25 สิงหาคม 2564 เวลา 12.30 ณ โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล แพทย์หญิง อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้ตอบคำถามสื่อมวลชน ต่อกรณีการตั้งเป้าการฉีดวัคซีนไว้ 100 ล้านโดส ภายในปี 2564 แต่ตัวเลขของการฉีดวัคซีนในประเทศไทย ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 28 ล้านโดสเท่านั้น
โดยผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่าเรื่องของวัคซีนในส่วนของนโยบายของรัฐบาลกำหนดให้ 2564 มีการฉีดวัคซีนครบ 100 ล้านโดส ซึ่งใน 100 ล้านโดส คิดตามอัตราส่วนของประชากรที่ 50 ล้านคน ซึ่งถ้าคิดคร่าวๆ อัตราฉีดจะอยู่ที่ประมาณ 15 ล้านโดส ต่อเดือน และก็จะต้องฉีดให้ได้ 5 แสนโดสต่อวัน ซึ่งหากได้ติดตามอัตราการฉีดของประเทศไทยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สามารถฉีดวัคซีนได้เกิน 5 แสนโดสต่อวัน จึงยังอยู่ในแผนการจัดการ
ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวสรุปถึงแผนการจัดหาวัคซีน ดังนี้
1. เดือนสิงหาคม 2564 จำนวนประมาณ 14.8 ล้านโดส ในจำนวนนี้เป็น Sinovac 6.5 ล้านโดส AstraZeneca 5.8 ล้านโดส Pfizer จากยอดบริจาคอีก 1.5 ล้านโดส รวม Sinopharmอีก 1 ล้านโดส เดือนสิงหาคมจึงเป็นไปตามแผนการฉีดวันละ 5 แสนโดสขึ้นไป
2. เดือนกันยายน 2564 มีวัคซีนที่บางส่วนที่นำส่งถึงแล้วและบางส่วนที่ทยอยมา จำนวน 15 ล้านโดส แบ่งเป็น Sinovac 6 ล้านโดส AstraZeneca 7 ล้านโดส และ Pfizer จะมาเพิ่มอีก 2 ล้านโดส
3. เดือนตุลาคม – ธันวาคม เนื่องจากการที่รัฐบาลเจรจากับผู้ผลิต AstraZeneca ให้ได้เล็งเห็นถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ค่อนข้างมีตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงขึ้นของประเทศไทย ผู้ผลิต AstraZeneca ก็ให้คำมั่นว่าจะจัดสรร AstraZeneca ให้ลงพื้นที่ประเทศไทยตั้งแต่กันยายนเป็นต้นไปเดือนละ 7 ล้านโดส เป็นอย่างน้อย โดยหากมีกำลังผลิตมากขึ้น ประเทศไทยจะได้รับการจัดสรรที่มากขึ้นกว่านี้ แต่ที่แน่ๆอย่างน้อย ในเดือนกันยายน ตุลาคม พฤศจิกายน ไปจนถึงธันวาคม จะจัดส่งให้ได้เดือนละ 7 ล้านโดส ในส่วนของ Pfizer เดือนตุลาคม 8 ล้านโดส เดือนพฤศจิกายนและธันวาคมมาอีกเดือนละ 10 ล้านโดส
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขยังเป็นห่วง ผู้สูงอายุและ 7 กลุ่มโรค หลายคนไปที่จุดฉีดวัคซีน และอาจจะมีความไม่มั่นใจวัคซีน Sinovac อยากจะสะท้อนให้เห็นตัวเลขของการรายงานของโรงเรียนแพทย์ว่าการที่ใช้วัคซีนไขว้หรือวัคซีนผสมฉีดเข็ม 1 Sinovac และอีก 3 สัปดาห์ตามกระตุ้นภูมิด้วย AstraZeneca เข็ม 2 จะช่วยให้มีภูมิคุ้มกันสูง และสามารถป้องกันโรค ป้องกันอัตราป่วยหนักและเสียชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงฝากเน้นย้ำให้ทุกคนมั่นใจในเรื่องของการจัดสรรวัคซีน รวมถึงความปลอดภัยที่กระทรวงสาธารณสุขพยายามกำกับติดตามอย่างใกล้ชิด รวมไปถึงรายละเอียดอื่นๆด้วย ทั้งเรื่องปริมาณวัคซีน เข็ม การจัดการขนส่ง กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมรับมืออย่างเต็มที่