“ควรมีคนเช่นนี้อยู่หรือ?” – เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

หมู่นี้ ขบวนการล้มเจ้า “โจมตีสถาบัน” หนัก
ถึงขั้น “ปั้นข่าวเท็จ” เอาดื้อๆ
ว่า “พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” และ “สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พระบรมราชินี” ทรงพระประชวร
เขียนเป็นตุ-เป็นตะ ว่าทรงพระประชวรด้วยพระอาการโรคนั้นๆ ประทับรักษาพระองค์อยู่โรงพยาบาลนั้นๆ เผยแพร่ทางออนไลน์
แน่นอนละ ในสังคมเสพข่าวซึ่งหลากหลายระดับชั้นความคิด
“ข่าวเท็จ” หรือ “เฟกนิวส์” ลักษณะนี้
ย่อมอยู่เหนือชั้นปัญญากรองของผู้คน จึงแพร่ไปได้เร็วมาก

คนส่วนหนึ่งเชื่อ ส่วนหนึ่งกึ่งเชื่อ-กึ่งไม่เชื่อ และอีกส่วนไม่เชื่่อเลย รู้ว่าเฟกนิวส์ คนประสงค์ร้ายสร้างขึ้น
แต่กระนั้น ด้วยวิสัยสังคมเชิงรวม ไม่แพร่ต่อก็เท่ากับแพร่กรายๆ ผ่านทางคำปรารภ คำรำพึง ที่มีต่อกัน

“ไวรัส” เป็นอาวุธอย่างหนึ่ง ทำลายมนุษย์-ทำลายสังคมได้ง่าย คู่มากับโลก ยากปราบให้ราบคาบได้
“ข่าวเท็จ-เฟกนิวส์” ก็เช่นนั้น ใช้เป็นอาวุธ “ทำลายมนุษย์-ทำลายสังคม” ได้ง่าย แต่ปราบยากไม่ต่างกัน

เพราะเหตุนี้………
เมื่อนักศึกษาและมวลชนจัดตั้งที่ปฏิบัติการผ่านสามสัส, ผ่านแก๊งจานมหา’ลัยและพรรคฝ่ายค้าน พัง-แพ้พ่ายไป ในเกม ๓ นิ้ว ลงถนน

ไอ้หัวหน้าขบวนการใต้เงินทุนโทนาฟและเจ้าพ่อชีสเค้ก มันรู้แล้ว ว่าแผน “ปลุกมวลชน” ของมัน ล้มเหลว
เพราะประชาชน “ไม่เอาด้วย”!
“มาสคอตทอน” ที่สร้างเป็นสัญลักษณ์ของอนาคตใหม่ ก็กลายเป็นมาสคอต “อนาคตคนปัญญาอ่อน”
จำห่ะ..อะไรไม่ได้เลย!

ปลุกเสก “รุ่นใหม่ต้องนำชาติ” ผ่านนิสิต-นักศึกษา “ตุ๊กตาไขลาน” ของแก๊งจาน’มหาลัย ออกมาปลุกระดมให้คนรุ่นใหม่ เห่อ
“เห่อ” พักเดียวแล้ว “ม่อย”
พวกนำ เลยกลายเป็น “ตุ๊กตาเสียกบาล” ไป!

แถมถูกเก็บเข้าคุกระหว่างคดีไปทีละตัว-สองตัว แต่ไม่เป็นไร บัญชีบริจาคเดินสะพัดดี จนเหล่าเพ็ดดีกรี “แย่งกันติด”
เพราะ “ติดแล้วรวย”!

สร้างการ์ดเป็นหน่วยรบ คอยประจัญบานตำรวจ เป็นตะกวดกวนเมือง ข่มขู่ให้สังคมจิตตก ประกอบฉากชุมนุม และคอยสุมไฟจลาจล
ก็ HEE โหว่ ไปอีก!

เมื่อหมดตัวเล่น ตัวแลน-ตัวเล็น “รุ่นเดอะ” ทั้งไอ้แก่-ไอ้หนุ่ม ที่ซุ่มหลุบหัว-ซ่อนหาง ซุกอยู่ตามมหา’ลัย
ค่อยๆ โผล่ออกมาประจานตัวเองว่าอยู่เบื้องหลังศิษย์งั่งรุ่นเยาว์เหล่านั้น ใช้ตำแหน่ง’จานมาประกัน ด้านๆ ก็ยังเอา

ใช้ยี่ห้อสถาบันที่ซุกหัวเป็นศักดิ์ศรีอันตัวเองไม่มี ทำบัญชีปริมาณ ไปกดดันสังคมบ้าง ศาลบ้าง ให้ปล่อย-ให้ประกัน
สังคมประสานเสียง จานพวกนี้ “เสียหมา”….

เมื่อ “เสียหมา”………
เท่ากับ ไม่มีทั้งราคา-ทั้งศักดิ์ศรี เป็นได้แค่ “เพ็ดดีกรี” ในโซ่กระตุกของ “โทนาฟ” และเจ้าพ่อ “ชีสเค้ก” เท่านั้น!

เมื่อหมดไพ่เล่น……
มันจึงสร้าง “เกมต่อเกม” ในปฏิบัติการ “ล้มเจ้า-เปลี่ยนระบอบ”

“เจียมหงอก” นั้น ตัวมันยังเอาไม่รอด ใช้ลีลา “ขงบ้ง” ก่อนตาย ด้วยการเชิดหุ่น “หลอกเด็ก”
“เพจเจียม” นั้น อาจใช่

แต่ข้อความนั้น เจียมอาจไม่ได้เขียน “แก๊งเจียม” คนใด-คนหนึ่ง อาจ “เขียนในนาม” ก็เป็นไปได้
เพราะเฟก “ดิบๆ ดื้อๆ” แบบนั้น
มันเสียเชิงชั้น “เจียมหงอก” ลูกพี่ดอกเตอร์ตูลุสอย่างปิยบุตรมาก!

ในเรื่องข่าวสาร เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ อาจอ่านกันจาก หลายที่-หลายทาง
ถ้าอยากรู้ว่า “ข่าวไหนจริง-ข่าวไหนเฟก” ผมมีหลักให้ยึด

ถ้าข่าวไหน ……..
-ไม่ใช่ “ข่าวในพระราชสำนัก”
-ไม่ใช่ “แถลงการณ์สำนักพระราชวัง”
ฟังได้-อ่านได้ แต่อย่าเชื่อ

ให้ประเมินไว้ก่อนเลยว่า”เฟกนิวส์”
แต่ข่าวไหนเป็น “ข่าวในพระราชสำนัก” และ “แถลงการณ์สำนักพระราชวัง”
นั่นคือ “ข่าวจริง” เชื่อได้ ๑๐๐%

แต่ทีนี้ “ขบวนการล้มเจ้า” มันสร้างข่าวเท็จเกี่ยวกับสถาบันถี่ยิบ แทบทุกวัน
ครั้นไม่อ่าน….
มันก็ลอยมาทิ่มตา ทางไลน์, เฟซบุ๊ก, ยูทูป, อินสตาแกรม, ทวิตเตอร์, เว็บไซต์ แล้วจะทำไง?
มันก็ยากอยู่ แต่วิธีรับมือมันก็มี

หลัก “ธัมมะวิจะยะ” หรือ “ธรรมวิจัย” ของพระพุทธองค์นั่นไง
“พระธรรมปิฎก” (ป.อ.ปยุตฺโต) ให้คำขยายแบบสรุปว่า
“หมายถึงการการใช้ “ปัญญาสอบสวน” พิจารณาสิ่งที่สติกำหนดไว้ หรือนำเสนอ ให้เข้าใจ และเห็นสาระความจริง”

ตัวอย่างจากเรื่องนี้ อ่านแล้วใช้สติกำหนด จากนั้น ใช้ปัญญาสอบสวน
จะเห็น “สาระความจริง” ทันที นี่…ข่าวเท็จ ๑๐๐%

มีคนแสร้งปล่อย หวังให้บ้านเมืองเกิดเหตุสับสน เพื่อขบวนการล้มเจ้า จะได้ฉวยจังหวะนั้น “ซ้ำเติม” สถานการณ์
สู่จุดหมายของเขา….

“ล้มเจ้า-เปลี่ยนระบบประเทศ” ตามแผนโทนาฟและชีสเค้ก!
ยุโรป-สหรัฐฯ มี “ยิว-ไซออนิสต์” บงการ-ชักใย สู่ความเป็น “รัฐบาลโลก”

ไทยเรามี…
มีขบวนการ “โทนาฟิสต์” ที่ “ยิว-ไซออนิสต์” เป็นแบ็คดอร์ให้อีกที “บงการ-ชักใย” ขณะนี้ไง!
เพราะเฟกนิวส์นี้ ใช้สติจับ-ปัญญากรอง จะเห็นชัด ขั้นแรก หน้าตาเพจ ตัวอักษร แม่ค้าออนไลน์ยังทำได้เนี๊ยบกว่า

ไม่มีชื่อสำนักข่าว ทั้งข่าว “ไม่มีที่มา-ที่ไป” “เขียนเอง-เออเอง” ลอยๆ เฉพาะ ๓ นิ้ว มีเชื้อโง่ พร้อมเชื่อ อยู่แล้ว
แต่ขอกล่าวถึง ๒ ท่าน ผู้มีเกียรติ ที่ฉกฉวยบรรยากาศเฟคนิวส์นั้น โพสต์ตามน้ำ ด้วยข้อความอัน “ไม่สมควร” ยิ่ง
“นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล” ส.ส.ก้าวไกล โพสต์ ว่า

“มีที่ไหน ขนาดคิดว่าเป็นแค่ข่าวลือก็ยังดีใจ good night”

และ “รศ.ดร.ยุกติ มุกดาวิจิตร คณะสังคมวิทยา และมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ว่า
“ข่าวลือ ถ้าไม่จริง ก็แปลงเป็น คำสาปแช่ง แล้วกันครับ”

คนหนึ่ง เป็นถึงสมาชิกสถาบันนิติบัญญัติ “แกนหลัก” ๑ ใน ๓ แกนประเทศ
อีกคน เป็นจานมหา’ลัยที่สังคม “เคย” ยอมรับในความเป็น “สถาบันมาตรฐาน” ประเทศ

แต่คุณทั้ง ๒ กระทำเกินคำต่ำทรามใดๆ ใช้เปรียบ!
คุณจะเคารพในสถาบันหรือไม่เคารพ เป็นสิทธิเฉพาะตัวคุณ
แต่การแสดงออกทางสาธารณะเช่นนั้น ถ้ามีสำนึกทางวุฒิภาวะและสำนึกความเป็นเป็นพลเมืองของชาติ
คุณทั้ง ๒ จะต้องไม่ทำเช่นนั้นแน่!

นางอมรรัตน์ ในฐานะสส.แค่ความรู้พื้นฐาน ก็ต้องรู้แล้วว่า มีความน่าจะเข้าข่ายละเมิดรัฐธรรมนูญ มาตรา ๖
นอกจากรัฐธรรมนูญ ยังเข้าข่ายตาม “พรบ.มาตรฐานทางจริยธรรมฯลฯ” พศ.๒๕๖๑

หมวด ๑ “มาตรฐานทางจริยธรรมอันเป็นอุดมการณ์” ข้อ ๕,๖ และ ๗ ซึ่งเข้าลักษณะ “ผิดร้ายแรง” ซึ่งโดยสถานะก็ต้องรู้
อาจคิดว่า “เรื่องเจตนา” ทางกฎหมายพิสูจน์ยาก ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร

แต่ผมเห็นคุณเป็นคนไทย ก็อยากบอก “กฎหมายทางใจไม่มี” แต่ “นรกทางใจ” นั้น มีแน่และยาวนาน!
ส่วน “รศ.ดร.ยุกติ”

โอ๊ะ…เรียนสูงระดับดอกเตอร์ แตกฉานวิชาความรู้ถึงขั้นรองศาสตราจารย์ เป็นอาจารย์มหา’ลัย
คนเช่นนี้ “สเปกธรรมศาสตร์” อย่างนั้นละซีท่า?

ถึงได้คัดเอาหัวกระเด็นตามตำราเข้ามาเป็นอาจารย์โดยไม่ให้ค่า ว่าคนนั้นๆ “มีความเป็นคน” ในร่างด้วยหรือไม่?
คำที่ท่าน รศ.ดร.ยุกติ โพสต์นั้น ….
ความไร้ค่า “ความเป็นคน” ของท่าน มันกลบทับราคาคำว่า ดร.และรศ.ไปสิ้น!

“ธรรมศาสตร์สอนให้ฉันรักประชาชน”

แต่วันนี้ รศ.ดร.ยุติ สอนศิษย์-สอนสังคม ให้เป็น “เดรัจฉานทางสำนึก” เยี่ยงเขา ตามคำโพสต์

ไม่อยากใช้คำว่า ทุกวันนี้ จาน’ธรรมศาสตร์พวกหนึ่ง กำลังใช้ธรรมศาสตร์ สอนศิษย์-สอนประชาชนให้ “ล้มเจ้า”!
มหา’ลัย “ไม่ผิดหวัง” ที่ไม่ได้ผลิตผมเป็นบัณฑิต

แต่ผมผิดหวัง…..
ที่มหา’ลัย “ผลิตบัณฑิต” อย่างจานพวกนี้ออกมา!

 

Written By
More from plew
อันตรายกว่า “สารอันตราย”
วันนี้ คุยเรื่องหนักหัว ก็รู้…ท่านไม่อยากอ่านเรื่องทำนองนี้ซักเท่าไหร่ แต่อยากให้ฝืนซักนิด เพราะมันไม่เพียงเป็น “ห่วงโซ่ชีวิต” ที่ทุกคน ทั้งรู้ตัว-ไม่รู้ตัว ล้วนอยู่ในนั้นแล้ว
Read More
0 replies on ““ควรมีคนเช่นนี้อยู่หรือ?” – เปลว สีเงิน”