เปลว สีเงิน
ดูกันหรือเปล่าล่ะ?
พรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.๒๕๖๕ ที่รัฐบาลเสนอเข้าที่ประชุมสภาเมื่อวาน (๓๑ พค.๖๔) นั่นน่ะ
สำหรับผม บอกตรงๆ “ไม่ได้ดู”!
เหตุที่ไม่ดู เพราะ
๑.ถ้าสส.ทั้งฝ่ายค้าน-ฝ่ายรัฐบาล ต้องการให้นายกฯลาออกหรือยุบสภา ถึงตอนโหวต “รับ-ไม่รับ” ในวันที่ ๒ มิย. ก็ “โหวตคว่ำ” ไปเลย ได้เลือกตั้งใหม่
๒.แต่ถ้าหากไม่แน่ใจว่า ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ พรรคตัวเอง จะได้กลับเข้ามาหรือไม่ จะได้เป็นรัฐบาลมั้ย?
ทั้งไม่มั่นใจว่า ตัวเองชาวบ้านจะเลือกให้เป็นสส.กลับเข้าสภาหรือเปล่า?
แบบนี้ แนะให้อาศัยสภาเป็นที่ทำมากินด้วยการเดินไปตามกฎกติกาดีกว่า
ได้ฉวยโอกาสจิกหัวนายกฯ ด่าสะใจตอนอภิปรายก็พอแล้ว ตอนโหวตก็ “วัวใคร-เข้าคอกใคร”
คือฝ่ายค้านซึ่ง “เสียงน้อยกว่า” ก็โหวตคว่ำไป
ส่วนฝ่ายรัฐบาล ไปตามน้ำ-ตามมรรยาท ก็โหวตรับไป
ให้พรบ.งบประมาณ ปี ๖๕ วงเกินกว่า ๓.๑ ล้านล้าน ผ่านความเห็นชอบสภา ในวาระ ๑ ตั้งกรรมาธิการถกกันต่อวาระ ๒-๓
ก็สั้นๆ ง่ายๆ แค่นี้
มันเป็นสูตรสำเร็จในการพิจารณางบประมาณแต่ละปี ตามกลไกระบบรัฐสภาอยู่แล้ว
ที่ต้องใช้เวลา ๓ วัน ๔ วัน พูดกัน นั่นเป็นการสำเร็จความใคร่ทางอารมณ์ ด้วยการใช้ตัวเลขงบกระทรวงนั้น-นี้ ไปตีฟองออกลูก-ออกดอกช็อกประสาทชาวบ้าน
ขยายไส้เดือนเป็นมังกรโคโมโด ให้โอ้โฮ..โอ้โฮ..กันไป ตามกลไกรัฐสภาเลือกตั้ง และ
๓.จะต้องเปลืองค่าไฟเปิดโทรทัศน์เพื่อดูสิ่งนี้ทำไม แค่ชำเลืองแต่ละหัวข่าวตามเว็บ ก็เก็บบรรยากาศและกากมาให้ครบแล้ว
เนี่ย…ดูซี แต่ละหัวข่าว สะท้อนการถกงบในสภาเมื่อวานเหลือเฟืออยู่แล้ว
-บิ๊กตู่ นำทีมถกงบปี 65 วงเงิน3.1ล้านล้าน คาดศก.โต4-5%
-ผู้นำฝ่ายค้าน ‘จั่วหัวเฉ่ง’ บิ๊กตู่ จัดงบล้มเหลว! ไล่ลาออกคืนความสุขปชช.
-“ประเสริฐ” จวกรัฐจัดงบ ปี 65 ไม่สะท้อนปัญหาประเทศ จี้นายกฯลาออก เหตุปชช.ไม่เชื่อมั่น
-‘วิโรจน์’ ลั่นกลางสภา ไม่รับงบปี 65 อัดประยุทธ์ไร้สามัญสำนึก ไล่รัฐบาลลาออก
ผู้นำฝ่ายค้าน คือ “คุณสมพงษ์ อมรวิวัฒน์” พรรคเพื่อไทยส่วนประเสริฐ คือ เลขาฯพรรค
ส่วนวิโรจน์ ก็ “วิโรจน์-เหลือก” พรรคก้าวไกล พรรคพี่-พรรคน้องของเพื่อไทย ในระบอบทักษิณ
มีฝ่ายรัฐบาลที่พูดสะดุดหู-สะดุดตาอยู่คน คือ “นายชาดา ไทยเศรษฐ์” สส.ภูมิใจไทย พรรคซีกรัฐบาล
อภิปรายไม่พอใจที่กระทรวงสาธารณสุขถูกตัดงบ ตบท้ายคำอภิปราย ว่า
“หรือสำนักงบประมาณคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ จะไม่รักนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เสียแล้ว ท่านถึงได้ตัดงบประมาณแบบนี้ ผมก็อยากจะบอกว่า
“หัวหน้าครับ…ถ้าเขาไม่รัก ก็กลับบ้านเราเถอะ”
สส.ชาดา นักเลงดี “คิดตรง-พูดตรง”
สรุปเหตุที่กระทรวงสาธารณสุขถูกตัดงบ เพราะนายกฯ “หมดรัก” รัฐมนตรีสาธารณสุข!?
“กลาโหม” ก็ถูกตัดนะ ถ้าใช้ตรรกะสส.ชาดาเป็นตัววัด ก็แสดงว่า นายกฯ “หมดรัก” รัฐมนตรีกลาโหมด้วยเหมือนกัน
เมื่อดูครบทั้งหมดทุกกระทรวง ………
ปรากฏว่านายกฯ “หมดรัก” ทุกกระทรวง เพราะถูกตัด-ถูกขลิบ-ถูกเกลี่ย” กันไปตามเหตุปัจจัย ไม่เว้นซักกระทรวง
แบบนี้ ก็คงต้อง “กลับบ้าน” กันทั้งหมดซะแล้วกระมัง?
วลี “ลาออก” กับ “ยุบสภา”
น่าจะเป็น “แฮชแท็ก” อันดับ ๑ จากการเมืองซีกค้าน ซีกใหม่สามสัสและซีกเก่าฟอสซิล ในช่วงเดือน-สองเดือนมานี้
แต่หนักทางให้ลาออก มากกว่าให้ยุบสภา!
อย่างอภิปรายในสภา เนื้อหาเป็นเรื่องรอง ตัณหา “ด่านายกฯ” และอ้อนวอนให้พรรคร่วมโหวตคว่ำ เป็นเรื่องหลัก
และลงท้าย “ให้ลาออก”!
ก็อยากถามว่า ในเมื่ออยากให้รัฐบาลนี้พ้นไป อยากให้พลเอกประยุทธ์พ้นจากเก้าอี้นายกฯ ไป
แต่ทำไมจำเพาะให้นายกฯ ใช้วิธีลาออก?
ทำไมไม่บอกให้นายกฯใช้วิธี “ยุบสภา” ล่ะ?
ถ้า “ยุบสภา” กลัวใช่มั้ย กลัวหมดอาชีพ-หมดสถานะไว้เบ่งกล้าม
เลือกตั้งใหม่ ถ้าชาวบ้านเลือกพลเอกประยุทธ์กลับเข้ามาอีกละก็ จะเสียหน้า-เสียหมากันไปหมด จึงเบี่ยงไปใช้ทางให้นายกฯ ลาออก!?
พูดกันตามทำธรรมเนียมปฏิบัติ ตั้งแต่สภา ๒๔๗๕ เป็นต้นมา รัฐบาลแพ้โหวตกฎหมายสำคัญๆ ก็จะยุบสภา
ไปเลือกตั้งกันใหม่
ให้ประชาชนเป็นฝ่ายตัดสินใจ ว่าจะเอาใครมาเป็นรัฐบาลต่อ
ตั้งแต่นายกฯ “พลเอกพระยาพหลฯ” สภาสมัย ๒๔๗๕ มาจนถึงนายกฯ พลเอกประยุทธ์ สภาสมัย ๒๕๖๔ ไม่ปรากฏว่านายกฯ ลาออกตามนัยนี้
มีแต่ยุบสภา!
ลาออกด้วยเหตุผลอื่นพอมี เช่น สมัยพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกฯ บ้านเมืองเกิดปัญหาเศรษฐกิจ จนต้องลอยค่าเงินบาท
ลุกลามสู่วิกฤต “ต้มยำกุ้ง”
มีคนบางคนใช้ข้อมูลภายในก่อนลดค่าบาทไปกว้านซื้อดอลลาร์ ร่ำรวยบนความล่มจมประเทศ ไอ้คนนั้นถูกจารึกชื่อใส่หนังหมาไว้จนถึงทุกวันนี้
ตอนนั้น ถึงขั้นพูดตามภาษาชาวบ้านว่า “ฉิบหายขายประเทศ” พลเอกชวลิต แสดงสปิริต “ลาออก” จากนายกฯ
ประธานรัฐสภานั่งควบคุมการประชุมอยู่ขณะนี้แหละชื่อ “ชวน หลีกภัย”
ได้รับโหวตเป็น “นายกฯสมัยที่ ๒” เมื่อ ปี ๒๕๔๐ บริหารแก้วิกฤตและใช้หนี้ประเทศได้เกือบหมด
เหลือหนี้อยู่นิดหน่อย แล้วนายกฯ คนต่อมา หัวใสหรือหัวเหลี่ยมแกมโกงก็ไม่ทราบ
ไปกู้หนี้ดอกแพงๆ มาโปะล้างหนี้ดอกถูกๆ ที่ค้าง IMF อยู่นิดหน่อย แล้วโหมประโคมว่า
กูนี่แหละ เป็นนายกฯ กอบกู้อิสรภาพประเทศคืนมาจาก IMF!
นายกฯ “หน้าด้าน” คนนั้นคือใคร รู้มั้ย?
ผมจำไม่ได้ว่าใครหน้าด้าน จำได้แต่คนนั้น “หน้าเหลี่ยม!
เนี่ย….
มีครั้งเดี๋ยวที่นายกฯ ลาออก ด้วยสำนึกทางบริหารที่เป็นจริงทางล้มเหลว
นอกนั้น เมื่อเกิดเหตุขัดแย้งระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลหรือกฎหมายสำคัญๆของรัฐบาลถูกคว่ำในสภา
นายกฯ ก็จะ “ยุบสภา” เลือกตั้งใหม่ รวมทั้งหมดประมาณ ๑๓-๑๔ ครั้ง นับตั้งแต่ประเทศมีรัฐสภามา
เห็นทั้งหัวหน้าเพื่อไทยและลูกน้อง ท่องก่อนอาหารและหลังอาหารวันละ ๓ มื้อ “ให้นายกฯ ลาออก”
ก็อยากถามว่า สมัยรัฐบาลทักษิณ
ทำไมไม่บอกให้ทักษิณลาออกล่ะ ตอนถูกคนทั้งประเทศขับไล่ เมื่อปี ๒๕๔๙ นั่นน่ะ
กลับสนับสนุนให้ทักษิณยุบสภา เมื่อ ๒๔ กุมภา.๔๙ ทำเป็นจำไม่ได้ซะงั้น?
ทีตอนนี้ กลับบอกนายกประยุทธ์อย่ายุบสภา ให้ใช้วิธีลาออกแทน คงฝันเปียกจะได้จับขั้วเป็นรัฐบาลแทนนั่นละน่า
แต่ก็ฝันจนตาโหลไปเหอะ…
เห็นนายกฯ บอก 2 NO คือ โนออก และโนยุบ!
และที่หมาดๆ ๙ ธันวา.๕๖ ศพยังอุ่นๆ ความจำเลอะเลือนกันอีกซีละท่า
รัฐบาลยิ่งลักษณ์นั่นไง ถูกผู้คนมืดฟ้ามัวดินขับไล่ ที่ออกกฎหมายนิรโทษกรรมเหมาเข่ง “ลักหลับ” ตอนตี ๓ ตี ๔
เห็นจวนตัว ลนลานประกาศ……
“พี่น้องประชาชนที่เคารพคะ ดิฉันขอยืนยันอีกครั้งว่า ดิฉันไม่ติดยึดกับตำแหน่ง ยินดีที่จะยุบสภาฯ….”
ที่สลอนกันอยู่ตอนนี้ ก็สลอนอยู่รอบเอวตอนนั้น ทำไมไม่แนะให้ลาออกล่ะ ใช้วิธียุบสภาทำไม?
ที่รื้อฟื้นนี่ ไม่ได้หมายควาามว่าสนับสนุนให้นายกฯ ยุบสภา เพียงเห็นชอบพูดว่า “สภาผิดอะไรต้องยุบ ให้นายกฯ ใช้วิธีลาออกแทน” นั้น
อดไม่ได้ ขอขัดคอนิดเหอะ!
อยากบอกว่า ไปตั้งสาขาพรรคกันให้ครบตามกฎหมายแต่เดี๋ยวนี้เถอะ ปุบปับพรบ.งบฯ ผ่านเดือนกันยา.
นายกฯ ยุบสภาขึ้นมาละก็….
พรรคจะได้มีสิทธ์ส่งคนสมัครเป็นสส.ไงล่ะ!
