โฆษกรัฐบาลยืนยันพ.ร.ก. เงินกู้ 5 แสนล้านบาท มีกรอบการใช้เงินชัดเจนโปร่งใส รองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจหลังการแพร่ระบาดโควิด-19 คลี่คลาย

นายอนุชาบูรพชัยศรีโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเผยว่า...ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม.. 2564 หรือที่เรียกกันสั้นๆว่าพรก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท

ซึ่งได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาและมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม2564 นั้นพรกฉบับดังกล่าวมีการกำหนดแผนการใช้เงินกู้อย่างชัดเจนโดยการใช้จ่ายต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์ภายใต้แผนงานหรือโครงการตามบัญชีแนบท้ายพระราชกำหนดซึ่งประกอบด้วย 3 แผนงานได้แก่

(1) แผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาการระบาดของ COVID-19 วงเงิน 30,000 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการแพทย์และสาธารณสุข การวิจัยและพัฒนาวัคซีนภายในประเทศ

(2) แผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือ เยียวยา หรือชดเชยให้แก่ประชาชนในทุกสาขาอาชีพ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 วงเงิน 300,000 ล้านบาท  เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน  ช่วยผู้ประกอบอาชีพและผู้ประกอบการ สามารถดำเนินธุรกิจได้ต่อเนื่อง

(3) แผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 วงเงิน 170,000 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับแผนงาน/โครงการ เพื่อรักษาระดับการจ้างงาน กระตุ้นการลงทุนและการบริโภค ทั้งนี้ ในกรณีจำเป็น คณะรัฐมนตรีสามารถอนุมัติปรับกรอบวงเงินภายใต้แผนงานหรือโครงการภายใน 3 วัตถุประสงค์นี้ได้ เพื่อให้การใช้จ่ายเงินสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

นอกจากนี้ รัฐบาลได้มีการกำหนดอย่างชัดเจนในพรก.ฉบับนี้ว่า เงินกู้ 5 แสนล้านบาทนี้ จะนำไปใช้เพื่อการอื่นนอกจาก 3 แผนงานดังที่กล่าวมาแล้วไม่ได้อย่างเด็ดขาด จึงขอให้ประชาชนได้มีความมั่นใจ ถึงเจตนาของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคโควิด-19 ในครั้งนี้อย่างแท้จริง และขอให้ประชาชนได้มั่นใจถึงความโปร่งใสในการใช้จ่ายเงินกู้ 5 แสนล้าน และเจตนาของรัฐบาลในการใช้จ่ายเงินกู้นี้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

สำหรับ พรก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจ และสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 .. 2563 หรือที่เรียกกันว่า พรก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาทนั้น  วันที่ 21 พฤษภาคม 2564 คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติโครงการแล้ว จำนวน 287 โครงการ รวมวงเงินทั้งสิ้น 817,223 ล้านบาท และได้มีการเบิกจ่ายแล้ว จำนวน  680,099 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 83.22 ของ วงเงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ  (GDP) ปี 2563 มีอัตราตัวเลขที่หดตัวในปริมาณที่ดีกว่าที่หลายหน่วยงานอย่างเช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือที่ IMF ได้คาดการณ์ไว้

นอกจากนี้ วงเงินกู้ส่วนที่ยังเหลืออยู่ใน พรก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาทนั้น รัฐบาลได้เตรียมการที่จะออกมาตรการเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจอื่นๆ ซึ่งได้รับการอนุมัติในหลักการจากครม.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เช่น โครงการคนละครึ่งระยะที่ 3,โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้” และโครงการช่วยเหลือประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ทั้งนี้กระทรวงการคลังจะเสนอรายละเอียดของโครงการเพื่อให้ครม.พิจารณาในระยะต่อไป

นายอนุชา กล่าวเพิ่มเติมว่า “สถานการณ์การระบาดของเชื้อ COVID-19 ในระลอกนี้เป็นที่ทราบกันดีว่า มีการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วและมีการติดเชื้อเป็นวงกว้างไปทั่วประเทศ ทำให้ประเทศไทยมีจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเพิ่มสู งขึ้น ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ รัฐบาลจึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องเตรียมงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อเตรียมการรองรับผลกระทบจากการระบาดระลอกนี้ และมีความจำเป็นที่ต้องออกพรก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาทนี้

เพื่อให้มีงบประมาณเพิ่มเติมสำหรับใช้ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอันเนื่องมาจากการระบาดของ COVID-19 เพื่อให้ระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศกลับมาสู่สภาวะปกติได้อย่างรวดเร็วรวมทั้งสามารถเติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืนภายหลังจากการระบาดของ COVID-19 บรรเทาหรือยุติลง”

ทั้งนี้ กรอบวงเงินกู้ 500,000 ล้านบาท ภายใต้ .. นี้เป็นกรอบวงเงินที่เหมาะสมที่จะดำเนินมาตรการทางการคลังเพื่อดูแลด้านการแพทย์และสาธารณสุข ช่วยเหลื อเยียวยา ตลอดจนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของของ COVID-19 ระลอกนี้ได้อย่างต่อเนื่องกับ ..เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท โดยคาดว่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยในช่วงปี 2564–2565 สามารถขยายตัวได้เพิมขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังยืนยันว่า การออกพรกเงินกู้ 5 แสนล้านบาทในครั้งนี้ จะส่งผลให้ประมาณการสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP อยู่ที่ร้อยละ 58.56 และยังอยู่คงภายใต้กรอบวินัยทางการคลัง ซึ่งรัฐบาลได้ระมัดระวังในการบริหารจัดการเงินกู้ ให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โดยที่บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับสากลยังคงมุมมองที่ดีต่อภาคการคลังที่แข็งแกร่งของประเทศไทยด้วย

Written By
More from pp
สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ อินโนบิก (เอเซีย) ลงนามความร่วมมือ “พัฒนาสูตรและกรรมวิธีการผลิตอาหารปั่นผสมชนิด UHT” สำหรับผู้สูงอายุ และผู้ป่วยที่ไม่สามารถทานอาหารปกติ
รองศาสตราจารย์ ดร.ชลัท ศานติวรางคณา ผู้อำนวยการ สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล และดร.บุรณิน รัตนสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและธุรกิจใหม่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท อินโนบิก...
Read More
0 replies on “โฆษกรัฐบาลยืนยันพ.ร.ก. เงินกู้ 5 แสนล้านบาท มีกรอบการใช้เงินชัดเจนโปร่งใส รองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจหลังการแพร่ระบาดโควิด-19 คลี่คลาย”