ไม่เด็ดขาด “ชาติอันตราย” #เปลวสีเงิน

เปลว สีเงิน

ช่วงนี้ ชาวบ้านบางส่วนยังเข้าใจว่า….

บ้านมืองบริหารโดย “รัฐบาลภูมิใจไทย” ที่มี “นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล” เป็นผู้นำบริหาร

ไม่ใช่หรอกครับ!

ยังอยู่ภายใต้การบริหารของ “รัฐบาลรักษาการ” ที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำโดย “นายภูมิธรรม เวชยชัย” นายกฯรักษาการ เป็นผู้นำบริหาร

เข้าใจว่าภายในสัปดาห์นี้ การฟอร์มครม. “รัฐบาลอนุทิน” น่าจะเรียบร้อย สู่การนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรี

และได้เข้าถวายสัตย์ปฎิญานต่อ “พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” ก่อนเข้ารับตำแหน่ง

นั่นคือ ภายในเดือนกันยา.นี้….

การแถลงนโยบายรัฐบาลใหม่ต่อรัฐสภาน่าจะเรียบร้อย เพื่อ เข้าปฎิบัติหน้าที่สืบต่อจากรัฐบาลรักษาการ

เหตุที่นำมาคุยนี่ เพราะเห็นตอนนี้มีการวิพากษ์-วิจารณ์เรื่อง “เปิดด่าน-ปิดด่าน” ชายแดนไทย-เขมร แบบเข้าใจสับสนในอำนาจบริหารกันมาก

ว่า “นายกฯ อนุทิน” นายกฯ คนใหม่ หรือ “นายภูมิธรรม” นายกฯ รักษาการ ใครกันแน่ เป็นผู้มีอำนาจสั่งการและตัดสินใจ?

คำตอบคือ ยังเป็นอำนาจตัดสินใจและสั่งการของ “นายภูมิธรรม” ครับ

นายกฯ อนุทิน ยังไม่มีอำนาจบริหาร ที่จะสั่งราชการงานเมืองใดๆ ได้ในตอนนี้!

ที่เห็น “พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์” ไปคุยกับ “พลเอก เตีย เซรย ฮา” รัฐมนตรีกลาโหมเขมร

และพูดถึงเรื่องเปิดด่านชายแดนด้าน “ตราด-จันทบุรี” เฉพาะส่งสินค้าตามที่ประเทศที่สามร้องขอ จนเกิดเสียงต่อต้านอื้ออึงทั้งคนกองทัพและประชาชนนั้น

ต้องเข้าใจว่า “พลเอกณัฐพล” ถึงแม้มีชื่อติดโผ “ครม.นายกฯอนุทิน” ก็ตาม

แต่ท่านยังปฎิบัติหน้าที่ รมช.กลาโหม ของรัฐบาลรักษาการ ที่ “นายภูมิธรรม” เป็นผู้ควบคุมนโยบาย สั่งการและตัดสินใจ ในฐานะ “นายกฯรักษาการ”

ฉะนั้น พลเอกณัฐพลท่านไปคุยกับพลเอกเตีย เซรย ฮา ฝ่ายเขมรมาอย่างไร นั่นก็เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลรักษาการ

ส่วน “จะเปิด-จะปิด” อยางใด ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ “คณะกรรมการสภาความมั่นคงแห่งชาติ” ที่นายภูมิธรรม เป็นประธาน

ตอนนี้ ไม่เพียงเสียงวิพากษ์คนในประเทศเท่านั้น “บล็อกเกอร์จีน” ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ยังร่วมวงด้วย

China Report ASEAN – Thailand เผยแพร่ในเว็บ ว่า

……………………………………………..

 China Report ASEAN – Thailand

“ถ้าไม่ให้เกียรติ ก็อย่าหวังว่าจะได้ความเกรงใจกลับไป”

บล็อกเกอร์รายนี้ สนับสนุนจุดยืนของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีไทย ที่ยังคงปิดด่านชายแดนกับกัมพูชา

โดยให้เหตุผลว่า

👉การตัดสินใจเปิดหรือปิดพรมแดน เป็น สิทธิอธิปไตยของรัฐบาลไทย ที่ไม่ควรถูกกดดันจากประเทศหรือองค์กรใด ๆ 

การเปิดด่านควรเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ สะท้อนเจตจำนงของประชาชนไทย มีการเจรจาอย่างเป็นทางการและอย่างเท่าเทียมกับรัฐบาลกัมพูชา

แต่ในขณะนี้ กัมพูชายังคงมีการกดดันทางทหารต่อไทย และนายฮุน เซน ยังเข้ามาแทรกแซงการเมืองไทย 

ถือว่าไม่ให้เกียรติไทย

จึงยากที่จะเห็นโอกาสของการเจรจาที่แท้จริง

บล็อกเกอร์ยังชี้ว่า ในทางปฏิบัติ การปิดด่านชายแดน ได้สร้างแรงกดดันอย่างยิ่งต่อประสิทธิภาพการทำงานของเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์และกลุ่มฉ้อโกงออนไลน์ในกัมพูชา

โดยเฉพาะการ ตัดไฟ–ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต ซึ่งทำให้กลุ่มเหล่านี้ทำงานได้ยากขึ้น

💬 เสียงจากชาวเน็ต:

1.บางคนวิจารณ์ว่า ฮุน เซน ยังคงเข้ามาแทรกแซงการเมืองไทย ซึ่งการเบิดด่านไม่ควรเกิดขึ้น เพราะเป็นการก้าวล่วงอธิปไตยของไทย

2.มีคอมเมนต์หนึ่งบอกว่า “ญี่ปุ่นใช้เหตุผลเรื่องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจมากดดันไทยให้เปิดด่าน ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ให้เกียรติ และเป็นการแทรกแซงอธิปไตยไทยซึ่งกัน”

3.บางคนยังตั้งข้อสังเกตว่า สื่อกัมพูชา มีการรายงานข่าว ความคิดเห็นจากรัฐบาลญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง ทำให้บรรยากาศเหมือนกับว่าไทยถูกบังคับให้ต้องยอมเปิดด่าน ซึ่งจะสร้างความเสียหายแก่ไทยด้วย

4.บางคนเชื่อว่ามาตรการใดๆ อย่างที่ปิดด่าน ที่สามารถกดดันและทำลายกลุ่มอาชญากรรมไซเบอร์เหล่านี้ได้ ควรเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายสนับสนุนอย่างเต็มที่

…………………………………………..

ครับ…ที่เอามาลง ก็เพียงสะท้อนให้เห็นปฎิกริยาสังคมโลกต่อเรื่องนี้เท่านั้น

“การค้า” กับ “ความมั่นคง” มันคือเหรียญ ๒ ด้าน ขาดด้านใด-ด้านหนึ่ง ทั้งธุรกิจ ทั้งความมั่นคง มันก็จะไม่เสถียร

แต่เมื่อเอาทั้ง ๒ ด้าน ก็มีปัญหา เอาเฉพาะด้านใด-ด้านหนึ่ง ก็มีปัญหา มันก็เป็นโจทย์ที่รัฐบาลใหม่ต้องรีบแก้

แล้วจะแก้ยังไงสู่ความสมดุล?

คำตอบสำหรับผม คือ ต้อง “เบ็ดเสร็จ-เด็ดขาด” ลงไป ในเวลาอันรวดเร็ว

ปล่อยให้ยืดเยื้อเรื้อรังแบบ “เล่นเอาเถิด” กันไปวันๆ จนนานเป็นเดือนๆแบบนี้ รังแต่ไทยเราเอง จะเสียหายทั้งขึ้น-ทั้งล่อง

อย่าลืม “ต้นทุนเขมร” ในสังคมโลก ทั้งด้านเศรษฐกิจการค้า-การลงทุน-การท่องเที่ยว-การเงิน เขาแทบไม่มี

ตรงข้ามกับเรา ความมั่นคง ความสะดวก-ความปลอดภัยในการค้า-การลงทุน-การเงิน มันมีความเสถียรที่สังคมโลกเชื่อถือ

ซึ่งตรงนี้แหละที่รัฐบาล “นายกฯ อนุทิน” ต้องบริหารด้วยการตัดสินใจที่เบ็ดเสร็จ-เด็ดขาด จะมาเล่น “เอาเล่อ-เอาเถิด” ไปอย่างนี้ไม่ได้

รัฐบาลกับกองทัพ ต้องประสานนโยบายสู่ปฎิบัติการที่ “ครบ-จบ-ชัด” อดคล้องต้องกัน

ขืน “เล่นบทสุภาพบุรุษกับโจร” รอให้เขมรมาตีกบาลก่อนแล้วค่อยตอบโต้ อย่างตอนนี้นานไป

ถึงจุดประชาชนเบื่อหน่าย-รำคาญขึ้นมา

หันหลังให้รัฐบาลและกองทัพวันไหน นั่นเท่ากับไทยแพ้ให้กับเขมรตลอดกาลวันนั้น!!!

“แนวหลัง” ของไทยในศึกชายแดน “ไทย-เขมร” ผมว่าในโลกนี้ มีแนวหลังที่ไทยแห่งเดียวเท่านั้นที่ “แข็งแกร่ง-จริงใจ-ทุ่มเท” ให้กับชาติกับทหารใน “แนวหน้า”

มีค่าควรเมืองเหนือกว่าสส.ทั้งสภาและรัฐบาลทั้งคณะซะอีก!

“กัน จอมพลัง-คุณบุ๋ม-ปนัดดา-เจ๊เอ๋ สระบุรี-ฝันดี-ฝันเด่น-บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” และอีกมากมาย จาระไนไม่หมด แม้กระทั้งพระสงฆ์องคเจ้า

ผมไม่สนใจที่มาว่า เขาเหล่านั้น เป็นใคร-มาจากไหน?

แต่ผมตกเป็นทาส “หัวใจ” ที่ยิ่งใหญ่ของพวกเขา

ที่อุทิศ-เสียสละทุกอย่าง เพื่อทหาร เพื่อชาติบ้านเมืองไทย และเพื่อประชาชนคนไทย โดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ

ถึงขั้น “ตัวตาย” เขาก็ยอม!

“วีรบุรุษ-วีรสตรี” แท้จริงของชาติ ไม่ใช่คนที่เอาจากแผ่นดินด้วยการโกงบ้าน-กินเมือง และเป็นไส้ศึกให้ต่างชาติ อย่างคนที่ยกย่องกันขณะนี้

ประชาชนผู้เป็น “แนวหลัง” ที่ให้กับชาติและแผ่นดิน คอยส่งกำลังบำรุงทุกอย่างให้ทหารใน “แนวหน้า” นี่แหละคือ “วีรบุรษ-วีรสตรี” แท้จริง

สุกปลั่งอยู่ในหัวใจไทยทุกคน โดยไม่ต้องปิดทอง!

นี่อีกผู้หนึ่ง ที่เขาควรอยู่ในความทรงจำของเราตลอดไป เขาคือใคร ท่านอ่านเอาละกัน

…………………………………..

รวมไอจีดารา

2 วันที่แล้ว “เฮียเจต” ยังทำหน้าที่คนไทย ทำโรงทานส่งให้ทหารแนวหน้า ใครจะคิดว่าการทำอาหารเพื่อชาติครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย

ขอแสดงความอาลัยกับการจากไปของเฮียเจต เจ้าของ “ร้าน ขายหมูต้นทอง” ผู้มีหัวใจใหญ่เกินกว่าฐานะ

ในวันที่ชายแดนเดือดร้อน “เฮียเจต” คือหนึ่งในชาวบ้าน จ.สุรินทร์ ที่แม้จะได้รับผลกระทบ แต่ก็ยอมสละเวลาและเงิน

ใช้หมูครั้งละ 600 กิโล ทำอาหารแจกแนวหน้าและผู้อพยพวันละ 5,000 กล่อง โดยไม่บ่นเหนื่อย เฮียเจตมักย้ำเสมอว่า

“เราอดได้ แต่ทหารต้องอิ่ม เพราะเขาเหนื่อยกว่าเรามาก”

และแม้ในวันสุดท้าย เฮียก็ยังลุกมาทำอาหารด้วยหัวใจอาสา…ก่อนจะหน้าวูบ

และ “จากไป” อย่างสงบ ระหว่างการปรุงอาหารเพื่อคนอื่น

แม้วันนี้ เส้นทางของเฮียเจตจะหยุดลง

แต่เรื่องราว ความดี และจิตใจอาสาจากชายคนนี้…จะยังคงเดินทางต่อไปในใจพวกเราตลอดไป

………………………………….

พี่เจต คือ “คุณเจษฎาพรรน ต้นทอง” ผู้ทุ่มเทเต็มที่ทั้งแรงกายแรงทรัพย์ เพื่อทหารแนวหน้า จนเมื่อ ๑๒ ก.ย.๖๘ ขณะทำอาหารส่งให้ทหารแนวหน้า เกิดวูบล้มลง

ทหารและทีมงานรีบเข้าไปช่วยนำตัวส่ง รพ.พนมดงรัก แต่ในที่สุด ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตพี่เจษฎาพรรน ไว้ได้!!!!…

……………………………..

ผมขออธิษฐานใจ จากการอุทิศ แรงกาย-แรงใจ ตลอดถึงชีวิต “เพื่อชาติบ้านเมือง” ของคุณเจษฎาพรรน ครั้งนี้

ขอเทวัญทุกชั้นฟ้า…..

จงลงมารับดวงวิญญานคุณเจษฎาพรรนไปสถิต ณ สรวงสวรรค์ ภพภูมิอันประเสริฐยิ่งๆ ขึ้นไปด้วยเถิด

สรุป เรื่องชายแดน-ไทยเขมร

พลเรือนไทย ต้องตายนับเป็นสิบ โดยเขมรไม่รับผิดชอบ

เมื่อยุติการสู้รบ เขมรแอบฝังกับระเบิดในเขตไทยจนทหารไทยขาขาด โดยเขมรไม่รับผิดชอบ

ในขณะที่ไทยไม่ทำให้พลเรือนเขมรตายแม้แต่คนเดียว

การเจรจา เขมรยอมรับทุกเรื่อง แต่ไม่เคยทำตามซักเรื่อง

ขณะเดียวกัน เขมรขุดสนามเพลาะ เสริมกำลังทหารตรึงตลอดแนว รอจังหวะไทยเผลอ

แล้วเพื่อนบ้านอย่างนี้ ไทยเป็นสุภาพบุรุษกับเขาได้มั้ย?

รู้มั้ย สัตว์ลิ้นสองแฉก อันตรายมันอยู่ตรงไหน?

คำตอบคือ“น้ำลาย คือพิษร้ายของตัวเหี้ย”!

เปลว สีเงิน

๑๕ กันยายน ๒๕๖๘

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ
Written By
More from plew
“ฝ่ายประชาธิปไตย”? – เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน อ้าว….. เห็นยกก้นตัวเองกันว่าเป็น “ฝ่ายประชาธิปไตย” แล้วประชาธิปไตยส้นเกือกอะไร (วะ) กลับปั่นจิ้งหรีดกันจัง……… ๓๐ กันยา.ถ้าศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ “ลุงตู่ไปต่อ” ขู่ฟ่อ….จะ...
Read More
0 replies on “ไม่เด็ดขาด “ชาติอันตราย” #เปลวสีเงิน”