหรือว่าที่พ่อตาผู้กำกับโจ้ ท่านรับผิดชอบภาคเหนือตอนล่าง ๙ จังหวัด

“กำแพงเพชร, ตาก, นครสวรรค์, พิจิตร, พิษณุโลก, เพชรบูรณ์, สุโขทัย, อุตรดิตถ์ และอุทัยธานี”

ท่านเป็นสุขในตำแหน่งมา ๓-๔ ปี ตั้งแต่ยุคผบ.ตร.ชื่อจักรทิพย์ และจะเกษียณ กันยา.นี้

ก็อยากอวยพร ว่า…
เหลืออีกไม่กี่วันแล้ว ขอภาวนา ก่อนเกษียนท่านจงเป็นสุข..เป็นสุขเถิด เกษียณไปแล้ว ก็จงเป็นสุข

ขอกุศลอานิสงส์ในการทำหน้าที่ผู้บัญชาการภาค ๖ ด้วยซื่อสัตย์-สุจริต ตลอดมา จงคุ้มครองด้วยเถิด

ไม่ใช่อะไร….
แม้ท่าน นรต.รุ่น ๓๖ รุ่นเดียวกับ ผบ.ตร.สุวัฒน์ รองผบ.ตร. “พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์” และ “อดีตผบ.ตร.จักรทิพย์” ก็จริง

แต่คดีนี้ ผมได้ยินผบ.ตร.สุวัฒน์ประกาศ “นิ้วไหนร้าย ต้องตัดนิ้วนั้นทิ้ง”!

ผบ.ตร.ยอมเสียอวัยวะ คือเพื่อนที่ไม่ดีทิ้ง เพื่อรักษาชีวิต คือตำรวจที่ดีทั้งองค์กรไว้
มาตรฐานปฏิบัติตำรวจ ท้องที่ไหนส่อบกพร่องหรือไม่ซื่อ ปล่อยมีบ่อน มีซ่อง มียาเสพติด มีของเถื่อน เกลื่อนกราด จะถูกย้าย-ถูกตั้งกรรมการสอบ

แล้วกรณีคลุมถุงพ่อค้ายารีดทรัพย์จนตายอย่างนี้
จะให้สังคมเข้าใจว่า ชั่วแค่เด็ก ผู้บังคับบัญชาไม่เกี่ยว ไม่รู้เห็น ไม่ต้องรับผิดชอบ ไม่ต้องถูกสอบอะไรเลยอย่างนั้้นหรือ?

แบบนั้น มันไม่ “สองมาตรฐาน” ไปหน่อยหรือ?
ผู้ใหญ่กินมาก ชมว่าเจริญอาหาร แต่พอเด็กกินจุ ดุว่าตะกละ ก็พูดได้ แต่พอถามเหตุผล “ก็กูเป็นผู้บังคับบัญชามึงไง”

เพราะอย่างนี้ ถึงได้เกิด “รุ่นใหม่-รุ่นเก่า” ตีกัน!

ดังนั้น ดูรูปการณ์และพฤติกรรมแล้ว คาดว่า พล.ต.ท.อภิชาติ น่าจะไม่สุขก่อนเกษียณแน่
เว้นแต่นายกฯ และผบ.ตร.จะไม่ต้องการ “รื้อ-ล้าง” ระบบตำรวจที่เน่าในจนหนอนระอา เป็นการส่งสัญญานให้สังคมรู้
“การล้างบางตำรวจเริ่มแล้ว” เท่านั้น

คดีนี้ ผมพิเคราะห์ดู จะ “ตัดตอนจบ” แค่จับผู้กำกับโจ้ สอบแล้วทำสำนวนส่งอัยการสั่งฟ้องต่อศาล แค่นั้นคงไม่ได้
ขืนเป็นอย่างนั้น พังแน่!

พังทั้งตำรวจ ทั้งรัฐบาล คือตัวนายกฯ!
เพราะเรื่องนี้ มัน “ฟางเส้นสุดท้าย” บนหลังประชาชนจริงๆ จากพฤติกรรม เหตุอันเป็นองค์ประกอบหลัก บ่งชัด

นี่มันเกี่ยวพันการ “ค้ายาเสพติด” ในภาค ๖ จากฝั่งพม่าเข้ามาไทย ทางแม่สอด จังหวัดตาก ชัวร์ระดับ ๘๐-๙๐%!
ฉะนั้น คิดว่า ทั้งนายกฯ ทั้งผบ.ตร.จะไม่ “ตัดตอนจบ” แน่
ต้องปฏิบัติการต่อเนื่อง….

“รื้อ” เลิกพรมทั้งสตช. “ล้างบาง” กันไปเลยในคราวนี้
ขืนไม่รื้อ สตช.และรัฐบาล มีสิทธิ์ “ถูกสังคมรื้อ”!

ตัวผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค ๖ มีโอกาสเป็น “ปฐมแห่งการรื้อ-ล้าง” ระบบตำรวจ ชนิดมีความน่าจะเป็น

ท่านเป็นผู้บังคับบัญชาตำรวจถึง ๙ จังหวัด แต่เฉพาะอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ที่เดียว
ไฉนจึงปล่อยให้เรื่องอันตรายต่อความมั่นคงประเทศ ทั้งยาเสพติด ทั้งค้าแรงงานลักลอบเข้า ทั้งบ่อนจากฝั่งลาว ระบาดพอๆกับโควิด

ไม่มากมายเฉยๆ เคยเป็นเรื่องอื้อฉาวโลกมาแล้ว จากคดี จับขนยาไอซ์คาด่านแม่ระเมา ที่แม่สอด ๒ ปีก่อน
ผู้ต้องหาให้การพาดพิงถึงนายตำรวจ นายทหาร ร่วมในขบวนการ รวม ๓ คน แต่ถูกเป่าหายไปจากสำนวนสอบสวน
จำกันได้มิใช่หรือ….

เมื่อตอนต้นปี ที่เรื่องแดง เป็นข่าวครึกโครม ศึกตำรวจกับตำรวจ
คือ “พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์” รองผบ.ตร.ดูแลด้านสืบสวน-สอบสวน ท่านไม่ยอม ที่ไม่สอบสวนตำรวจที่พาดพิงปรากฏในสำนวน

ปลายธันวา.๖๓ สั่งการให้พล.ต.ท.อภิชาติ ในฐานะผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค ๖ สอบสวนทวนเรื่อง และให้ตั้งกรรมการสอบนายตำรวจที่มีชื่อพัวพัน
แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากทาง ผบช.ภ.๖!

จนต้นปี ๖๔ รองผบ.ตร.สุชาติ จึงสั่งการให้ ผบช.ภ.๖ รายงานชี้แจงเหตุผลความล่าช้า แต่ลงท้าย ผบ.ตร.สุวัฒน์ ต้องออกมาแถลง “ไม่มีอะไร” มันจบแล้ว

ถึงขณะนี้ รองผบ.ตร.สุชาติ ก็ยังไม่ได้รับคำชี้แจงจากพล.ต.ท.อภิชาติ ว่าทำไมจึงไม่มีการสอบสวนตามสั่งการ?

ถามว่า แล้วเกี่ยวพันกับผู้กำกับโจ้ตรงไหน?
ในคดี ก็ไม่มีอะไรเกี่ยว แต่อยากให้ดูประเด็นนี้ประกอบ เมื่อตอนต้นเดือนสิงหา.นี้

ผบ.ตร.มีคำสั่งตรง….
ย้ายผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรแม่สอด จังหวัดตาก ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ผมให้ข้อสังเกต ปกติ มันเป็นอำนาจผู้บัญชาการภาค จะย้ายเข้ากรุ ก็ย้ายไปประจำที่กองบัญชาการภาค อย่างผู้การโจ้ พล.ต.ท.อภิชาติ ก็ย้ายว่าที่ลูกเขย ไปประจำที่ภาค

แต่รายผู้กำกับแม่สอด ผบ.ตร.ออกคำสั่งตรง ย้ายจากภาคมาประจำที่สตช.เลย โดยไม่ผ่านผบช.ภ ๖!
แบบนี้ บ่งบอกอะไร ก็น่าเข้าใจได้มิใช่หรือ?

นครสวรรค์ กับแม่สอด ไม่ตางเปลือกตาล่าง-เปลือกตาบน ผู้กำกับโจ้ เป็นตำรวจมาจากด้านปราบยาเสพติด ผู้ต้องหาที่เขาจับมาเอาถุงคลุมหัวจนตาย ก็เป็นคดียาเสพติด

กระแสแรกของการถูกจับ
ก็โน่น…จากทางแม่สอด หนีไปอยู่เมียวดี จะใช่ที่เมียวดีหรือไม่ก็ตาม แต่นั่นบ่งบอกถึงพฤติกรรมของตำรวจภาค ๖ บางส่วน บนการรับรู้ของคนทั่วไปในเส้นทางสีเทาที่ฉาวโฉ่

ถ้าอยากรู้ว่า ผบ.ตร.ไว้วางใจ พล.ต.ท.อภิชาติในคดีนี้หรือไม่ ดูจากรายชื่อ “คณะกรรมการสืบสวน-สอบสวน” ที่ท่านตั้งเมื่อวานก็แล้วกัน

ร่วม ๒๐ นาย มี พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ เป็นหัวหน้าคณะ และพล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ รองผบ.ตร.เป็นรองหัวหน้าคณะ

ในจำนวนทั้งหมด มีรองผู้บัญชาการภาค ๖ รวม ๓ นายร่วม แต่ไม่มีชื่อ “พล.ต.ท.อภิชาติ” ในฐานะผบช.ภ.แต่อย่างใด!

ดังนั้น การที่ผบ.ตร.มอบให้พล.ต.อ.สุชาติซึ่งรู้ตื้นลึก-หนาบาง “เส้นทางสีเทา” ในภาค ๖ ที่พล.ต.ท.อภิชาติคุมอยู่ มาเป็นหัวหน้าคณะสะสางคดีผู้กำกับโจ้
นับว่า “ถูกตัว-ถูกที่-ถูกงาน” จริงแท้

การ “ล้างบางตำรวจ” เปิดฉากที่ภาค ๖ “นครสวรรค์-แม่สอด” เป็นปฐมบทแน่!
ในถุงคลุมหัวพ่อค้ายา……
มันมีอะไรมโหฬารพันลึกยิ่งกว่า “ผู้กำกับโจ้” ถ้าเอากันจริง.

 

 

Written By
More from plew
“ฟางเส้นสุดท้ายของรัฐบาล”
เปลว สีเงิน หลังจากบุคคลผู้นี้ โพสต์ข้อความนี้ออกไป…… Thanathorn Juangroongruangkit @Thanathorn_FWP This is not a compromise....
Read More
0 replies on “ดำใน “ถุงดำ” ผู้กำกับโจ้-เปลว สีเงิน”