29 มี.ค. 64 เวลา 09.30 น. เวลา 11.30 น. ณ บริเวณทางเชื่อมตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2564 ถึงความก้าวหน้าการดำเนินการของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ว่า
รัฐบาลมุ่งเน้นการจัดที่ดินให้ประชาชน และเตรียมความพร้อมในการจัดสรรพื้นที่เป้าหมายให้ครบ 76 จังหวัด พร้อมดูแลพื้นที่ซับซ้อนหรือที่ยังติดขัดด้วยข้อกฎหมายต่าง ๆ โดยยึดหลักเกณฑ์การปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐ (One map) และเรื่องความเป็นธรรมให้กับประชาชน นายกรัฐมนตรีย้ำขอให้ทุกคนเคารพกฎ กติกาด้วย
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียังตอบคำถามที่อยู่ในความสนใจของสื่อมวลชนย้ำว่า ฝ่ายความมั่นคงได้ติดตามรูปแบบของการพัฒนาการเมืองในเมียนมาร์เพราะเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีดินแดนติดกันซึ่งมีผลกระทบด้วยกันทั้งหมด รัฐบาลพิจารณาและเตรียมพร้อใดำเนินการอย่างไปขั้นเป็นตอนต่อไป
นายกรัฐมนตรียังยืนยันว่า ปวงชนชาวไทยจะต้องได้รับสิทธิเสรีภาพตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด แต่ต้องไม่ลืมว่ามีผลกระทบต่อบุคคลอื่นหรือไม่ ซึ่งต้องมองทุกอย่างให้ครบถ้วนคือ วันนี้ หลักการบริหารราชการแผ่นดินต้องยึดความถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งการดำเนินคดีต่างๆ เป็นการพิจารณาผ่านกระบวนการยุติธรรม
กรณีเจ้าหน้าที่ขอคืนพื้นที่กลุ่มหมู่บ้านทะลุฟ้าเพราะมีการร้องเรียนเรื่องปัญหาเสียงดังรบกวน ซึ่งโรงเรียนได้มีการร้องเรียนมา ปัญหาการจราจรที่ติดขัด ปวงชนชาวไทยต้องได้รับการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพในการสัญจรไปมา จึงขอให้ทุกคนทำความเข้าใจในการขอคืนพื้นที่ด้วย
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีเรือยักษ์ขวางคลองสุเอซ ว่า ประเทศไทยอาจได้รับผลกระทบเล็กน้อยในด้านการขนส่งสินค้าทั่วไป เช่น การส่งมอบล่าช้า หรือค่าขนส่งที่สูงขึ้นเนื่องจากการขนส่งจะต้องอ้อมไปใช้อีกเส้นทางหนึ่ง รัฐบาลจะดำเนินการหามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการนำเข้าส่งออกสินค้า หากสถานการณ์คลี่คลายได้เร็ว ก็ไม่น่าจะได้รับผลกระทบมากนัก
ในส่วนของพลังงานยังไม่ได้รับผลกระทบ โดยขณะนี้ ปตท. มีคาร์โก้น้ำมันดิบจากลิเบีย 1 คาร์โก้ ซึ่งได้ขายให้ยุโรปเรียบร้อยแล้ว และทางด้านก๊าซ LNG ผู้ขายจะต้องจัดหามาให้ครบและหาเส้นทางนำส่งให้ได้ตามสัญญา ด้านการค้าขายและส่งออกสินค้าไทยไปยุโรปอาจจะเสียเวลาเพราะใช้เส้นทางอ้อม
ในกรณีที่มีสินค้าติดค้างอยู่ในคลองสุเอซอาจจะต้องรอประมาณ 10-12 วัน เนื่องจากจะต้องลำเลียงตู้คอนเทนเนอร์ออกจากเรือ ทั้งนี้ รัฐบาลได้ติดตามแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิด โดยได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เตรียมความพร้อมในการแก้ไขปัญหาเรียบร้อยแล้ว