เศรษฐกิจ “ชี้ขาด” รัฐบาลลุงตู่

“คสช.” และ” รัฐบาลคสช. “เป็นอดีต” ไปเรียบร้อยแล้ว!

ในทันทีที่…..เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศแต่งตั้งรัฐมนตรี

—————————-

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า

ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ ๙ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๒แล้ว นั้น

บัดนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เลือกสรรผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๕๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นรองนายกรัฐมนตรี

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นรองนายกรัฐมนตรี

นายวิษณุ เครืองาม เป็นรองนายกรัฐมนตรี

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอีกตำแหน่งหนึ่ง

พลเอก ชัยชาญ ช้างมงคล เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม

นายอุตตม สาวนายน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

นายสันติ พร้อมพัฒน์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

นายดอน ปรมัตถ์วินัย เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

นายจุติ ไกรฤกษ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

นายประภัตร โพธสุธน เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม

นายถาวร เสนเนียม เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

นายวราวุธ ศิลปอาชา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์

พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

นายนิพนธ์ บุญญามณี เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

นายทรงศักดิ์ ทองศรี เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

นายอิทธิพล คุณปลื้ม เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม

นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

นายสาธิต ปิตุเตชะ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ ๑๐ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ เป็นปีที่ ๔ ในรัชกาลปัจจุบัน

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี

ครับ….จบยุค “รัฐบาลทหาร” เพียงเท่านี้

ประเทศไทยเข้าสู่ยุครัฐบาล “ประชาธิปไตยเลือกตั้ง” นับจากวันนี้เป็นต้นไป

๕ ปี ๑ เดือน ๑๙ วัน ที่ “พลเอกประยุทธ์” สู่ความเป็นนายกฯ “องค์รัฐาธิปัตย์” เมื่อ ๒๒ พค.๕๗

แต่วันนี้ “พลเอกประยุทธ์” เป็นนายกฯจากการเลือกตั้งในระบบรัฐสภาสมบูรณ์ ณ ๑๐ กค.๖๒

ก็ต้องลุ้นกันต่อว่า ระหว่างบท “นายกฯ รัฐาธิปัตย์” กับบท “นายกฯเลือกตั้ง”

บทไหนที่พลเอกประยุทธ์จะเล่นได้ประทับใจแฟนๆมากกว่ากัน?

เห็นรายชื่อครม.แล้ว ที่ผม “ดีใจด้วย” มีอยู่คนเดียว คือ “พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ”

พูดกันตรงๆ รัฐบาลประยุทธ์ไม่มีท่าน ก็เหมือนแกงที่ขาดเกลือ

ครั้นมีท่าน ก็จะมีคนติง “อย่ากินเค็มให้มากนักนะ” เดี๋ยวไตจะวาย!

ฉะนั้น ที่รัฐบาลนี้วางพลเอกประวิตรไว้ในตำแหน่ง “รองนายกฯ” ตำแหน่งเดียว

ถือว่า”ลงตัว”

“พี่ใหญ่-พี่กลาง-น้องเล็ก”ไม่ทิ้งกัน

มันก็สร้างแง่คิดแห่งความเป็นมิตรสหาย เมื่อได้ใจซึ่งกันและกัน เป็นตายอย่างไร ก็ไม่ทิ้งกัน

อันคนเรานั้น เกิดมาครั้งหนึ่ง ได้มีมิตรสหายร่วมเป็น-ร่วมตาย ถือเป็นวาสนายิ่งนัก!

๕ ปี ในรัฐบาลคสช. “พลเอกประวิตร” บาดเจ็บสาหัสที่สุด

ส่วนหนึ่งก็เพราะบิ๊กป้อมเอง แต่ส่วนใหญ่ มองให้ดีจะเห็นว่า ที่สาหัสนั่น เพราะพี่แอ่นอกเป็นโล่ให้น้องเล็ก!

ที่ผมดีใจที่เห็นบิ๊กป้อมยังอยู่ ก็ด้วยเหตุผลส่วนตัวเรื่องเดียว คือเรื่อง “เรือดำน้ำ” ที่สั่งซื้อจากจีนนั่นแหละ

ผมเชียร์สุดใจขาดดิ้นแต่ต้น…….

ถึงตอนนี้ ผ่านไป ๒-๓ ปีแล้ว เข้าใจว่าภายในรัฐบาลนี้ น่าจะได้เห็นเรือดำน้ำตัวเป็นๆ

บอกตรงๆ อยากเห็นให้เป็นผลงานบิ๊กป้อม เพราะถึงตอนนี้ คงเข้าใจกันแล้วว่า

ด้วยยุทธศาสตร์อาณาเขตทางทะเลด้านทรัพยากร มันจำเป็นและสำคัญขนาดไหน!

สำหรับรัฐมนตรีคนอื่นๆ ผมว่าก็เป็นไปตามที่คาดหมายกันไว้ จะมีเซอร์ไพรส์นิดหน่อย ก็ตรงร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า

เดิม “โผสื่อ” เก็งกันว่าเป็นรมว.แรงงาน แต่ “โผจริง” เป็นรมช.เกษตรฯ

อีกคนก็คือ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล
แรกๆว่า เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ แต่ปรากฏว่าเป็น รมว.กระทรวงแรงงาน

ใครจะยี้หรือเยส ครม.ประยุทธ์ ก็สุดแต่มุมมอง-ทัศนะแต่ละคน

ส่วนความเห็นผม รัฐบาลเลือกตั้ง ก็เหมือน”สลากกินแบ่ง”คือต้องแบ่งๆกันไปกับพรรคร่วม เพราะต้องพึ่งมือเขา

ลงตัวได้ก็”บุญโข”แล้ว

ต่างกับรัฐบาลเผด็จการ ที่เหมือน “สลากกินรวบ” นายกฯคนเดียว ชี้ได้ทุกหัว จะเอาใคร-ตำแหน่งไหน

แต่สังเกตดู พลเอกประยุทธ์จะอารมณ์ดี เป็นนายกฯ เลือกตั้งที่ “พูดหวาน-ขานเพราะ” ยิ้มแก้มน่าหยิก แสดงว่า “มั่นใจ” รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ

………..

ใครหือ ให้ “ธรรมนัส” ขึ้นธรรมาสน์เทศน์บรรลุไปเลย!

ในเรื่องหลายพรรค-หลายนโยบายนั้น

ผมว่าไม่ต้องห่วง

เพราะรัฐธรรมนูญตีกรอบไว้แล้วว่า “นโยบายรัฐบาล” นั้น ต่างคน-ต่างทำไม่ได้

เรื่องเฉพาะหน้า ก็เรื่องเศรษฐกิจนั่นแหละ เรื่องๆ อื่นอยู่อันดับที่ร้อย-ที่พันทั้งนั้น

เงินบาทแข็ง ส่งออกทรุด ท่องเที่ยวหด หนี้ภาคครัวเรือนพุ่งสูง RCEP “พันธมิตรเศรษฐกิจระดับภูมิภาค อาเซียน ๑๐ ประเทศ กับคู่เจรจา ๖ ประเทศ” จีน, อินเดีย, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์

ไทยในฐานะ “ประธานอาเซียน” ต้องทำให้จบเร็วที่สุด ถ้าจบ เท่ากับ RCEP จะเป็นตลาดใหญ่สุด ด้วยประชากรกว่า ครึ่งโลก

FTA ไทย-ยุโรป เมื่อเงื่อนไขด้านประชาธิปไตยหมดไป ต้องเดินหน้าเจรจากันให้ตกลง หลังจากที่ล่าช้ามากว่า ๑๐ ปีแล้ว

ยิ่งตอนนี้ ยุโรปตกลง FTA กับเวียดนามไปแล้ว เริ่มมีผลแล้ว ไทยจะลำบาก ด้วยสินค้าหลายตัวเหมือนๆกัน

ฉะนั้น ไม่มีเวลาฮันนีมูน ประชาธิปัตย์ “เจ้ากระทรวงพาณิชย์” อย่ามัวคลั่งแก้รัฐธรรมนูญ ต้องเร่งเรื่องนี้ก่อน
ไอ้ “สถุลขายชาติ” มันดอดไปใส่ไฟเรื่องประชาธิปไตยกับสหภาพยุโรป ที่กรุงบรัสเซลส์แล้วเห็นมั้ย!?

เอาเท่านี้ละมัง………

พอได้รู้หน้า-รู้ตาครม.ประยุทธ์ ๑/๒ ไว้วันพรุ่ง ค่อยมาสัพเพเหระกันต่อนะ.

 

Written By
More from plew
ร้อยล้าน “ศรัทธาบริการ” บิณฑ์
ทฤษฏี “ตาบอดไม่กลัวเสือ” ของทักษิณ ทำให้พรรคการเมืองหนึ่ง ได้ครองอีสานมาร่วม ๒ ทศวรรษ แต่ถึงตอนนี้…….. “คนภาคอีสาน” เริ่มตาสว่าง! เมื่อตาสว่าง ก็เห็นกองกระดูกคนอีสานที่ถูกเสือจับกินเรี่ยราดไปทั่ว...
Read More
One reply on “เศรษฐกิจ “ชี้ขาด” รัฐบาลลุงตู่”
  1. says: manoch sangvipasnapaporn

    ที่มัว ๆ ก็สมศักดิ์ แต่ไม่มีก็ไม่ได้

Comments are closed.